ท่านผู้อ่านคงได้รับรู้บ้างเรื่องที่ สปช.มีมติให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคม(โทรศัพท์) คิดค่าบริการลูกค้า ตามที่ใช้จริงเป็นวินาที (ปัจจุบันคิดเป็นนาที) เพราะมีผู้ร้องเรียนว่าถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ ในการเรียกเก็บค่าใช้บริการ เช่น ใช้จริง 1 นาที 1 วินาที ก็จะถูกเรียกเก็บเป็น 2 นาที ใช้ 3 นาที 5 วินาที จะถูกเรียกเก็บ เป็น 4 นาที เป็นต้น สรุปหากมีเศษวินาที ไม่ว่ามากหรือน้อย จะถูกปัดขึ้นไปเป็นนาทีโดยอัตโนมัติวันที่ 13 มกราคม 2558 ผู้เขียนได้เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค (ของ สปช.) ร่วมกับผู้ให้บริการทุกค่าย มีคำถามหลายคำจากผู้บริโภคที่ทำให้ผู้ให้บริการไม่พอใจ เช่น หากเราไปซื้อส้ม 1 กิโลกรัม แม่ค้าชั่งให้ 1 โล 1 ขีด เรียกว่าอะไร โกงตราชั่งหรือโกงเงิน การปัดวินาทีเป็นนาที เรียกว่าโกงมั้ย? ถึงกับออกอาการว่า ไม่ได้โกง ไม่สบายใจเลย ที่ถูกกล่าวหาว่าโกง สูตรคิดค่าบริการนี้ เป็นสากล ใครๆ เขาก็ใช้กันมีคำถามอีกว่า ทำไมไม่ปัดเศษลง ปรับขึ้นเป็นนาทีทำไม? ไม่มีคำตอบ แต่มีคำต่อว่า สปช.ว่าเรื่องเก็บเงินเป็นนาทีหรือวินาทีเป็นเรื่องเล็กๆ ผู้ประกอบการแข่งขันกันอยู่แล้ว ยังไงค่าโทรก็จะถูกลงเอง สปช. ควรจะไปทำเรื่องใหญ่ไม่ใช่มาทำเรื่องเล็กเรื่องน้อยอย่างนี้ ( หึ.....เรื่องที่เกี่ยวกับคน 60 กว่าล้านคนนี่นะเรื่องเล็ก) ผู้ให้บริการยังบอกต่ออีกว่า ผู้บริโภคอาจไม่พอใจ ในการเก็บเงินเป็นวินาที เพราะคนโทรสั้น จะได้ประโยชน์ แต่นักธุรกิจที่โทรยาวๆ จะเสียประโยชน์ (อ้าว...ตกลงทุกวันนี้คนจนช่วยจ่ายค่าโทรศัพท์ให้คนรวยใช่มั้ย???) คุณหมอประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค พูดชัดเจนว่า ปัจจุบันคนโทรสั้นต้องรับภาระจ่ายค่าโทรให้คนโทรยาว เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ที่ถูกต้องคือ ใครใช้เท่าไร ต้องจ่ายเท่านั้น และการคิดค่าบริการเป็นวินาที ก็น่าจะทำได้เลย เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการ ก็มีเทคโนโลยี ตรวจการใช้บริการเป็นวินาทีอยู่แล้ว ปัญหาคือการปัดเศษขึ้นไปเป็นนาที ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค และการแก้ปัญหาโดยการใช้โปรโมชั่น นาทีและวินาที ที่อ้างว่าเป็นทางเลือกน่าจะไม่ถูกต้อง แต่ต้องกำหนดให้ทุกโปรโมชั่น ต้องคิดค่าบริการตามที่ใช้จริง ที่สำคัญในระยะเวลาอันใกล้นี้ จะมีการประมูล 4G จะเสนอให้ กสทช. กำหนดเงื่อนไขให้ชัดเจนว่าผู้ประกอบการที่จะเข้าประมูลต้องคิดค่าบริการตามที่ผู้บริโภคใช้จริง
อ่านเพิ่มเติม >