ฉบับที่ 270 ไข่ฮ้างฮัง

        มีคลิปหนึ่งที่ถูกโพสต์ลง TikTok มีเนื้อหาประมาณว่า เมื่อคุณแม่ซื้อไข่ฮ้างฮังมาแต่ยังไม่ได้กินเพราะไม่อยู่บ้าน 3 วันในหน้าร้อน เมื่อกลับมาบ้านต้องตกใจเมื่อเปิดประตูบ้านมาเจอลูกเจี๊ยบกว่าสิบตัววิ่งอยู่ในบ้าน ในขณะที่บางตัวกำลังฟักออกจากไข่         ผู้เขียนขอสารภาพว่า ไม่เคยได้ยินคำว่าไข่ฮ้างฮัง หรือที่บางคนให้ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตว่า อาจเรียกว่า ไข่ฮ้างรังหรือไข่ค้างรัง จึงเข้าค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วพบข้อมูลประมาณว่า ไข่ฮ้างฮัง คือไข่ที่ฟักยังไม่สำเร็จแต่ถึงเวลาแล้วที่แม่ไก่บ้านต้องไปเลี้ยงลูกเจี๊ยบส่วนใหญ่ที่ออกจากไข่ก่อน (ปรกติแล้วแม่ไก่ฟักไข่ประมาณ 21 วัน) จึงต้องทิ้งรังไปตามวิถีชีวิตธรรมชาติของแม่ไก่ที่ต้องพาลูกไปหากิน ส่วนไข่ที่เหลือยังฟักไม่สำเร็จผู้เลี้ยงไก่มักนำไปบริโภค โดยไข่ฮ้างฮังแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ไข่ตัว คือไข่มีเชื้อที่เริ่มเจริญเป็นตัวอ่อน และตายในระยะใดระยะหนึ่ง ไม่สามารถฟักเป็นตัวออกมาจากไข่เป็นลูกเจี๊ยบได้และ ไข่ข้าว คือไข่ที่ไม่มีเชื้อ ไม่มีการเจริญเป็นตัวอ่อน แต่ได้รับการฟักทำให้สภาพของเนื้อไข่เปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากความร้อนจากการฟักของแม่ไก่ทำให้ไข่ข้าวแตกต่างจากไข่ไก่สดทั่วไป (ข้อมูลนี้ผู้เขียนยังสงสัยอยู่ว่ามันเป็นอย่างนี้จริงหรือ)         อย่างไรก็ดีมีกระทู้หนึ่งใน pantip.com (ในเดือนเมษายน 2566) เรื่อง ลักษณะไข่แบบนี้ไข่เน่าหรือไข่ค้างรัง ให้ข้อมูลต่างออกไปบางส่วนประมาณว่า ไข่ข้าวคือ ไข่ที่ถูกผสมด้วยน้ำเชื้อของไก่ตัวผู้แล้วถูกฟักแต่ยังไม่เป็นลูกเจี๊ยบคนก็เอามากินก่อน หรือคนเลี้ยงไก่เขาเจตนาทำให้เป็นไข่ข้าวเพื่อขาย (น่าจะได้ราคากว่าขายไข่ต้ม) ส่วนไข่ฮ้างฮังเป็นไข่ที่ผสมน้ำเชื้อแล้วแต่แม่ไก่กกไข่ฟักยังไม่เสร็จก็ทิ้งรังไปดูลูกเจี๊ยบตัวอื่น ตัวอ่อนในไข่ใบนั้นก็ตายกลายเป็นไข่ฮ้างฮัง หรือคนเลี้ยงไก่เขาเจตนาทำให้เป็นไข่ฮ้างฮังเพื่อขาย         หลังจากได้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับไข่ฮ้างฮังแล้วก็นึกย้อนหลังไปเมื่อราว 60 ปีก่อน สมัยยังเด็กเคยเห็นรถเข็นขายไข่ต้มซึ่งมีไข่ต้มลักษณะหนึ่งที่ส่วนไข่แดงกลายเป็นลูกเจี๊ยบขนขึ้นเล็กน้อยแล้ว จึงถามแม่ของผู้เขียนว่า มันคืออะไร แม่ได้อธิบายว่าเขาเรียกว่า ไข่ข้าว ซึ่งคนที่ซื้อกินนั้นเชื่อว่า กินแล้วสมรรถภาพทางเพศจะดีขึ้น ซึ่งผู้เขียนฟังแล้วก็เก็บข้อมูลไว้ในสมองเฉยๆ จนมาได้ดูข่าวที่กล่าวถึงข้างต้นจึงรำลึกได้ แต่ก็ยังมีประเด็นที่เป็นคำถามเพราะสงสัยอยู่ว่า คนไทยกินไข่ฮ้างฮังทำไม เหมือนฝรั่งที่กินหรือไม่         คำตอบแรกนั้นมีในอินเทอร์เน็ตว่า เพราะชอบกลิ่นและรส ส่วนเหตุที่มีคำถามถึงฝรั่งนั้นก็เพราะนึกได้ว่า สมัยเรียนที่สหรัฐอเมริกานั้นมีโอกาสได้อ่านบทความในนิตยสาร PlayBoy (ซึ่งเพื่อนในหอพักซื้อมาอ่านแล้ววางไว้ในห้องนั่งเล่น) มีบทความหนึ่งเกี่ยวกับฝรั่งแถวสแกนดิเนเวียนิยมกินลูกไก่ที่ยังอยู่ในเปลือกไข่เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะทางเพศหรือ Libido ดังนั้นผู้เขียนจึงลองค้นหาข้อมูลทางวิชาการในอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับงานวิจัยไข่ที่มีลักษณะของไข่ฮ้างฮังว่ามีหรือไม่ ซึ่งพบว่ามีไม่มากนักและที่น่าสนใจคือบทความเรื่อง Fibroblast growth factor (FGF) identification of a fertilized chicken egg whites and their effects on stem cells regeneration in the pancreas of hyperglycemia mice ในวารสาร Der Pharma Chemica ของปี 2016 ซึ่งบทความนี้เป็นผลการวิจัยของชาวอินโดนีเชียที่ให้ข้อมูลว่า สาร Fibroblast Growth Factor ที่สกัดได้จากตัวอ่อนในไข่ที่ถูกฟักแต่ยังไม่ออกเป็นตัวสามารถกระตุ้นให้เซลล์ต้นกำเนิดของตับอ่อนที่นำออกมาจากหนูที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (เพราะได้รับสาร alloxan ซึ่งทำลายเซลล์ที่สร้างอินซูลินของตับอ่อน) พัฒนาไปเป็นเซลล์ที่หลั่งอินซูลินได้ ส่งผลให้มีการตั้งความหวังว่า สารสกัดจากไข่ที่มีตัวอ่อนนั้นน่าจะถูกใช้ช่วยกระตุ้นเซลล์ต้นกำเนิดในอวัยวะต่างๆ พัฒนาไปทำงานทดแทนเซลล์เดิมซึ่งหมดความสามารถ         สิ่งที่น่าสนใจคือ เว็บ https://synergisticnutrition.com มีบทความเรื่อง Fertilized & Incubated Chicken Eggs and Fibroblast Growth Factors ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการที่ไข่ซึ่งได้รับการปฏิสนธิแล้วถูกฟักนาน 9 วันขึ้นไปนั้นมีปัจจัยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ (fibroblast growth factors) ซึ่งเดิมทีนั้นในปี 1929 มีนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งได้ตั้งสมมุติฐานแล้วทำวิจัยเพื่อพิสูจน์ว่า ปัจจัยสำคัญในไข่ดังกล่าวอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง แต่น่าเสียดายที่ผู้ศึกษาได้ตายไปในปี 1943 ทุกอย่างจึงถูกลืม จนผ่านไปเกือบ 50 ปีต่อมา ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยไข่ระดับแนวหน้าของนอร์เวย์กลุ่มหนึ่งได้ตั้งสมมุติฐานว่า ไข่ไก่ที่ได้รับการผสมพันธุ์แล้วถูกฟักนั้นมีองค์ประกอบหนึ่งเป็นของผสมของกรดอะมิโน เปปไทด์ และโปรตีนขนาดเล็กรวมกันที่น่าจะช่วยให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภค เพราะไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิและถูกฟัก 9 วันนั้นมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ (ของลูกไก่) สารสำคัญต่าง ๆ ที่คิดกันว่าเป็นปัจจัยต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ไฟโบรบลาสต์นั้นน่าจะมีความสามารถในลักษณะการสั่งให้เกิดการดูดซับกรดอะมิโน เปปไทด์ และสารอาหารเพื่อกระตุ้นเซลล์ต้นกำเนิดให้เปลี่ยนเป็นเซลล์ของอวัยวะ กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อสมองและอื่น ๆ ของตัวอ่อน สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับของผสมที่ช่วยให้ลูกไก่เจริญได้ระหว่างฟักนั้น บทความเรื่อง Basic Fibroblast Growth Factor in the Chick Embryo: Immunolocalization to Striated Muscle Cells and their Precursors ในวารสาร The Journal of Cell Biology ของปี 1989 ให้ข้อมูลว่า สารจำเป็นต่อการเจริญของตัวอ่อนในไข่ไก่นั้นเริ่มปรากฏขึ้นราววันที่ 2 ของการฟักและจะเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในวันที่ 11 ของการฟักไข่         เซลล์ต้นกำเนิดนั้นมีอยู่ทั่วร่างกายมนุษย์และสัตว์ชั้นสูงแม้จะโตเติมที่แล้ว โดยเป็นเซลล์ที่รอการกระตุ้นที่เหมาะสมเพื่อรับสารอาหารสำหรับแปลงเซลล์เหล่านั้นให้เป็นเซลล์ใหม่ที่ทำงานได้เหมือนเซลล์ที่เสียหายไปในเนื้อเยื่อของอวัยวะนั้น ๆ ดังนั้นจึงเป็นความหวังว่า องค์ประกอบที่สกัดได้จากไข่ไก่ที่ผ่านการปฏิสนธิและถูกฟักแล้วระยะหนึ่งอาจช่วยให้เกิดเซลล์ใหม่มาแทนเซลล์ที่เสื่อมไปของสมอง หัวใจ ตับอ่อน ไต ต่อมหมวกไต เยื่อบุลำไส้ หรือเนื้อเยื่ออื่นๆ ซึ่งอาจรวมถึงเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ของร่างกาย เพื่อฟื้นคืนชีพการทำงานของอวัยวะและกระตุ้นความต้องการทางเพศให้กลับคืนมา         คำถามที่น่าสนใจต่อไปคือ มีงานวิจัยเกี่ยวกับสินค้าที่มีองค์ประกอบในลักษณะเดียวกันกับไข่ฮ้างฮังบ้างหรือไม่ คำตอบคือ มีสินค้าซึ่งอ้างว่าเพิ่มสมรรถนะทางเพศของชาย โดยสินค้านั้นมีส่วนประกอบเป็นสารสกัดจากไข่ที่ปฏิสนธิแล้วและฟักได้ระยะหนึ่ง ผู้เขียนพบว่ามีบทความของนักวิจัยชาวนอร์เวย์เรื่อง Sexual Desire in Men: Effects of Oral Ingestion of a Product Derived from Fertilized Eggs ในวารสาร Journal of International Medical Research ของปี 1997 ให้ข้อมูลว่า ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่อ้างว่าให้ผลต่อความรู้สึกทางเพศหรือ Libido (Libid, Libbido, Erosom และ Ardorare เป็นชื่อที่ใช้ในการทำตลาด) มีส่วนประกอบที่ได้มาจากไข่ไก่ที่ได้รับการปฏิสนธิและฟักช่วงเวลาหนึ่งแล้ว ถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาความต้องการทางเพศที่ลดลงในผู้ชาย ผลลัพธ์ที่ได้จากการทดลองที่มีกลุ่มควบคุมด้วยยาหลอกแบบ double-blind cross-over บ่งชี้ว่า ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ของการศึกษาพบว่า 58% ของผู้เข้าร่วมการศึกษาชาวนอร์เวย์ที่มีความต้องการทางเพศต่ำลง มีความรู้สึกดีขึ้นตามที่ได้ประเมินโดยใช้ Visual Analog Scale ซึ่งข้อมูลที่ได้รับจากผู้บริโภคชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่สำคัญต่อความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์ ความมั่นใจในตนเองที่เพิ่มขึ้น ระดับความสุขที่ได้รับ และความแข็งแกร่งในความเป็นชาย นอกจากนี้ยังมีอีกการศึกษาในชายสวีเดนที่แยกศึกษาต่างหากพบว่า 84% ของผู้ชาย 31 คน รายงานความต้องการทางเพศที่เพิ่มขึ้นในช่วง 3 สัปดาห์หลังกิน Libido โดยต้องใช้เวลา 1 - 2 สัปดาห์ของการกิน Libido 3 กรัมต่อวันๆ ละสองครั้งก่อนที่จะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน         ผู้เขียนได้เข้าไปดูข้อมูลในเว็บ https://www.pdr.net ซึ่งเป็นเว็บที่ให้ข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ดูว่าเชื่อถือได้ เพราะเป็นแหล่งที่พิมพ์หนังสือ Physicians' Desk Reference (ปัจจุบันให้ข้อมูลฟรีบางส่วนแบบ online) ซึ่งแพทย์ส่วนใหญ่รู้จักดี ได้มีบทความเรื่อง Laminine (dietary supplement) - Full Prescribing Information ได้ให้ข้อมูลว่า ผลิตภัณฑ์ Laminine (ตั้งชื่อล้อกับคำว่า laminin ซึ่งเป็นไกลโคโปรตีนทำหน้าที่เป็นโครงสร้างรากฐานเครือข่ายโปรตีนที่อยู่ระหว่างเซลล์ของอวัยวะส่วนใหญ่ของสัตว์ทุกชนิด) ได้ติดฉลากบนสินค้าว่า มีสารสกัดจากไข่ไก่ที่ปฏิสนธิพร้อมด้วยส่วนผสมของโปรตีนที่เว็บไม่ได้ให้ความชัดเจนว่าคืออะไร เพื่อให้มีกรดอะมิโนที่จำเป็นทั้งหมดและกล่าวอ้างว่า ผลิตภัณฑ์นี้มีเปปไทด์ที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพกระตุ้นเซลล์ต้นกำเนิดให้พัฒนาเพื่อซ่อมแซมเซลล์ชราที่เสียสภาพได้         สำหรับคำถามที่ว่า การกินไข่ข้าวหรือไข่ฮ้างฮังของคนไทยนั้นจะได้ผลเหมือนการที่ฝรั่งกินผลิตภัณฑ์ที่กล่าวถึงข้างต้นหรือไม่นั้น คำตอบง่ายๆ คือ คงต่างกัน เพราะไข่ข้าวที่ขายตามรถเข็นนั้นถูกปิ้งด้วยความร้อน ดังนั้นสาร Basic Fibroblast Growth Factor ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นโปรตีนคงเสียสภาพไปหมด ในขณะที่ส่วนสกัดที่ได้จากไข่ข้าวของฝรั่งนั้นผลิตด้วยวิธีการสกัดทางชีวเคมีในห้องปฏิบัติการแล้วทำให้แห้งด้วยวิธี  freez-drying ดังนั้นส่วนสกัดที่ได้จึงน่าจะยังคงสภาพการทำงานอยู่ในระดับหนึ่ง โดยสรุปแล้วคนไทยที่กินไข่ฮ้างฮังแล้วรู้สึกอร่อยก็คงกินไปโดยไม่ต้องหวังอะไร อีกทั้งสินค้าของฝรั่งที่อาจมีขายออนไลน์นั้นก็อย่าได้หวังอะไรนัก เพราะการโฆษณานั้นเป็นการให้ข้อมูลบางส่วนที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ค้าสินค้านั้นเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม >