ฉบับที่ 268 หุ้น ‘STARK’ หายนะนักลงทุนรอบล่าสุด

        น่าเสียดายที่หุ้น STARK ไม่ใช่ตัวเดียวกับบริษัทของ Tony Stark หรือไอรอน แมนแห่งจักรวาลมาร์เวล ไม่งั้นคงเป็นหุ้นเนื้อหอมที่ใครๆ ก็อยากได้ แต่หุ้น STARK ดันเป็นบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม หมวดธุรกิจวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร         ราคาพาร์ตอนเริ่มซื้อขายคือ 1 บาท เคยขึ้นไปสูงสุดที่ 6.65 บาทต่อหุ้นในปี 2562 เรียกว่าถ้าใครได้ซื้อตอนราคาหุ้น 1 บาท แล้วขายตอนราคาสูงสุดก็ได้กำไรไปเหนาะๆ 6 เท่ากว่าๆ แบบนี้ไงใครๆ ถึงอยากเล่นกับไฟในตลาดหุ้น         เดือนสองเดือนที่ผ่านมา STARK กลายเป็นหายนะของใครหลายคน ประเมินกันคร่าวๆ ว่าความเสียหายน่าจะมากกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งมาจากหุ้นกู้ 5 รุ่น รวม 9.1 พันล้านบาทที่ผิดนัดชำระหนี้ไปแล้ว บวกกับข้อกล่าวหาว่ามีการทุจริตงบการเงินอีก 2.5 หมื่นล้านบาท ส่วนราคาหุ้นน่ะหรือ? วันที่ 29 มิถุนายน 2566 หล่นมาเหลือแค่ 0.02 บาท หรือ 2 สตางค์ นักลงทุนบางคนที่ยอมให้สัมภาษณ์แบบไม่เปิดเผยชื่อขาดทุนไป 100 ล้านบาทจาก STARK ตัวเดียว         ลองดูรายได้ของ STARK ปี 2562-2564 มีรายได้ตามลำดับดังนี้ 11,607 ล้านบาท, 16,917 ล้านบาท,  27,129 ล้านบาท ส่วนปี 2565 แค่ 9 เดือนมีรายได้ถึง 21,877 ล้านบาท ขณะที่กำไรตั้งแต่ปี 2562-2564 เรียงตามลำดับคือ 123 ล้านบาท, 1,608 ล้านบาท, 2,783 ล้านบาท และแค่ 9 เดือนของปี 2565 ก็กำไรไปแล้ว 2,216 ล้านบาท รายได้กับกำไรพุ่งพรวดขนาดนี้มีหรือนักลงทุนทั้งรายย่อย รายใหญ่ หรือกองทุนรวมจะไม่เข้าซื้อ         แต่แล้วก็เริ่มมีอะไรแปลกๆ เพราะปี 2565 STARK ไม่ได้ส่งงบการเงิน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เลยต้องขึ้นเครื่องหมาย SP หรือกระงับการซื้อขายชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายน 2565 ก่อนจะรู้ความจริงภายหลังจากงบการเงินปี 2565 ว่า STARK ขาดทุนสะสมมากกว่า 10,379 ล้านบาท ถ้านับหนี้สินที่ติดค้างกับสถาบันการเงินและผู้ถือหุ้นกู้ เท่ากับว่า STARK ล้มละลายไปแล้ว         แน่นอนว่าพอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นทั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลท. กับ 9 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในตลาดทุนก็ต้องออกมาแอ็คชั่นเพื่อเรียกความมั่นใจ...ก็เป็นแบบนี้ทุกที         เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า STARK ที่เป็นซุปเปอร์ฮีโร่มีแต่ในหนัง และ “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน” แล้วก็ต้องคอยติดตามดูให้ดี อย่างที่เห็นว่างบการเงินก็หลอกกันได้ถ้าผู้บริหารตั้งใจจะเล่นแร่แปรธาตุ ลงทุนอย่างระมัดระวัง กระจายความเสี่ยง และอย่าฝากผีฝากไข้ไว้กับหุ้นดาวเด่นตัวใดตัวหนึ่ง         และอยากบอกว่ากรณีหุ้น STARK จะไม่ใช่กรณีสุดท้ายแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม >