ฉบับที่ 193 การเลือกซื้ออาหารสุนัข

สุนัขเป็นเพื่อนแท้ของมนุษย์ สำหรับคนที่เลี้ยงสุนัขต่างก็ยืนยันถึงความซื่อสัตย์และความน่ารักไร้เดียงสา ที่สร้างความประทับใจให้กับคนเลี้ยงสุนัขแทบทุกคน วัตถุประสงค์ของการเลี้ยงสุนัขปัจจุบันก็แตกต่างจากสมัยก่อน ปัจจุบันการเลี้ยงสุนัข ไม่ได้เน้นให้สุนัขเฝ้าบ้าน แต่เลี้ยงเหมือนกับสุนัขเป็นสมาชิกในครอบครัวของเราเอง การให้อาหารของสุนัขในปัจจุบัน มีช่องทางให้เลือกมากมาย จนทำให้ผู้เลี้ยงสุนัขประสบปัญหาในการตัดสินใจเลือกอาหารให้กับสุนัข สำหรับการเลี้ยงสุนัขในเมืองใหญ่ที่ผู้เลี้ยงต้องการความสะดวกสบาย อาหารสุนัขแบบสำเร็จจึงเป็นทางเลือกของคนรักสุนัขที่ตอบโจทย์ดังกล่าว ปัจจุบันมีอาหารสุนัขแบบสำเร็จมากมายหลายยี่ห้อ บทความนี้ได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นในการประกอบการตัดสินใจเลือกซื้ออาหารสุนัขแบบสำเร็จรูปที่เหมาะสมกับสุนัขของเรา สิ่งที่ต้องคำนึงในการเลือกอาหารสุนัข(สำเร็จรูป)ได้แก่ 1 อาหารแบบเปียกหรือแบบแห้งที่ทำให้สุนัขแข็งแรงอาหารทั้งสองแบบเหมาะกับสุนัข จากข้อมูลทางวิชาการพบว่า สุนัขมักจะไม่ค่อยมีปัญหากับอาหารแบบแห้ง2 ปริมาณของเนื้อสัตว์ที่ผสมในอาหาร สำหรับประเด็นนี้ ความสำคัญไม่ได้ขึ้นกับปริมาณหรือชนิดของเนื้อสัตว์ที่ผสมในอาหารสำเร็จรูป แต่ควรพิจารณาถึง คุณค่าทางโภชนาการโดยรวม สำหรับวิตามิน A นั้น จะพบในตับที่ผสมในอาหารสุนัข แคลเซียมจะมีอยู่ในกระดูกบด และ โปรตีนมีอยู่ในเครื่องใน ปัญหาปัจจุบันฉลากของอาหารสุนัขสำเร็จรูปก็ไม่ได้ระบุถึงส่วนผสมที่ชัดเจน การตรวจสอบส่วนผสมของอาหารสุนัขก็เป็นเรื่องที่ยากในทางวิชาการเพราะ อาหารสุนัขผ่านกระบวนการบดและแปรรูปมาแล้ว3 ธัญพืชหรือแป้งที่เป็นส่วนผสมในอาหารสุนัขไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการย่อยในสุนัข เพียงแต่ไม่สามารถรับประกันได้ถึงสารเคมีอันตรายที่ปนเปื้อนในธัญพืช เช่น โลหะหนัก แคดเมียม ปรอท หรือ อัลฟาทอกซิน4 ควรเลี้ยงสุนัขด้วยอาหารดิบ (BARF: Bone and Raw Foods) หรือไม่โดยทั่วไป สุนัขสามารถย่อยอาหารดิบไม่ว่าจะเป็น เนื้อสัตว์หรือพืชสด ได้ดี แต่การเลี้ยงด้วยอาหารดิบอย่างเดียวอาจทำให้เกิดปัญหาโภชนาการ สุนัขอาจได้รับสารอาหารบางตัวขาดหรือเกินได้ ดังนั้นผู้เลี่ยงควรปรึกษาและสอบถามสัตวแพทย์ในเรื่องอาหารที่เลี้ยงสุนัข นอกจากนี้ในอาหารดิบอาจพบเชื้อโรคที่ทำให้สุนัขเจ็บป่วยได้5 อาหารกระป๋อง หลังจากที่เปิดกระป๋องให้อาหารสุนัขแล้ว ส่วนที่เหลือควรเก็บไว้ในตู้เย็น กรณีที่นำอาหารที่เหลือจากการเก็บในตู้เย็น มาให้สุนัข ควรนำมาปล่อยให้อาหารมีอุณหภูมิเท่ากับอุณหภูมิห้องก่อนนำไปเลี้ยงสุนัข6 สำหรับการซื้ออาหารสุนัขขนาดถุงใหญ่ (15 กิโลกรัม) ควรแบ่งถ่ายอาหารในภาชนะปิดสนิทที่สามารถเก็บอาหารให้สุนัขได้ 3 วัน เพราะการเปิดปิดถุงอาหารสุนัขบ่อยๆ ทำให้อากาศเข้าไปในถุงและทำให้อาหารสุนัขเสื่อมสภาพได้ง่าย นอกจากนี้ ไม่ควรใช้อาหารเลี่ยงสุนัขที่เกินกว่า 6 สัปดาห์หลังเปิดถุงครั้งแรก

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 193 การขอสินเชื่อของผู้บริโภค กับข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม

สวัสดีครับท่านผู้อ่าน  ในฉบับนี้ เราจะมาคุยกันถึงเรื่องสิทธิผู้บริโภคด้านสัญญากันครับ ก่อนอื่นต้องถามก่อนว่าใครไม่เคยยืมเงินบ้าง เชื่อว่าส่วนใหญ่ก็คงมีประสบการณ์ในการไปกู้หนี้ยืมสินกันบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ แต่สำหรับวันนี้ผมขอกล่าวถึงการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน  ซึ่งเวลาที่เราจะไปซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ เรามักจะไปทำเรื่องขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินกันใช่ไหม แต่ก่อนลงชื่อในสัญญา มีท่านใดอ่านเอกสารตอนทำสัญญาทุกข้อบ้าง ผมเชื่อว่าน้อยคนนักจะอ่านโดยละเอียด ซึ่งก็แน่นอนว่า สถาบันการเงินมักจะซ่อนข้อสัญญาที่ทำให้เราเสียเปรียบอยู่ด้วย เช่นกันกับคดีที่จะยกตัวอย่างมาให้ทุกท่านศึกษา เป็นเรื่องของลูกค้าธนาคารแห่งหนึ่งที่ไปขอสินเชื่อกับธนาคาร และได้ทำสัญญากู้เงิน สัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี และสัญญากู้เงินประเภทวงเงินกู้หมุนเวียนในการใช้วงเงินสินเชื่อ โดยได้ทำบันทึกข้อตกลงยินยอมชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้แก่ธนาคาร และก็ได้ชำระเงินกู้และใช้วงเงินสินเชื่อโดยเบิกถอนจากบัญชีและชำระหนี้ตลอดมา จนอยู่มาวันหนึ่ง เขาไม่ประสงค์จะกู้เงินและใช้วงเงินสินเชื่ออีกต่อไป จึงแจ้งธนาคารขอชำระหนี้ปิดบัญชีและไถ่ถอนหลักประกัน ธนาคารจึงได้แจ้งยอดหนี้และคิดค่าธรรมเนียมการยกเลิกวงเงินสินเชื่อกู้เบิกเงินเกินบัญชี เงินกู้หมุนเวียนและหนังสือค้ำประกัน ในอัตราร้อยละ 2 ของวงเงินสินเชื่อที่ขอยกเลิก  ลูกค้าท่านนี้เขาเห็นว่าการคิดค่าธรรมเนียมการยกเลิกวงเงินดังกล่าวไม่เป็นธรรม จึงทำหนังสือโต้แย้งธนาคารและขอสงวนสิทธิที่จะเรียกคืน แต่เมื่อได้มีการชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวไป จึงได้มีหนังสือทวงถามให้ธนาคารคืนเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าว แต่ปรากฎว่าธนาคารก็เพิกเฉยไม่คืน ทำให้เขาไปฟ้องคดีต่อศาล และศาลฏีกาได้ตัดสินให้ธนาคารคืนเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าว เนื่องจากข้อตกลงให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการยกเลิกวงเงินไม่เป็นธรรม ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 4904/2557คำพิพากษาฎีกาที่ 4904/2557“ พ.ร.บ. ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540 มาตรา 4 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้ข้อตกลงในสัญญาระหว่างผู้บริโภคกับผู้ประกอบธุรกิจการค้าหรือวิชาชีพ หรือในสัญญาสำเร็จรูป หรือในสัญญาขายฝากที่ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจการค้าหรือวิชาชีพ หรือผู้กำหนดสัญญาสำเร็จรูป หรือผู้ซื้อฝากได้เปรียบคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเกินสมควร เป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และให้มีผลบังคับได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณีเท่านั้น ตามบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวได้แยกข้อตกลงในสัญญาระหว่างผู้บริโภคกับผู้ประกอบธุรกิจการค้าหรือวิชาชีพ กับข้อตกลงในสัญญาสำเร็จรูป เป็นคนละส่วนกัน ทั้งนี้โดยคู่สัญญาในสัญญาสำเร็จรูปไม่จำต้องเป็นสัญญาระหว่างผู้บริโภคกับผู้ประกอบธุรกิจการค้าหรือวิชาชีพ เมื่อพิจารณาเอกสารสัญญาสินเชื่อแต่ละประเภทและบันทึกแล้ว เห็นได้ว่าเป็นการจัดทำโดยใช้แบบพิมพ์สัญญา และบันทึกข้อตกลงที่จำเลยเป็นผู้กำหนดขึ้นล่วงหน้าและนำไปใช้ได้กับลูกค้าทั่วไปที่ขอสินเชื่อประเภทเดียวกันจึงเป็นสัญญาสำเร็จรูป ซึ่งการจะพิจารณาว่าข้อตกลงในสัญญาสำเร็จรูปดังกล่าวเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าข้อตกลงนั้นเป็นผลให้ผู้กำหนดสัญญาแต่ละประเภทและบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งกำหนดให้จำเลยเรียกค่าธรรมเนียมการยกเลิกวงเงินสินเชื่อ เป็นข้อตกลงที่ให้สิทธิจำเลยผู้กำหนดสัญญาสำเร็จรูปเรียกค่าธรรมเนียมจากโจทก์คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งได้ทุกกรณี ไม่ว่าโจทก์จะใช้วงเงินสินเชื่อหรือไม่ อย่างไร  จึงเป็นข้อตกลงที่ให้สิทธิจำเลยเรียกร้องหรือกำหนดให้โจทก์ต้องรับภาระเพิ่มขึ้นมากกว่าภาระที่เป็นอยู่ในเวลาทำสัญญามีผลให้โจทก์รับภาระเกินกว่าที่วิญญูชนจะพึงคาดหมายได้ตามปกติ เป็นข้อตกลงที่อาจถือได้ว่าทำให้จำเลยได้เปรียบโจทก์ ตาม พ.รบ. ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540 มาตรา 4 วรรคสาม (5) จึงเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และให้มีผลบังคับได้เพียงเท่าที่เป็นธรรม และพอสมควรแก่กรณีนั้น แม้โจทก์จะทำสัญญาสินเชื่อแต่ละประเภทและบันทึกข้อตกลงด้วยความสมัครใจ โดยจำเลยคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยที่จำเลยประกาศเรียกเก็บจากลูกค้าทั่วไป และโจทก์ได้รับประโยชน์ในรูปของดอกเบี้ยที่ลดลงตลอดมา แต่เมื่อพิจารณาบันทึกข้อตกลงในส่วนของวงเงินตามสัญญากู้เงินที่ตกลงให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 1 ของจำนวนเงินกู้ หากโจทก์ชำระคืนต้นเงินก่อนครบกำหนดระยะเวลา 3 ปี ซึ่งดอกเบี้ยตามสัญญากู้เงินดังกล่าว จำเลยคิดในอัตราต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยที่จำเลยประกาศเรียกเก็บจากลูกค้าทั่วไปเช่นเดียวกัน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎว่าโจทก์ใช้วงเงินสินเชื่อแต่ละประเภทมาเกินกว่า 3 ปี โดยเสียดอกเบี้ยให้จำเลยมาตลอด ถือได้ว่าจำเลยได้รับผลตอบแทนจากการใช้วงเงินสินเชื่อของโจทก์มาพอสมควรแก่กรณีแล้ว หากกำหนดให้โจทก์ต้องชำระค่าธรรมเนียมการยกเลิกวงเงินสินเชื่อให้จำเลยอีกย่อมไม่เป็นธรรมแก่โจทก์ จำเลยจึงต้องคืนเงินค่าธรรมเนียม การยกเลิกวงเงินสินเชื่อให้แก่โจทก์” จากตัวอย่างคดีข้างต้น  ชี้ให้เห็นความสำคัญของการคุ้มครองสิทธิด้านสัญญา  โดยเฉพาะสัญญาสำเร็จรูปที่ผู้ประกอบธุรกิจทำขึ้นฝ่ายเดียว โดยเราไม่มีโอกาสแก้ไขข้อสัญญา เราต้องตรวจสอบสัญญาก่อนลงลายมือชื่อทุกครั้ง และหากพบว่ามีข้อสัญญาไม่เป็นธรรม ทำให้เราเสียเปรียบ ก็ควรเรียกร้องโต้แย้งไว้โดยทำเป็นหนังสือให้ปรากฎหลักฐาน อย่างเช่นในคดีนี้ที่โจทก์พบว่าหลังจากทำสัญญาสินเชื่อกับธนาคาร  ตนถูกธนาคารเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการยกเลิกวงเงินสินเชื่อที่ไม่เป็นธรรม ก็ต่อสู้จนได้เงินคืนในที่สุด 

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 193 เพชรกลางไฟ : ศักดิ์ศรีของคนอยู่ที่การกระทำ...ไม่ใช่สายเลือด

อันว่าละครโทรทัศน์แนวพีเรียดหรือแนวย้อนยุคนั้น ถือเป็นเนื้อหาละครที่จำลองภาพชีวิตของตัวละครที่เวียนว่ายอยู่ในอดีต หรือช่วงพีเรียดหนึ่งๆ ที่บรรพชนของเราเคยดำเนินชีวิตมาก่อน การจำลองภาพอดีตฉายผ่านละครแนวนี้ ด้านหนึ่งก็คือการย้อนกลับไปดูภาพฝันวันวานที่คนในทุกวันนี้ได้ผ่านพ้นและอาจลืมเลือนไปเสียแล้ว แต่ในอีกด้านหนึ่ง ละครย้อนยุคก็เป็นประหนึ่งบทเรียนให้คนยุคปัจจุบันได้ทบทวนตนเอง โดยมองผ่านกระจกภาพชีวิตของตัวละครที่ถูกวาดขึ้นในยุคสมัยก่อนที่ผู้ชมจะถือกำเนิดขึ้นมาเสียอีก ในท่ามกลางสังคมปัจจุบันที่ผู้คนมีแนวโน้มจะสนใจสิ่งที่เรียกว่า “เปลือก” มากกว่า “แก่น” หรือชื่นชมกับ “ความผิวเผิน” มากกว่า “ความลุ่มลึก” ละครพีเรียดอย่าง “เพชรกลางไฟ” ก็คืออีกหนึ่งภาพที่ฉายออกมา เพื่อเชื้อเชิญให้ผู้ชมได้ทบทวนความเป็นจริงแห่งยุคสมัยดังกล่าว ละครได้ย้อนยุคกลับไปในราวสมัยรัชกาลที่ 6 ที่แม้ว่าฉากหลังของละครจะเป็นเรื่องราวความขัดแย้งทางการเมืองของสังคมไทยสมัยนั้น แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว เบื้องลึกเบื้องหลังกว่านั้นก็คือฉากความขัดแย้งทางการเมืองที่อยู่ในครอบครัวของชนชั้นนำในยุคดังกล่าว โดยละครได้เลือกนำเสนอภาพผ่านชีวิตตัวละครหลักอย่าง “หม่อมเจ้าหญิงอุรวศี” หรือ “หญิงหลง” ผู้เป็นบุตรีลำดับสุดท้ายของ “เสด็จในกรมฯ” เมื่อพระบิดาสิ้นพระชนม์ อุรวศีก็ถูก “หม่อมต่วน” ผู้เป็นหม่อมใหญ่กีดกันไม่ให้เธอเข้าไปยุ่งเกี่ยวที่ตำหนักใหญ่ เพราะหม่อมต่วนเกลียดชัง “หม่อมสลวย” มารดาเลือดสามัญชนของอุรวศี ที่มาพรากความรักของเสด็จในกรมฯไปจากเธอ ไม่เพียงเท่านั้น เพราะหม่อมสลวยได้ล่วงรู้ความลับของหม่อมต่วนที่เคยวางแผนฆ่า “หม่อมพิณ” หญิงที่เป็นคนรักอีกคนของเสด็จในกรมฯ จนตายอย่างเหี้ยมโหดทารุณ เธอจึงหาทางฝากฝังอุรวศีไว้กับ “เสด็จพระองค์หญิง” ผู้เป็นเสด็จป้า ในขณะที่หม่อมสลวยเองก็ผูกข้อมือเป็นภรรยาของ “บุญทัน” ไปอยู่ที่ปากน้ำโพ เพื่อหลีกหนีไปจากวังวนอำนาจของหม่อมต่วนเสีย ชะตาชีวิตของอุรวศีที่ขาดซึ่งบิดาและมารดาในเวลาไล่เลี่ยกัน เธอจึงต้องโดดเดี่ยวยืนหยัดต่อสู้กับคลื่นลมและพายุฝนที่ซัดพาเข้ามาหาแบบระลอกแล้วระลอกเล่า เพื่อจะพิสูจน์ให้เห็นว่า แม้จะอยู่ท่ามกลางความโหดร้ายของโลกรอบตัว แต่ทว่า “เพชรแท้” อย่างอุรวศี ก็ยังคงเป็น “เพชรกลางไฟ” อยู่วันยังค่ำ คลื่นลมระลอกแรกก็คงหนีไม่พ้นมหันตภัยจากตัวหม่อมต่วน ที่แม้จะมั่งคั่งในทรัพย์ศฤงคาร และเติบโตมาในศักดิ์ชั้นที่สูงกว่าหม่อมใดๆ ของเสด็จในกรมฯ แต่เพราะโลภจริตและโมหจริตช่างไม่เข้าใครออกใคร ดังนั้นหม่อมต่วนจึงคอยจองล้างจองผลาญกลั่นแกล้งอุรวศีในทุกทาง แผนการของหม่อมต่วนเริ่มตั้งแต่กีดกันอุรวศีออกจากกองมรดกของเสด็จในกรมฯ และอัปเปหิเธอไปอยู่ที่เรือนปั้นหยาหลังเล็กนอกเขตขัณฑ์ของวังใหญ่ จากนั้นก็ช่วงชิง “หม่อมเจ้าสุรคม” ที่กำลังจะหมั้นกับอุรวศีให้มาเสกสมรสกับ “หม่อมเจ้าหญิงอรุณวาสี” บุตรีคนเล็กของเธอแทน ไปจนถึงการวางแผนให้บ่าวเผาเรือนปั้นหยาจนวอด เพื่อหวังคลอกอุรวศีให้สิ้นชีวิตอยู่ในกองเพลิงนั้น ส่วนคลื่นลมระลอกถัดมาก็คือบรรดาพี่สาวต่างมารดาอย่าง “หม่อมเจ้าหญิงติโลตตมา” หรือ “หญิงกลาง” และ “หม่อมเจ้าหญิงอทริกา” หรือ “หญิงนิด” ที่ “ลูกไม้หล่นใต้ต้น” ของหม่อมต่วน และเฝ้าคอยใส่ความกลั่นแกล้งหาเรื่องอุรวศี เพื่อให้เธอไม่อาจทนอยู่ในวังของเสด็จพระองค์หญิงต่อไปได้ และคลื่นลมระลอกสุดท้าย ก็สืบเนื่องมาแต่ความรักและจิตปฏิพัทธ์ที่อุรวศีมีให้กับ “อนล” พระเอกหนุ่มแสนดีแต่ชาติกำเนิดอยู่ต่างศักดิ์ชั้น และมีผู้หญิงอีกคนอย่าง “ดวงแข” ที่หมายปองครองคู่เขาอยู่ อุรวศีจึงต้องเลือกสงวนท่าทีและเก็บงำความในใจ เพียงเพราะฐานันดรศักดิ์ที่ค้ำคอและเป็นกำแพงขวางกั้นรักของเธอและเขาเอาไว้ แม้จะมีคลื่นลมกระหน่ำซ้ำเข้ามาเพียงใด และแม้อุรวศีจะไม่ได้มีอำนาจหรือทุนทรัพย์โภคทรัพย์มากมายที่จะไปต่อกรกับพลพรรคของหม่อมต่วน หญิงกลาง หญิงนิด หรือแม้กับดวงแข แต่ด้วยที่เธอมีปัญญา มีคารม และมีการกระทำที่ยึดหลักคุณธรรมความดี ก็เป็นประหนึ่งอาวุธให้อุรวศีได้ใช้ต่อสู้เพื่อยืนหยัดอยู่ท่ามกลางพายุวิกฤติที่ถาโถมเข้ามา เพราะพระบิดาปลูกฝังให้รักการอ่านหนังสือตั้งแต่วัยเยาว์ อุรวศีจึงมีปัญญาที่เฉียบคมและวาจาที่เฉียบแหลม จนสามารถเอาตัวรอดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปัญหาได้ทุกครั้งครา และเพราะการกระทำที่ตั้งมั่นในความดี อุรวศีก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า คุณค่าแท้ๆ ของ “เพชร” ที่จะเจิดจรัสอยู่ “กลางไฟ” ได้นั้น พึงเป็นเช่นไร เหมือนกับที่ครั้งหนึ่งอุรวศีได้ใช้คารมย้อนยอกและเชือดเฉือนหม่อมต่วนกับลูกๆ ว่า “ศักดิ์ศรีของคนอยู่ที่การกระทำ...ไม่ใช่อยู่ที่สายเลือดแต่อย่างใด” เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะมีศักดิ์ชั้นแบบใด มนุษย์เราก็มีทั้งดีและเลวปะปนกันไป ในหมู่บ่าวไพร่ที่มีศักดิ์ชั้นต้อยต่ำ ก็จะมีตัวละครตั้งแต่ “สร้อย” และ “ผิน” ที่ยึดถือคุณธรรมความดีของอุรวศีจนตัวตาย ไปจนถึงตัวละครอีกฝั่งฟากอย่าง “แปลก” ที่จงรักภักดีอยู่ในมิจฉาทิฐิของหม่อมต่วนแบบไม่ลืมหูลืมตา เฉกเช่นเดียวกับในกลุ่มของสตรีที่สูงซึ่งศักดิ์ชั้นอย่างธิดาของเสด็จในกรมฯ ก็มีตั้งแต่ภาพของอุรวศีที่ฉากจบได้เลือกจะมีความสุขในมุมเล็กๆ กับอนล แบบไม่ต้องยึดติดกับลาภยศเงินทองแต่อย่างใด กับภาพที่ตรงข้ามกันของหญิงกลางและหญิงนิดที่เมื่อสิ้นหม่อมต่วน พี่น้องก็ห้ำหั่นกันจนตกอยู่ในวังวนของการแก่งแย่งทรัพย์สมบัติที่บุพการีได้สั่งสมกันมา หากละครย้อนยุคเป็นดั่งกระจกที่ย้อนฉายให้คนปัจจุบันได้ทบทวนอุทาหรณ์จากชีวิตตัวละครในอดีตแล้วนั้น อย่างน้อยเราคงเข้าใจได้ไม่ยากว่า การที่คนยุคนี้จะนับถือกันเพียงเพราะ “เปลือกอันผิวเผิน” อาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องเท่าใดนัก เมื่อเทียบกับ “แก่นอันลุ่มลึก” ที่แฝงฝังอยู่เนื้อในคนแต่ละคนมากกว่า  เพราะบทเรียนของผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างอุรวศีได้ให้ข้อเตือนใจว่า การกระทำของคนต่างหากที่จะบ่งบอกว่า “เพชรกลางไฟ” เยี่ยงไรก็ยังสามารถฉายแสงได้ไม่เสื่อมคลาย

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 193 วิธีลดรถบนถนนวันละ 20 เปอร์เซ็น เป็นธรรมกับทุกคน

คนจำนวนมากทั้งขับรถและไม่ขับรถยนต์รู้สึกเหมือนกันว่า รถติดมาก ทั้งทางปกติ และบนทางด่วนกว่าจะชำระค่าทางด่วนได้บางวันใช้เวลาเกือบชั่วโมงทั้งที่ระยะทางเพียง 500 เมตร หากเป็นประเทศอาเจนตินา เราทุกคนคงขึ้นทางด่วนฟรีทุกวัน หลายหน่วยงาน ทั้งรัฐบาลกลาง กรุงเทพมหานคร ตำรวจทางด่วน  หน่วยงานจราจร หรือการทำงานหนักของตำรวจจราจร ระบบไฟอัตโนมัติ ก็ไม่ช่วยให้ภาวะรถติดคลี่คลายลงไปได้เลยหลายคนต้องหลีกเลี่ยงการเดินทาง ออกจากที่พักเช้ามากกว่าเดิม และกลับก่อนเวลา หรือกลับหลังจากที่ทุกคนกลับไปแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำให้ส่วนใหญ่รู้สึกว่ารถเบาบางลง ทุกวันๆ  คนส่วนใหญ่ยังมีความทุกข์จากรถที่ติดเพิ่มมากขึ้น ยังไม่นับรวมคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจที่เสียหายไปในแต่ละวัน ทางออกเดียวที่จะทำให้การจราจรในกรุงเทพมหานครดีขึ้น ยืนยันว่าต้องเป็นการลงมือปฏิบัติการของผู้บริโภคที่ขับรถเท่านั้น หากใช้วันคู่วันคี่ หลายคนบอกว่า คนรวยไม่ได้รับผลกระทบเพราะมีรถทั้งคู่และคี่(จริง) บริษัทรถยนต์ได้ประโยชน์เพราะคนจะซื้อรถมากขึ้น ทว่าหากเรามัวแต่คิดเหตุผลเล็กๆ แล้วไปเบียดบังข้อเท็จจริงว่า ปัญหารถติดในกทม. เราต้องเป็นคนลงมือทำ เพราะหากทำจริงจำนวนรถในท้องถนนกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะหายไปเกือบ 50% ปัญหารถติดในกรุงเทพมหานคร ผู้ว่ากทม. นายกรัฐมนตรี คสช. ก็เอาไม่อยู่ เพราะจำนวนรถมีมากกว่าถนน แทนที่เราจะมีความทุกข์ทุกวันจากปัญหารถติด  หากเราทุกคนจะทดลองเสียสละร่วมกัน หยุดขับรถกันคนละวันต่อสัปดาห์ ก็จะทำให้รถหายไป 20% บนถนนทุกวัน โดยไม่ต้องมีมาตรการจำกัดเขตเพราะระบบขนส่งที่ยังไม่สมบูรณ์ทำให้จำกัดการขับรถเข้าชั้นในได้ลำบาก เช่นโดยหากมีเลขทะเบียน 1 และ 2 ลงท้าย ขอให้หยุดขับรถวันจันทร์ หากมีเลขทะเบียน 3 และ 4 ลงท้าย ขอให้หยุดขับรถวันอังคารหากมีเลขทะเบียน 5 และ 6 ลงท้าย ขอให้หยุดขับรถวันพุธหากมีเลขทะเบียน 7 และ 8 ลงท้าย ขอให้หยุดขับรถวันพฤหัสหากมีเลขทะเบียน9 และ 0 ลงท้าย ขอให้หยุดขับรถวันศุกร์ ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็พักผ่อนตามสบายใครใคร่ขับรถก็ขับจำนวนรถก็ลดลงไป 20%  แถมเป็นมาตรการที่เป็นธรรมกับทุกคนที่มีรถยนต์ด้วย เราน่าจะตัดสินใจลองพยายามกันดู ในส่วนของบริการขนส่งสาธารณะ เช่น ขสมก. ต้องรีบปรับปรุงบริการมากขึ้น  รวมไปถึงบรรดารถตู้ รถเมล์ร่วม สามารถช่วยกันแก้ไขปัญหาร่วมกันได้ เพียงแต่ต้องทำเร่งด่วนพร้อมกัน

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 193 วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดภาวะฉุกเฉิน

เทศกาลสงกรานต์กำลังมาเยือนในปี 2560 หลายคนอมยิ้มกับเทศกาลนี้เพราะได้หยุดยาวหลายวันทีเดียว ซึ่งบางคนวางแผนกลับบ้านต่างจังหวัด หรือบางครอบครัววางแผนท่องเที่ยว สิ่งที่สำคัญของเทศกาลนี้คือการเดินทาง ไม่ว่าจะวางแผนในเรื่องใดก็ต้องมีการเดินทางเกิดขึ้น และการเดินทางทุกครั้งจะต้องระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ที่ทุกคนอาจจะสนุกสนานจนลืมนึกถึงความปลอดภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้โดยไม่ได้คาดหมาย เมื่อเกิดอุบัติเหตุก็จะมีการบาดเจ็บร่างกายขึ้น  ฉบับนี้ผู้เขียนจึงนำแอพพลิเคชั่นที่จะสามารถช่วยเหลือในเบื้องต้นเกี่ยวกับปฐมพยาบาลที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นั่นคือ แอพพลิเคชั่น EMS 1669 ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ. ได้รับการสนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส, โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสอนวิธีการปฏิบัติการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับร่างกาย วิธีใช้แอพพลิเคชั่นนี้ง่ายมาก เมนูจะปรากฏทั้งหมด 5 หมวด ได้แก่ หน้าแรกหมวดเรียกรถพยาบาล ภายในหน้านี้จะปรากฏปุ่มวงกลมสีแดงสำหรับกดเรียกรถพยาบาลเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หมวดที่สองจะเป็นวิธีปฏิบัติเมื่อเกิดภาวะฉุกเฉิน จะมีข้อมูลปฐมพยาบาลเบื้องต้น อย่างเช่น วิธีการปฏิบัติเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมอุดกั้นทางเดินหายใจ วิธีปฏิบัติเมื่อผู้บาดเจ็บหมดสติกะทันหัน การเกิดอาการชัก อาการหัวใจวาย โรคลมแดด โรคหอบหืด เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถผู้ปฐมพยาบาลสามารถปฏิบัติได้อย่างทันถ่วงที หมวดที่สามจะเป็นการเรียนรู้การคัดแยกภาวะฉุกเฉิน เพื่อเรียนรู้การรับมือกับอาการต่างๆ ที่จะเกิดกับผู้บาดเจ็บ ซึ่งส่วนท้ายของแต่ละอาการภายในหมวดนี้จะมีการรวบรวมคำถามคำตอบที่มีประโยชน์ไว้  หมวดที่สี่เป็นหมวดคัดแยกภาวะฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ปฐมพยาบาลสามารถตัดสินใจและประเมินสถานการณ์ โดยแอพพลิเคชั่นจะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้นเพื่อให้เป็นหลักในการประเมินว่าเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตที่ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนหรือไม่หมวดสุดท้ายเป็นหมวดโรงพยาบาล โดยภายในหมวดนี้จะรวบรวมโรงพยาบาลที่อยู่บริเวณโดยรอบ พร้อมที่อยู่ เบอร์ติดต่อ ระยะทางจากจุดเกิดเหตุไปยังโรงพยาบาล และแผนที่การเดินทาง เส้นทางการเดินทางที่เชื่อมต่อกับ google map ได้ทันที นอกจากนี้ได้รวบรวมโรงพยาบาลทุกจังหวัดในประเทศโดยมีทั้งโรงพยาบาลรัฐบาลและโรงพยาบาลเอกชนลองดาวน์โหลดมาศึกษาและเรียนรู้การปฏิบัติตนในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นกันนะคะ เพื่อเป็นความรู้และสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คือทุกครั้งที่มีการเดินทางควรมีความระมัดระวังควบคู่ไปด้วยกัน

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 193 รู้เท่าทันปลิงบำบัด

กระแสความตื่นตัวเรื่องปลิงบำบัดในไทยเกิดขึ้นเมื่อ 3-4 ปีก่อน  ถ้าเราเข้าไปดูในยูทูปจะเห็นการใช้ปลิงบำบัดเต็มไปหมด ใช้ตั้งแต่การรักษาสิว แผลติดเชื้อ ไมเกรน  ในเว็บไซต์สุขภาพจำนวนมากใช้ปลิงบำบัดสารพัดโรค ตั้งแต่ ผมร่วง หัวล้าน ข้อเข่าอักเสบ หัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน การได้ยิน ต้อหิน เหงือกอักเสบ ความดันเลือดสูง แม้กระทั่งมะเร็ง  ดาราดังในฮอลีวูดเช่น เดมี่ มัวร์ ก็เคยใช้ปลิงในการล้างพิษในเลือดเมื่อปีค.ศ. 2008  ปัจจุบันดาราฮอลลีวูดมีการใช้ปลิงบำบัดในการทำให้ใบหน้ากลับมาเต่งตึงโดยไม่ต้องผ่าตัด  เรามารู้เท่าทันปลิงบำบัดกันเถอะความเป็นมาของปลิงบำบัด การใช้ปลิงบำบัดมีมานานหลายพันปี ตั้งแต่เริ่มต้นเกิดอารยธรรมเมือง  เมืองโบราณเช่น อียิปต์ อินเดีย กรีก และอาหรับ มีการใช้ปลิงในการรักษาโรคโดยการเอาเลือดออกจากร่างกาย เพราะเชื่อว่าเป็นการเอาเลือดเสียหรือเป็นพิษออกไป จึงใช้ในการรักษาโรคผิวหนัง ระบบประสาท ความผิดปกติของระบบขับปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์ การอักเสบ โรคฟัน การบันทึกเกี่ยวกับปลิงบำบัดที่เก่าแก่ที่สุดอยู่ในคำภีร์ศูสรุตสัมหิตตา เขียนขึ้นโดย ศูสรุตในปี ค.ศ. 800 ก่อนคริสตกาล โดยกล่าวว่าเป็นวิธีการเอาเลือดออก ใช้ในการรักษาโรคผิวหนัง อาการปวดร้าวไปที่ขา และอาการปวดกล้ามเนื้อ   เขาอธิบายว่า ปลิงมี 12 ชนิด เป็นพิษ 6 ชนิด และไม่เป็นพิษ 4 ชนิด การแพทย์แผนไทยก็มีตำราแผนปลิง และได้ประกาศเป็นตำราการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ แต่พบว่า แพทย์แผนไทยไม่มีประสบการณ์การใช้ปลิงรักษาเหมือนแพทย์อายุรเวทของอินเดียปลิงรักษาโรคได้อย่างไร เมื่อเร็วๆ การศึกษาจำนวนมากพบว่า ในน้ำลายของปลิงประกอบด้วยสารโปรตีนจำนวนมาก ได้แก่ แอนติทรอมบิน (สารต้านการแข็งตัวของเลือด สารสำคัญมีชื่อว่า ฮิรูดิน ทำให้ปลิงบำบัดมีชื่ออีกชื่อว่า Hirudin Therapy)  แอนติเพลตเลต สารต้านแบคทีเรีย และอื่นๆ อีกมาก  การพบว่ามีสารต้านการแข็งตัวของเลือดทำให้ปลิงบำบัดหวนกลับมาเป็นวิธีการรักษาที่นิยมอีกครั้งเพื่อใช้รักษาโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง โรคติดเชื้อ  ในคริสตศตวรรษที่ 20 วงการศัลยกรรมตกแต่งและจุลศัลยกรรมเริ่มใช้ปลิงบำบัดในการป้องกันการบวมจากหลอดเลือดดำ และการต่อนิ้วและเนื้อเยื่อต่างๆ  ปัจจุบันเริ่มมีการใช้เพื่อความงาม  ในปีค.ศ. 2004  สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของอเมริกา ได้รับรองการใช้ปลิงเป็นอุปกรณ์การรักษาทางการแพทย์อย่างหนึ่งปลิงรักษาโรคได้จริงหรือไม่  รายงานการวิจัยจำนวนมากในวารสารวิชาการ PubMed ของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา และการทบทวนของห้องสมุด Cochrane ยืนยันประสิทธิผลการรักษาด้วยปลิงบำบัด โดยเฉพาะในการรักษาข้อเสื่อม ช่วยลดอาการปวด การเคลื่อนไหวของข้อดีขึ้น และลดการติดขัดของข้อ  การทบทวนพบว่า มีการใช้ในการบำบัด ฝีหนอง ต้อหิน เส้นเลือดดำอุดตัน  และมีการใช้ในศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อแก้ปัญหาการไหลเวียนของเลือด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีงานวิจัยที่ยืนยันประสิทธิผลการรักษาด้วยปลิง แต่ยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยและผลแทรกซ้อนของการใช้ปลิงบำบัด เพราะยังคงมีปัญหาแทรกซ้อนจากการใช้ปลิงบำบัดอยู่ โดยเฉพาะการติดเชื้อ เลือดไหลไม่หยุด และผู้ใช้ขาดความรู้ความชำนาญ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 192 หนึ่งมีค่ามากกว่าศูนย์

ในทางคณิตศาสตร์ หนึ่งมีค่ามากกว่าศูนย์เป็นอนันต์ เป็นหลักคิดให้กำลังใจคนเล็กคนน้อยให้ลุกขึ้นมาใช้สิทธิร้องเรียน เรียกร้องในฐานะปัจเจกชนลุกขึ้นมาปฏิบัติการทางสังคมให้มากขึ้น หลายกรณีเล็กๆ นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงทางสังคม นับตั้งแต่เรื่องง่ายๆ ใกล้ตัว เมื่อถูกเรียกเก็บเงินจากเอสเอมเอส ต้องยืนยันว่า ไม่ได้สมัคร ไม่ยอมให้หักเงิน ถึงแม้บริษัทจะโยกโย้หาเหตุผลว่า เป็นบริการของหน่วยงานอื่นที่มาร่วมกับบริษัท บริษัทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งที่โดยข้อเท็จจริงโอเปอร์เรเตอร์ทุกรายได้ส่วนแบ่งงามๆ นี้ และเป็นไปไม่ได้ที่บริษัทอื่นจะมีสิทธิในการใช้โครงข่ายโทรคมนาคมเหล่านี้เด็ดขาดหากไม่ได้รับอนุญาตหรือเจอสิ่งแปลกปลอมในอาหาร ไม่ว่าจะในน้ำผลไม้ อาหารแบรนด์หรูทั้งหลาย ขอให้ถือว่าได้รับโชค มีตัวอย่างผู้บริโภคได้รับการชดเชยในระดับหมื่นบาท เพราะฐานความผิด “อาหารไม่บริสุทธิ์” ตาม พ.ร.บ.อาหาร มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากร้องเรียนหน่วยงานมักจบลงด้วยการตรวจโรงงานอุตสาหกรรมและท้ายที่สุดก็แจ้งผู้บริโภคว่า ผลการตรวจสอบโรงงานไม่พบสิ่งผิดปกติ ทุกขั้นตอนมีมาตรฐาน แต่ผู้บริโภคได้ความเจ็บใจหัวหอกเหล่านี้ ทั้งอดทน ต่อสู้ หลายเรื่องกว่าจะเป็นข่าวในโทรทัศน์ ในสังคมออนไลน์ ได้ผ่านขั้นตอนการต่อรอง การเรียกร้องจากผู้ประกอบการมาอย่างยากลำบาก หลายกรณีเลิกร้องเรียนบริษัท หรือหน่วยงานรัฐ หันมาต่อสู้ในพื้นที่ของตนเอง ใช้การโพสต์ข้อมูลเปิดเผยในเพจหรือเฟซบุกส์ของตนเองหรือบริษัท แต่ก็ไม่น้อยเจอการถูกแจ้งความดำเนินคดี เช่น ประธานเครือข่ายผู้ป่วยโรคไตโพสต์เตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อรักษาไตวายเรื้อรังได้กรณีคุณแก้มหอม การโพสต์เรื่องอาหารเจอสิ่งแปลกปลอมที่เป็นข่าวเนืองๆการเริ่มต้นดำเนินการ และกระทำอย่างต่อเนื่องในเรื่องที่เราต้องการเปลี่ยนแปลง ย่อมเห็นผลในท้ายที่สุด มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยชื่อสินค้าเพื่อให้ผู้บริโภคใช้เป็นข้อมูลในการเลือกซื้อสินค้า ที่กลายเป็นวัฒนธรรมการเปิดเผยข้อมูล ส่งผลต่อแบบแผนการผลิตสินค้า ช่วยยกระดับมาตรฐานและคุณภาพของสินค้าและบริการ ขณะนี้ได้รับการยอมรับและได้รับความร่วมมือจากทั้งหน่วยงานรัฐและผู้ประกอบการเหมือนกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ ที่คุณประสิทธิชัย หนูนวล คุณหมอสุภัทร ฮาสุวรรณกิจ และคณะอีกมากมาย ริเริ่ม ช่วยกันทำให้สังคมเกิดความเข้าใจได้มากกว่านายกรัฐมนตรี ที่ให้ข้อมูลว่า ถ้าไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินจะขาดแคลนไฟฟ้าในภาคใต้ แต่หากไปดูข้อมูลจากกฟผ. จะพบว่า กำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้นในเดือนธันวาคม 2559 มีถึง 41,556.25 เมกกะวัตต์ ขณะที่ใช้ไฟฟ้าสูงสุดในเดือน พ.ค. 2559 สูงสุด เพียง 29,618.80 เมกกะวัตต์ และเดือน ธ.ค. ปีเดียวกัน 26,145.30เมกกะวัตต์ ทำให้มีไฟฟ้าสำรองในระบบมากถึง 37% ซึ่งกระทบต่อค่าไฟฟ้าของผู้บริโภคทุกคน รวมทั้งอันตรายของถ่านหินต่อสุขภาพของคนในชุมชน ส่งผลต่อภาวะโลกร้อนชัดเจน ทุกคนเห็นได้จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงมากมายทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกทำอย่างไรจะให้มีกลไกสนับสนุนให้ผู้บริโภค พลเมือง ได้มีโอกาสลงมือปฏิบัติการมากขึ้น หยุดคิดว่า เราคนเดียวเล็กๆ ทำอะไรคงทำไม่ได้ การลงมือของเราไม่ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลง เช่น การมองเรื่องรถติดในกรุงเทพมหานคร ที่มักจะมองกันว่า ถึงเราไม่ขับรถคนอื่นก็ขับ เราเลิกขับรถคนเดียวคงไม่ส่งผลอะไร ทำให้ทุกคนคิดแบบนี้ จนรถเต็มท้องถนนในกรุงเทพฯ ความคิดนี้หากนำมาปฏิบัติการและมีขบวนการสนับสนุนอย่างจริงจัง สามารถเป็นทางออกในการแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพมหานครได้มากทีเดียว แทนที่จะรอ คสช.และผู้ว่ากรุงเทพมหานคร

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 192 น้ำปลา

ผลิตภัณฑ์คู่ครัวไทยและอีกหลายชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ ลาว กัมพูชา เป็นเครื่องจิ้มที่ขาดไม่ได้ เรียกว่าอร่อยทั่วภูมิภาคแต่ถ้าไปสืบค้นทางโบราณคดี การนำปลามาหมักเกลือนั้นเป็นการถนอมอาหารที่มีมานานแล้ว หลายชนชาติเขาก็ทำกันมา ในยุโรปกรีกเป็นชาติแรกที่ทำน้ำปลาเป็นผลิตภัณฑ์หรูหราระดับเลี้ยงชนชั้นสูง พวกโรมันก็รับไม้ต่อไป แต่การหมักปลาเพื่อเป็นน้ำปลานั้น กว่าจะย่อยปลาจนเป็นน้ำใสๆ ได้ ต้องหมักกันเป็นปี คนในแถบยุโรปเลยชอบกินแบบปลาหมักเกลือระยะกลางอย่างปลาเค็มฝรั่ง หรือ แองโชวี มากกว่า ส่วนบ้านเราการทำปลาหมักเกลือก็เป็นวิถีพื้นบ้านอยู่แล้ว ทั้งปลาร้า ปลาเจ่า ภาคใต้เองก็มีน้ำเคย ซึ่งใช้สร้างรสเค็มในอาหารแต่ดั้งเดิม น้ำปลาแบบปัจจุบันบางตำราจึงว่า อาจได้จากวิธีการของคนจีน แต่บางคนก็คิดว่า อาจจะเป็นการเผลอหมักปลาร้านานไปหน่อยก็ได้ จนปลาเปื่อยยุ่ยเป็นน้ำน้ำปลาอย่าไปคิดว่าพื้นที่ ที่ใกล้ทะเลจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ เพราะกล่าวกันว่าคนภาคกลางที่มีแม่น้ำสำคัญหลายสายนี่แหละเป็นตัวจริง เราคงเคยได้ยินว่าน้ำปลาจากปลาสร้อยอร่อยมาก แต่คงหากินไม่ง่ายแล้วเพราะปลาสร้อยแทบจะหาไม่ได้อีกแล้ว ปลาทะเลเลยเข้ามาแทนที่ ปลาทะเลไทยที่นิยมกันว่าทำน้ำปลาได้อร่อยก็ต้องยกให้ปลากะตักและปลาไส้ตัน โรงงานที่ทำน้ำปลาใส่ขวดจำหน่ายรายแรกมีอายุมากกว่า 100 ปีแล้ว ก็เริ่มจากการหมักปลากะตักนั่นเองน้ำปลาดี ต้องดีตั้งแต่ปลา วิธีการหมัก ระยะเวลา ตลอดจนอุณหภูมิและภาชนะที่หมักบ่ม ของเวียดนามน้ำปลาที่อร่อยนั้นถึงกับต้องฝังภาชนะลงดิน ในน้ำปลาจะมีโปรตีนเป็นสารอาหารหลัก และมีวิตามิน บี 12 สูง แต่สำหรับคนที่มีปัญหาโรคไต ความดัน ก็เพลาน้ำปลาลงนิดนึงเพราะโซเดียมก็สูงเช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 192 คนละขอบฟ้า : การข่มขืนไม่ใช่เพียงแค่เรื่องเพศวิถี

สังคมของเราได้อุปโลกน์มาช้านานให้ “การข่มขืน” มีความหมายว่า เป็นเรื่องของเพศวิถี หรือเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการล่วงละเมิดทางเพศของมนุษย์และที่สำคัญ ในแง่ของเพศวิถีแบบนี้ การข่มขืนก็มักจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ชายใช้ “อำนาจ” ที่เหนือกว่าคุกคามทางเพศเพื่อขืนใจผู้หญิง จนสยบยอมทั้งกาย วาจา ใจ และนั่นก็จะกลายเป็น “บาดแผล” ในจิตใจของผู้หญิงที่เกินกว่าจะเยียวยาได้ทั้งนี้ วิธีคิดต่อการข่มขืนดังกล่าวได้ถูกขานรับโดยสถาบันใหญ่น้อยมากมายในสังคม สถาบันกฎหมายและนิติศาสตร์ก็อธิบายความผิดของการข่มขืนว่า ต้องเกิดเนื่องแต่การกระทำทางเพศที่ชายขืนกายและใจของอิสตรีเป็นพื้นฐาน หรือสถาบันครอบครัวก็ใช้เรื่องการข่มขืนเพื่อพร่ำสอนลูกสาวให้เป็นกุลสตรีที่ต้องรักนวลสงวนตัว อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน และยึดถือพรหมจารีย์เป็นสรณะเมื่อกาลเวลาผันผ่าน สังคมเราก็เริ่มตั้งคำถามขึ้นมาใหม่ว่า จริงแล้วหรือที่การข่มขืนเป็นเพียงเรื่องของเพศวิถี หรือการที่บุรุษคุกคามทางเพศเพื่อขืนใจผู้หญิงเท่านั้น?ละครโทรทัศน์เรื่อง “คนละขอบฟ้า” เป็นหนึ่งในเรื่องเล่ายุคนี้ ที่พยายามทบทวนนิยามความหมายของการข่มขืน โดยผูกปมปัญหาที่ทั้งผู้ชมและตัวละครทั้งหลายได้ย้อนกลับไปทบทวนทำความเข้าใจเรื่องการข่มขืนกันอีกครั้งเนื้อเรื่องเริ่มต้นจากนางเอก “ชนิกา” ผู้เป็นสาวสังคมนักเรียนนอก ที่บิดาต้องมีเหตุล้มป่วยลงเพราะกิจการล้มละลาย ทำให้เธอต้องบินกลับจากอเมริกามาโดยด่วน และได้เผชิญกับกราฟชีวิตที่พลิกผันจากสูงสุดลงต่ำกลับคืนสู่สามัญแบบแทบจะสิ้นเนื้อประดาตัวกันเลยทีเดียวเพื่อจะหาเงินก้อนใหญ่มารักษาบิดา ชนิกาจึงตัดสินใจยอมรับมาทำงานกับ “ชินภัทร” พระเอกหนุ่มเจ้าของสวนยางรายใหญ่ในสุราษฎร์ธานี จากสองชีวิตที่ต่างเคยอยู่กัน “คนละขอบฟ้า” ก็มีเหตุให้ได้โคจรมาพบเจอรู้จักกัน เผชิญหน้ากับบททดสอบมากมาย และในท้ายที่สุดก็ตกหลุมรักกันในฉากจบของเรื่องคู่ขนานไปกับโครงเรื่องที่หนุ่มสาวจาก “คนละขอบฟ้า” ได้เวียนวนมาลงเอยในความรักระหว่างกันนี้ ก็คือการที่ชนิกาค่อยๆ ได้พาผู้ชมย้อนกลับไปเรียนรู้ปมชีวิตของชินภัทรผู้เป็นพระเอกของเรื่องในฉากเริ่มต้นที่ชนิกาเดินทางลงใต้เพื่อมาทำงานในสวนยาง เธอก็ได้เรียนรู้ตั้งแต่วินาทีแรกว่า ชินภัทรเป็นมนุษย์ที่ชาวบ้านร้านตลาดต่างพากันรังเกียจไปทั่วจังหวัด และเธอก็ยังได้ยินเรื่องเล่าอีกด้วยว่า ชินภัทรเป็นผู้ชายอันตรายที่เคยข่มขืน “ศิริกัญญา” หญิงคนรักของ “ปานธง” จนตั้งท้อง และทำให้ศิริกัญญาตัดสินใจหนีปัญหาด้วยการยิงตัวตาม พร้อมเขียนจดหมายเปิดโปงความเลวร้ายน่ากลัวของพระเอกเราเอาไว้และนับจากการกระทำอัตวินิบาตกรรมของศิริกัญญา ชินภัทรก็มีสถานะไม่ต่างจาก “ตัวสกั๊งก์” ที่ใครต่อใครก็ทั้งเกลียดและกลัว จนไม่อยากร่วมสังเสวนาคบค้าสมาคมกันทั่วบ้านทั่วเมืองเลยแต่เหตุเพราะว่าชนิกานั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่เชื่อง่ายเพียงแค่ “หมุนวนไปตามลมปากของมนุษย์” เธอจึงเลือกลงมือเก็บหลักฐานต่างๆ มาพิสูจน์ความจริงเชิงประจักษ์ว่า ตกลงแล้วชินภัทรเป็นผู้ร้ายข่มขืนตามที่คนทั้งจังหวัดกล่าวอ้างไว้เช่นนั้นหรือไม่ด้านหนึ่ง ชนิกาก็เก็บหลักฐานบนความสัมพันธ์และความใกล้ชิดกับชินภัทร ที่เธอพบว่าเขาเองก็ไม่ได้มีบุคลิกนิสัยแบบที่ใครๆ กล่าวร้ายแต่อย่างใด ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง เธอก็เก็บรวบรวมข้อมูลจากบุคคลรอบตัวศิริกัญญา ไม่ว่าจะเป็นปานธงคนรักเก่า หรือ “ศรีจันทร์” มารดาของศิริกัญญาที่จิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความแค้นต่อตัวชินภัทรจนเมื่อได้วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลอย่างลุ่มลึกรอบด้านแล้ว ชนิกาก็เริ่มต่อจิ๊กซอว์ปะติดปะต่อเรื่องราว จนพบว่าแท้จริงแล้ว เป็นศิริกัญญาต่างหากที่เคียดแค้นเพราะชินภัทรไม่รับรักเธอ เธอจึงวางพล็อตวางแผนให้ทุกสายตาเชื่อว่าตนถูกข่มขืนจนยิงตัวตายในชุดเจ้าสาว และทำให้ชินภัทรตกเป็นจำเลยในการฆ่าตัวตายนั้นอาจเพราะพล็อตเรื่องที่ศิริกัญญาเล่าไว้ในจดหมายลาตายช่างดูไม่ต่างจากนิยามของสังคมทั่วไปที่อุปโลกน์กันว่า การข่มขืนเป็นการล่วงละเมิดทางเพศที่บุรุษเพศกระทำต่ออิสตรี ประจวบกับชินภัทรเองก็เป็นผู้ชายที่เจ้าอารมณ์ ไร้เหตุผล และมักคิดอะไรที่ต่างจากคนอื่นทั่วไป ทุกคนจึงพากันพร้อมปักใจเชื่อไปตามพล็อตดังกล่าวที่ศิริกัญญาออกแบบเอาไว้โดยดุษณีแต่ในทางกลับกัน เพราะชนิกาเลือกใช้ชุดนิยามที่แตกต่างจากการอุปโลกน์ของสังคมทั่วไปว่า การข่มขืนอาจไม่ใช่แค่เรื่องการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้หญิงเท่านั้น หากแต่หมายรวมถึงทุกๆ การกระทำเชิงอำนาจที่ใครก็ได้ จะชายหรือหญิงก็ได้ ได้กระทำการคุกคามเหนือร่างกายและจิตวิญญาณต่อใครคนอื่น ดังนั้น คำตอบของชนิกาจึงไม่เหมือนกับคนทั่วไปที่เชื่อว่าการข่มขืนเป็นการคุกคามทางเพศเพียงอย่างเดียวในแง่นี้เอง แม้จะไม่ได้มีการกระทำทางเพศใดๆ เกิดขึ้น แต่ก็เป็นชินภัทรต่างหากที่ถูกศิริกัญญาสร้างเรื่องเพื่อข่มขืนบงการเขาทั้งในเชิงจิตใจและความรู้สึก และยังมีสายตาของคนรอบด้านที่ร่วมกันตัดสินว่าเขาผิด จนชีวิตของชินภัทรไม่ต่างจากการตกนรกทั้งเป็นมายาวนานนับปีอำนาจที่ผ่านทั้งเรื่องเล่าในจดหมาย ผ่านสายตาของสาธารณชน ผ่านการประณามกล่าวโทษ หรือผ่านการบีบให้มนุษย์ต้องเก็บกดความรู้สึกที่ตนเองไม่ได้กระทำผิดใดๆ โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศในเชิงกฎหมายเลย จึงไม่ต่างจากอีกรูปธรรมหนึ่งของการข่มขืนที่บุคคลหนึ่งได้คุกคามและปกครองจิตวิญญาณของบุคคลอื่นเอาไว้เลยแม้เราจะรู้ว่าในฉากจบนั้น ปมปัญหาและความจริงต่างๆ ของเรื่องจะถูกเปิดเผยออกมา แต่บทเรียนชีวิตของคนสองคนที่มาจาก “คนละขอบฟ้า” ก็ยังทำให้เราเข้าใจด้วยว่า การที่ใครคนหนึ่งใช้อำนาจเพื่อกำกับควบคุมร่างกายและจิตใจคนอื่นให้อยู่ใต้อาณัติไว้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเรื่องเพศวิถีหรือเหตุผลอื่นใด แท้จริงแล้วมันก็ไม่ต่างจากวิถีแห่งการข่มขืนที่มนุษย์เรากระทำต่อมนุษย์ด้วยกันนั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 192 Transit การเดินทางด้วยรถไฟและรถไฟฟ้าแต่ละประเทศ

ตั้งแต่การคมนาคมสะดวกรวดเร็ว มีสายการบินเพิ่มขึ้นหลากหลาย ทำให้ผู้บริโภคที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศมีทางเลือกมากขึ้น ประกอบกับราคาค่าเดินทางของสายการบินที่แข่งขันกัน จึงทำให้ราคาถูกมากกว่าเดิม และลองสังเกตดีๆ จะเห็นว่าราคาตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศถูกมากเมื่อเทียบเท่ากับราคาตั๋วเครื่องบินที่เดินทางภายในประเทศ จึงเป็นจุดที่ทำให้ผู้คนหันเหไปท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นฉบับนี้ผู้เขียนขอเอาใจผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวไปประเทศต่างๆ แบบท่องเที่ยวด้วยตนเองสักหน่อย แอพพลิเคชั่นนี้จะทำให้ผู้เดินทางสามารถเรียนรู้เส้นทางการเดินรถไฟและรถไฟฟ้าของประเทศนั้นได้ก่อนเดินทางไป โดยไม่ต้องไปเสียเงินซื้อคู่มือเส้นทางการเดินรถแอพพลิเคชั่นนี้ผลิตโดยประเทศญี่ปุ่น แต่ได้พัฒนาไว้หลายประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน อังกฤษ เกาหลี สิงคโปร์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย จีน ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมัน อินโดนีเซีย สวิตเซอร์แลนด์ และอาจจะมีมากกว่านี้การค้นหาแอพพลิเคชั่นให้ใช้คำว่า Transit ตามหลังชื่อประเทศที่ต้องการดาวน์โหลด เช่น ประเทศเกาหลี ใช้คำว่า Korea Transit, ประเทศฮ่องกง ใช้คำว่า Hong Kong Transit, ประเทศสิงคโปร์ใช้คำว่า Singapore Transit เป็นต้น ภายในแอพพลิเคชั่นจะมีภาษาอังกฤษและภาษาท้องถิ่นของประเทศกำกับ ผู้ใช้สามารถเลือกสถานีที่เริ่มต้นและสถานีปลายทางที่ต้องการไป โดยให้กดตรงสัญลักษณ์วงกลมของสถานีนั้นๆ แล้วเลือกว่าเป็นสถานีเริ่มต้นหรือสถานีปลายทาง และตรงสัญลักษณ์ยังปรากฏคำว่า hotels around the spot หมายถึง ข้อมูลโรงแรมที่ตั้งโดยรอบสถานี ซึ่งจะทำให้สะดวกในการค้นหาโรงแรมที่ใกล้กับสถานีรถไฟได้อีกด้วยเมื่อได้สถานีที่ต้องการเดินทางแล้วให้กดเลือก Depart now แอพพลิเคชั่นจะแสดงเส้นทางสายรถไฟที่ต้องเดินทางหรือต้องเปลี่ยนขบวน พร้อมทั้งช่วงเวลาในการเดินทางการ เพื่อใช้สำหรับคำนวณระยะเวลาในการเดินทางแต่ละทริปด้วยนอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นที่มีลักษณะเดียวกัน โดยใช้การค้นหาแอพพลิเคชั่นคำว่า Rail ตามหลังชื่อประเทศที่ต้องการดาวน์โหลดเช่นกัน แอพพลิเคชั่นนี้จะเพียงแค่กดเลือกสถานีที่ต้องการเริ่มต้น หลังจากนั้นจะปรากฏเส้นทางการเดินทางที่ต้องผ่านแต่ละสถานีให้เลือกอีกครั้งแอพพลิเคชั่นทั้งสองรูปแบบมีเส้นทางการเดินทางของประเทศไทยเช่นกัน ชื่อแอพพลิเคชั่น Bangkok Transit และ Thailand Rail และขอแนะนำว่าผู้อ่านลองดาวน์โหลดรูปแบบการเดินทางของประเทศไทยมาศึกษาก่อน เพื่อให้เกิดความชำนาญและเข้าใจมากขึ้น เมื่อไปใช้แอพพลิเคชั่นของประเทศต่างๆ

อ่านเพิ่มเติม >