ฉบับที่ 133 กระแสในประเทศ

 ประมวลเหตุการณ์เดือนกุมภาพันธ์ 2555 คุณพ่อก็ลาคลอดได้รู้กันหรือยังว่า คุณพ่อก็ลาคลอดได้ ไม่ต้องสงสัยว่าผู้ชายจะคลอดลูกได้ไง เพราะสิทธิที่ได้คือการลาหยุดเพื่อไปดูแลภรรยาในช่วงหลังคลอดบุตร ซึ่งสิทธิประโยชน์นี้ได้ถูกประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยคุณพ่อสามารถลาหยุดไปดูแลคุณแม่และลูกน้อยได้ 15 วัน โดยไม่ถือเป็นวันหยุด ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีมากที่ให้คุณพ่อได้ไปช่วยแบ่งเบาภาระการดูแลลูกทำให้คุณแม่สามารถพักฟื้นร่างกายได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยที่บอกว่า การที่สามีอยู่ใกล้ชิดภรรยาหลังคลอดจะทำให้ภรรยารู้สึกดีมีกำลังใจในการเลี้ยงลูก โดยภาวะหลังคลอดของผู้หญิง จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำให้เกิดความวิตกกังวล เกิดอาการซึมเศร้า เหนื่อยล้า ซึ่งอาจส่งผลทำให้ปริมาณน้ำนมแม่ลดลง แต่ก็ยังเป็นเรื่องน่าเสียดายเพราะสิทธิวันหยุดนี้ยังให้สิทธิเฉพาะข้าราชการเท่านั้น พนักงานและลูกจ้างบริษัทเอกชนยังไม่มีโอกาสได้ใช้ ก็หวังว่าหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะช่วยกันผลักดันสิทธิวันหยุดลาคลอดของผู้ชายให้ทุกคนได้ใช้กันอย่างเท่าเทียม-------------   ขนมจากชายแดน...วายร้ายอิมพอร์ต เรื่องขนมไม่ใช่เรื่องเล็กๆ หากซื้อมารับประทานสุ่มสี่สุ่มห้าระวังโรคร้ายถามหาไม่รู้ตัว ยิ่งตอนนี้ขนมที่ไม่ได้มาตรฐานที่ทะลักเข้ามาจากชายแดนกำลังระบาดหนัก ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน ขนมที่ลักลอบจากประเทศเพื่อนบ้านแล้วนำมาขายในบ้านเรามักเป็นเป็นขนมที่มีคุณภาพต่ำ  ไม่มีการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ไม่มีการแสดงฉลากภาษาไทย ซึ่งเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากสารปนเปื้อน ทั้งเชื้อรา แบคทีเรีย และสีผสมอาหาร แถมยิ่งถ้ารับประทานแล้วเกิดเจ็บป่วยก็ยากที่จะหาผู้รับผิดชอบ เพราะไม่มีข้อมูลที่อยู่ผู้ผลิตที่จะเอาผิดได้ นอกจากขนมที่ลักลอบนำเข้ามาตามชายแดนแล้ว ทาง อย. ยังฝากเตือนให้ระวังอันตรายของขนมที่นำมาแบ่งขายหรืออยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่น่าสงสัย ไม่ได้มาตรฐาน และไม่มีการบอกข้อมูลใดๆ ทั้งชื่อผู้ผลิต ส่วนประกอบ และวันเดือนปีที่ผลิตหรือหมดอายุ เพราะตอนนี้มีผู้ประกอบการที่ไม่หวังดีไปตระเวนรับซื้อขนมที่หมดอายุ ผลิตไม่ได้มาตรฐาน หีบห่อฉีกขาดจากโรงงาน จากนั้นนำมาใส่บรรจุภัณฑ์ใหม่และวางขายในราคาถูก------------------   แต่งไฟหน้ารถ ระวังผิดกฎหมายใครที่กำลังคิดจะแต่งหรือดัดแปลงโคมไฟหน้ารถสุดรักของตัวเอง อย่าลืมศึกษาข้อมูลทางกฎหมาย รวมทั้งอย่ามองข้ามเรื่องความปลอดภัย เพราะตอนนี้กองบังคับการตำรวจจราจรเขาเอาจริง เร่งกวดขันรถยนต์ที่ดัดแปลงไฟหน้าให้มีความสว่างมากกว่าปกติ ซึ่งแสงที่มีความสว่างมากเกินไปจะรบกวนการมองเห็นของผู้ขับขี่รายอื่นทำให้เกิดอันตราย ซึ่งสีของโคมไฟหน้ารถยนต์ที่ถูกต้องตามกฎหมายคือ สีขาวหรือสีเหลืองอ่อนเท่านั้น ถ้าเป็นสีอื่นนอกเหนือจากนี้ถือว่าผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก นอกจากนี้กองบังคับการตำรวจจราจรยังฝากเตือนถึงสินค้าตัวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนที่ชอบแต่งรถอย่าง ไฟซีนอนวงแหวน 2 ชั้น หรือที่นิยมเรียกกันว่า “ไฟทรานส์ฟอร์เมอร์” เพราะมีลักษณะคล้ายดวงตาของหุ่นยนต์ในภาพยนตร์เรื่องทรานส์ฟอร์เมอร์ ซึ่งมีผลิตออกมาหลายสี ถ้าหากใช้สีอื่นๆ นอกจากสีขาวและสีเหลืองอ่อนถือว่าผิดกฎหมาย สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับโคมไฟรถยนต์ที่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก โคมไฟแสงพุ่งไกลหน้ารถต้องมีความสูงจากพื้นถึงจุดศูนย์กลางดวงโคมไม่น้อยกว่า 0.6 เมตร แต่ไม่เกิน 1.35 เมตร โคมไฟทั้งสองข้างต้องอยู่ในระดับเดียวกัน ใช้ไฟแสงขาว มีกำลังไฟเท่ากัน ไม่เกินดวงละ 50 วัตต์ โดยขณะนี้นักวิชาการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) พยายามเรียกร้องให้กรมการขนส่งทางบกแก้ไขความสูงไฟหน้ารถจากพื้นราบถึงจุดศูนย์กลางดวงโคม จากเดิมกำหนดไม่เกิน 1.35 เมตร เปลี่ยนเป็นไม่เกิน 1.2 เมตร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเฉพาะรถยนต์ประเภทกระบะหรือโฟร์วีล เมื่อบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก รถยนต์จะเงยสูงขึ้นไปอีก ทำให้ทิศทางของแสงไฟหน้ารถรบกวนรถยนต์คันอื่นๆ---------------- เจ็บป่วยไม่สบาย รักษาหายด้วยการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุขเดินหน้าพัฒนาการแพทย์แผนไทย ประกาศให้การรับรองการรักษาจากภูมิปัญญาพื้นบ้านสามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบัน โดยขณะนี้มี 8 โรคที่กระทรวงฯ ให้การรับรอง ได้แก่ 1.งูพิษกัด 2.โรคกระดูกหัก 3.โรคอัมพฤกษ์/อัมพาต 4.อาการปวดเมื่อย 5.ไหล่ติด 6.โรคเรื้อรังอาทิเบาหวาน 7.โรคสะเก็ดเงิน 8.โรคตับแข็ง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการดูแลสุขภาพแม่และเด็ก การบำรุงน้ำนมแม่หลังคลอด ซึ่งมีโรงพยาบาลที่รับรองการรักษาแล้วทั้งหมด 23 แห่ง ใน 16 จังหวัด  โดยแต่ละโรงพยาบาลก็จะให้การรักษาในแต่ละโรคแตกต่างกันไป ตามความถนัดของหมอพื้นบ้านในพื้นที่นั้นๆ ประกอบด้วย การรักษากระดูกหักที่โรงพยาบาลได้แก่ 1.รพ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี 2.รพ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี 3.รพ.กันทราลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ 4.รพ.สูงเม่น จ.แพร่ 5.รพ.สอง จ.แพร่ 6.รพ.พิชัย จ.อุตรดิถต์ 7.รพ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา 8. รพ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี 9.รพ.เทพา จ.สงขลา และ 10.รพ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา 11.รพ.ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร 12.รพ.หลังสวน จ.ชุมพร  13.รพ.ละแม จ.ชุมพร การรักษาปัญหาไหล่ติดที่ รพ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี, รักษาอัมพฤกษ์/อัมพาตที่ รพ.เทิง จ.เชียงราย รักษาโรคเรื้อรังเช่นเบาหวานที่ รพ.คลองใหญ่ จ.ตราด,  และโรคปวดเมื่อยด้วยวิธีย่ำขางที่ รพ.แม่ลาว จ.เชียงราย, รักษาโรคสะเก็ดเงินและโรคตับแข็งที่ รพ.พระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี ซึ่งจัดเป็นโรงพยาบาลศูนย์แห่งเดียวที่บริการด้านนี้, การรักษางูพิษกัด สัตว์พิษกัด ที่รพ.พนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ และรพ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ------------- “เลิกเก็บ 30 บาท” “เครือข่ายประชาชนคนรักหลักประกันสุขภาพ” คือเครือข่ายที่เกิดจากการรวมตัวกันของภาคประชาชนที่ทำงานด้านสุขภาพจากทั่วประเทศ ที่ขอทำหน้าที่แทนคนไทยทั้งประเทศในการเป็นกระบอกเสียงส่งต่อไปถึงภาครัฐ เรื่องความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับการบริการด้านการรักษาพยาบาลของประเทศไทย โดยมุ่งหวังให้เกิดการบริการด้านการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ เท่าเทียม ทั่วถึง และเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ โดยเรื่องเร่งด่วนที่ทางเครือข่ายฯ กำลังเดินหน้าเรียกร้องกับรัฐบาล คือเรื่องการขอให้ยกเลิกการเก็บค่าบริการ 30 บาทจากผู้ป่วยในระบบหลักประกันสุขภาพ เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งผู้ที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรายได้น้อย และสิทธิในเรื่องการรักษาพยาบาลถือเป็นสิทธิพื้นฐานที่ภาครัฐต้องจัดสรรให้กับประชาชนคนไทยทุกคน นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอด้านบริการสาธารณสุขอื่นๆ ที่เครือข่ายฯ วอนให้ภาครัฐช่วยปรับปรุงพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นการขอให้รัฐบาลเร่งผลักดันให้มีระบบสุขภาพของประเทศ ที่มีคุณภาพเพียงมาตรฐานเดียว ซึ่ง ณ เวลานี้ประเทศไทยเรายังมีการแบ่งเรื่องการรักษาพยาบาลออกเป็นหลายระบบ ทั้งระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า ระบบประกันสังคม ระบบราชการ ทำให้ระบบการรักษาพยาบาลของบ้านเรามีหลายมาตรฐาน รวมทั้งการขอให้รัฐบาลสนับสนุนและผลักดันให้รัฐสภาเร่งพิจารณา(ร่าง)พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากบริการสาธารณสุข พ.ศ. .... ที่จะช่วยชดเชยผู้ป่วยในกรณีเกิดความผิดพลาดจากการรักษาพยาบาล โดยจะไม่มีการเอาผิดจากแพทย์ ซึ่งช่วยให้ไม่ต้องนำไปสู่การฟ้องร้องอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

อ่านเพิ่มเติม >