ฉบับที่ 243 แฟลชส่งพัสดุผิดบ้าน ผ่านมาปีกว่ายังไม่ได้ของคืน

        ส่งจดหมายผิดซองคงเป็นเจ้าของที่พลาดเอง แต่ถ้าส่งพัสดุไปผิดบ้าน งานเข้าบริษัทรับส่งของไปเต็มๆ คงยากจะปัดความรับผิดชอบ         คุณกันยากร อยู่ที่ประเทศฟินแลนด์ เมื่อต้นเมษายน 2563 ได้สั่งซื้อกางเกงยี่ห้อมาริฮอร์นทางออนไลน์ให้จัดส่งไปบ้านของคุณพ่อที่เมืองไทย จากนั้นปลายเดือนเดียวกัน เธอไลน์ถามหลานชายว่ามีพัสดุมาส่งที่บ้านหรือยัง ทั้งหลานชายและคุณพ่อต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ายังไม่เห็นมีของมาส่งเลย คุณกันยากรจึงถามกลับไปที่ร้านค้าว่าส่งของให้หรือยัง ทางร้านแจ้งว่าส่งให้แล้วโดยใช้บริการของแฟลช เอ็กซ์เพรส จากนั้นคุณพ่อของคุณกันยากรไปทวงถามที่บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ คุณพ่อจึงไปที่โกดังของบริษัทที่บางพลัด แต่ผู้จัดการดูไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เมื่อคุณพ่อโชว์หลักฐานให้ดู บริษัทก็บอกว่าจะชดเชยให้แค่ 400 บาท เป็นการเคลมนอกระบบ แต่คุณพ่อไม่ยอมรับ หลังจากนั้นพนักงานชื่อนพดลได้มาที่บ้านและสารภาพว่าเขาเป็นคนส่งพัสดุไปที่บ้านอีกหลังหนึ่งเอง และรับปากว่าจะติดตามของมาคืนให้ แต่แล้วก็เงียบหายไป         คุณกันยากรยังไม่ละความพยายาม แม้ตัวจะอยู่ไกล เธอก็ยังไลน์ถามหาความรับผิดชอบจากบริษัทตลอด ทางบริษัทก็ตอบว่ากำลังตามสินค้าให้ และจะให้พนักงานติดต่อกลับไป แต่วันแล้ววันเล่าก็ยังไม่มีพนักงานคนไหนติดต่อกลับมาอีกเลย คุณกันยากรจึงโทรศัพท์มาขอคำปรึกษาที่ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค  แนวทางการแก้ไขปัญหา         ในเบื้องต้นแนะนำให้คุณพ่อของคุณกันยากรไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาให้ทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค หลังจากมูลนิธิฯ ได้รับรายการตรวจเช็คพัสดุที่ส่งมา ซึ่งในใบพัสดุระบุว่า “เซ็นรับแล้ว” แต่ไม่มีลายเซ็นปรากฎอยู่ และมีรูปพัสดุที่คนส่งนำไปไว้ในตู้ของอีกบ้านหนึ่ง ศูนย์ฯ จึงทำจดหมายถึงบริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ซึ่งทางบริษัทตอบกลับมาว่าจะติดตามให้ ล่าสุดแจ้งว่าจะชดเชยเป็นเงินให้ แต่จนแล้วจนรอด ณ วันนี้ คุณกันยากรก็ยังไม่ได้ของคืน หรือค่าชดเชยใดๆ ในกรณีแฟลชส่งพัสดุผิดบ้าน เรื่องแบบนี้คงต้องว่ากันในทางคดีต่อไป

อ่านเพิ่มเติม >