ฉบับที่ 106 ผลทดสอบ เอ็มพี 4 ปี 2009

“ปัจจุบันมีคนกว่า 100 ล้านคนทั่วโลกฟังเพลงผ่านเครื่องเล่นพกพาเป็นประจำทุกวัน”กลับมาอีกครั้งกับผลทดสอบเครื่องเล่นเอ็มพี 3 และ 4 ที่องค์กรทดสอบสินค้าระหว่างประเทศ หรือ ICRT ได้ทำการทดสอบไว้ โดยตัวอย่างที่ส่งเข้าทดสอบนั้นเป็นรุ่นที่เก็บตัวอย่างจากประเทศสมาชิกในยุโรป คราวนี้เอาใจผู้รักเสียงเพลงกันอีกครั้งด้วย เครื่องเสียงพกพาทั้งหมด 24 รุ่น ที่ราคาระหว่าง 1,600 - 14,800 บาท โดยมีประเด็นที่ทดสอบหลักๆ ดังนี้  คุณภาพเสียง ความสะดวกในการใช้งาน ความสะดวกในการพกพา ความทนทาน แบตเตอรี่ การโหลดเพลงจากคอมพิวเตอร์ จากการทดสอบ เราพบว่า เราสามารถมีเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาที่เสียงดี ใช้สะดวก ทนทาน แถมฟังเพลงได้นาน ด้วยงบประมาณไม่เกิน 6,000 บาท  ถ้าสิ่งที่คุณคิดว่าสำคัญที่สุดคือคุณภาพเสียง ในกลุ่มที่เราทดสอบก็มีเครื่องเล่นที่มีคุณภาพเสียงในระดับดี (4 ดาว) อยู่ถึง 7 รุ่นให้ได้เลือกกัน ตั้งแต่ราคา 2,800 – 14,800 บาท  ในงบประมาณไม่เกิน 3,000 บาท มีเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น (Apple iPod Shuffle) เท่านั้น ที่มีคุณภาพเสียง 4 ดาว ส่วนแต่ละรุ่นจะมีจุดเด่นจุดด้อยในด้านต่างๆ อย่างไร ดูรายละเอียดได้จากตารางในหน้าถัดไป ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากที่ผู้ขายได้แจ้งไว้ในอินเตอร์เน็ต กรุณาตรวจสอบราคาที่ร้านอีกครั้ง ดาวโหลดตางรางผลการทดสอบ MP4 ++ เสียงเพลงสีเขียวนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Edinburgh ได้คิดค้นและผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอร์รี่ในเครื่องเล่น MP3 และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเจ้าวงจรอิเล็กทรอนิกส์สุดสร้างสรรค์และมากคุณประโยชน์ที่ชื่อว่า “EnCore” ชิ้นนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เร็วขึ้น โดยใช้พลังงานน้อยลง ซึ่งการที่มันช่วยยืดอายุให้กับแบตเตอร์รี่ของเรา เท่ากับเป็นการช่วยลดการเปลี่ยนแบตเตอร์รี่บ่อยๆ ช่วยลดการใช้พลังงาน ซึ่งดีกับสิ่งแวดล้อม ตอนนี้เจ้า “EnCore” ยังอยู่ในขั้นพัฒนา ฉลาดซื้อขอเอาใจช่วยเหล่านักวิทยาศาสตร์ให้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบนี้เสร็จสมบูรณ์ออกมาให้เราได้ใช้กันไวๆ ดังไป ... ไม่อนุญาตคณะกรรมาธิการยุโรป ได้เสนอให้มีการกำหนดความดังของเครื่องเล่นเพลงแบบพกพา สืบเนื่องจากข้อมูลการสำรวจที่พบว่า 1 ใน 10 ของคนที่ฟังเพลงจากเครื่องเล่นพกพาผ่านหูฟัง อาจมีปัญหาทางการได้ยิน นักวิทยาศาสตร์พบว่าการฟังเพลงผ่านหูฟังด้วยเสียงดังๆ เป็นเวลา 1 ชั่วโมงต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลามากกว่า 5 ปี มีโอกาสเสี่ยงอย่างมากที่จะทำให้หูได้รับอันตราย ข้อเสนอนี้กำหนดให้มีการควบคุมความดังของเสียงจากจุดกำเนิดเสียง ซึ่งก็คือตัวปรับเพิ่ม-ลดเสียงของเครื่องเล่นเพลงแบบพกพา ทั้งเครื่องเล่น MP3 และโทรศัพท์มือถือที่มีฟังก์ชั่นการฟังเพลง โดยคณะกรรมาธิการฯ เสนอว่าไม่ควรเกิน 80 เดซิเบล และไม่ควรฟังเกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักชอบปรับเสียงวอลลุ่มให้ดังเข้าไว้ โดยเฉพาะเวลาที่เดินอยู่บนถนนหรือนั่งรถเมล์ อาการเจ็บป่วยที่เกิดจากการฟังเพลงเสียงดังๆ ผ่านหูฟัง อาจจะต้องใช้เวลาเป็นปีๆ กว่าจะแสดงออก ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้นก็อาจสายเกินเยียวยาแล้วปัจจุบันมีคนกว่า 100 ล้านคนทั่วโลกฟังเพลงผ่านเครื่องเล่นพกพาเป็นประจำทุกวัน

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า300 Point