เพื่อนสาวชาวนา ลูกหลานพญาคันคาก เพิ่งกลับจากเยี่ยมญาติช่วงเทศกาลสงกรานต์ ฉันเลยได้ของฝากเป็นหอมแดงผลผลิตขึ้นชื่อประจำจังหวัดศรีสะเกษกับผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างเส้นก๋วยจั๊บเวียดนาม ที่ยังต้องรอการพิสูจน์ดูว่าจะอร่อยขึ้นชื่อเทียบเคียงสูสีกับแหล่งผลิตชื่อดังแห่งเดิม คือที่อุบลราชธานีหรือปล่าว อิ อิ การกลับไปเยี่ยมญาติข้างปู่-ย่า ของเธอเที่ยวนี้ เพื่อนๆ ในเฟสบุ้ค ต่างรับรู้การเดินทางเป็นระยะๆ ด้วยรถปิ๊กอัพป้ายแดงคันใหม่ที่เธอถอยมาหลังเกี่ยวข้าวขายเข้าโครงการรับจำนำไป 2 เที่ยวเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้เธอเปิดหน้าเพจ “ชาวนาเงินล้าน” แล้ว ใครสนใจเทคนิคทำนาลดต้นทุนเข้าไปแลกเปลี่ยนพูดคุยกับเธอได้เลย ส่วนฉันเหมือนเคย นั่งแซ่วหน้าจอคอมพ์ไม่ได้ไปไหน เอาแต่นั่งเขียนรายงานสถานการณ์การปรับตัวของชาวนาแถวบ้านที่นำการใช้เครื่องมือการเกษตรสมัยใหม่อย่างเครื่องพ่นปุ๋ยและหว่านข้าวมาใช้ในนา จนทำให้เขาลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีผสมปุ๋ยอินทรีย์ลงจากเดิมไปกว่า 30 % ลดต้นทุนแถมยังผ่อนแรง แต่ขายข้าวได้ในราคาตันละ 13,000 บาท จนทำให้เขาปลดหนี้ได้จากที่เมื่อปี 2553 เคยเป็นหนี้ 500,000 บาท จากการทำนาปรัง 2 ครั้งและถูกเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลทำลายในครั้งแรกและน้ำท่วมเสียหายในครั้งที่2 เขายังบอกฉันด้วยว่า แค่ราคาข้าวดีอย่างเดียวคงทำให้เขามัวนิ่งนอนใจไม่ได้ แต่ต้องขวนขวายหาวิธีลดต้นทุนให้ได้มากเพื่อเตรียมตัวเข้าแข่งขันในเวที AEC กับเวียดนามที่ต้นทุนการผลิตข้าวต่ำกว่า การทำนา 140 ไร่ของเขา เผชิญมาหมดทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง ศัตรูข้าว เจ้าของโรงสีซื้อข้าวกดราคา แถมหลายปีก่อนนายทุนยึดที่เช่านาคืนเพื่อเอาไปขายคนกรุงเทพฯ ที่อยากจะเป็นชาวนาอย่างเขาบ้าง ทั้งที่มีสัญญาเช่า 6 ปี โอกาสจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการทำนาในระหว่างปี 2555 – ปัจจุบันนี้ ทำให้เขาพอมีความหวัง หลังจากที่ก่อนหน้านั้นต้องเผชิญกับสภาพ ลุ่มๆ ดอนๆ ในการประกอบอาชีพมากว่า 15 ปี จนทำให้เขาไม่อาจหยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่เรียนรู้ปรับแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่ๆ อยู่เสมอๆ จากแหล่งข้อมูลสื่อสารทั้งในทีวี วิทยุ และการพบปะพูดคุยกันในแวดวงของเขา ใคร ที่ว่าจำนำข้าวให้ราคาดีทำให้ชาวนาเร่งผลิตจนเพิ่มต้นทุนและเลิกทำอินทรีย์ น่าจะมาเดินดูชาวนาแถวบ้านฉันดูมั่งเนาะว่าเขาจะเสียฟรีจากที่เคยทำได้ดีไปได้ยังไงกัน - - ได้ยินได้ฟังแบบนั้น ฉันมึนจุงเบย... มาดูวิธีทำ “ก๋วยจั๊บเวียดนาม” ของเรากันดีกว่า ก๋วยจั๊บเวียดนามมีดีที่เส้นนุ่ม น้ำซุปใสๆ รสเข้มข้น และชูกลิ่นรสด้วยเครื่องปรุงพริกเผาหอมๆ ส่วนเนื้อสัตว์อย่าง หมู กระดูกหมู และหมูยอ ที่เห็นกันเป็นประจำในชามก๋วยจั๊บเวียดนามนั้น ถ้าไม่ชอบอาจหาอย่างอื่นมาทดแทน สูตรที่นำมาแลกเปลี่ยนวันนี้ฉันเองทำเสร็จเตรียมจะกินแล้วเพิ่งนึกได้เหมือนกันว่าลืมหมูยอไปอย่างหนึ่งเหมือนกัน เอาเถอะ ไม่มีก็ไม่ใส่ก็ได้เนอะ เริ่มง่ายๆ ที่เครื่องปรุงพริกเผากันก่อน วิธีเร่งรัดอย่างฉันทำง่ายมาก มี ส่วนประกอบ 3 อย่าง คือ 1.พริกขี้หนูป่นหยาบ 2 ส่วน 2.หอมแดง 2 ส่วน 3.กระเทียม 1 ส่วน เริ่มทำโดยปอกหอมและกระเทียม จากนั้นนำไปโขลกพอแหลกแล้วตักพริกขี้หนูป่นหยาบลงไปตำให้เข้ากันดี แล้วจึงตั้งกระทะน้ำใส่มันถั่วเหลืองให้ร้อน แล้วนำส่วนผสมเครื่องลงไปทอดให้เหลืองหอม แล้วพักเตาไฟ ตักใส่ถ้วย แล้วไปดูเครื่องปรุงก๋วยจั๊บกันต่อ เครื่องปรุง 1.เส้นก๋วยจั๊บ 2.ถั่วงอก 3.กระดูกหมู อ่อน ½ กก. 4.หัวไชเท้า 1 หัว 5. ต้นหอม ผักชี ซอยหยาบ 6.พริกไทยเม็ด 20 เม็ด 7.กระเทียมสด 5 กลีบ 8.กระเทียมดอง 1 หัว 9.รากผักชี 1 ราก 10.เกลือ 11.ซีอิ๊ว 12.ยอดหม่อน 3 – 4 ยอด (ไม่มีก็ใส่น้ำตาลแทน) 13.น้ำกระเทียมดอง 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ เริ่มทำน้ำซุปกันก่อน ตักน้ำสะอาด ใส่หม้อ ตั้งไฟกลาง ใส่กระดูกหมูอ่อนที่ล้างและหั่นเป็นชิ้นคำโตๆ ลงไปต้ม ปรุงรสด้วยยอดใบหม่อน โขลกพริกไทยเม็ดให้เข้ากับรากผักชีกระเทียมสดและกระเทียมดองที่ตำแบบหยาบๆ เกลือ ซีอิ๊ว และน้ำกระเทียมดอง หมั่นช้อนออก พอกระดูกหมูเปื่อยได้ที่ราว 30 นาที จึงใส่หัวไชเท้าหั่นแว่นลงไปต้มนานอีกสัก 5 นาที ระหว่างรอน้ำซุปได้ที่ ตั้งหม้อที่ใส่น้ำสะอาดอีก 1 ใบ เพื่อลวกถั่วงอกแล้วตักสงไว้ให้สะเด็ดน้ำ ใช้น้ำที่ลวกถั่วงอกต้มเส้นก๋วยจั๊บ โดยนำเส้นก๋วยจับไปล้างฝุ่นแป้งที่เกาะเส้นให้หมดเสียก่อน จึงค่อยนำเส้นลงไปต้มขณะน้ำเดือดจัด ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที เส้นสุก หากน้ำที่ต้มมากไปก็เททิ้ง ทิ้งไว้สักพักเส้นจะนิ่มและดูดซึมน้ำเข้าไปอีกนิดหน่อยจนเส้นพอง พอจะกิน ฉันก็ตักถั่วงอกลวกกับเส้นในชาม ตักน้ำซุป กระดูกหมู หัวไชเท้า โรยด้วยผักชีต้นหอม และปรุงรสด้วยเครื่องปรุงพริกเผา แล้วนั่งนึกเอาถึงความอร่อยขอหมูยอที่ขาดหายไปอยู่แว้บๆ เอาเถอะ แค่นี้ก็อร่อยเหลือเฟือจนต้องเอามาเผื่อแผ่กันในคอลัมน์นี้แหละคุณขา
สำหรับสมาชิก >