ฉบับที่ 154 อันโกะ กลรักสตรอว์เบอร์รี่ : คำตอบจากนอกหมู่บ้าน

เมื่อช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยมีความพยายามอย่างมากที่จะทบทวนชุดความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมกันขนานใหญ่ โดยเฉพาะการที่ประเทศได้เผชิญกับความล้มเหลวหลายอย่าง อันเนื่องมาแต่การเจริญรอยตามเส้นทางการพัฒนาที่ยึดเอาชาติตะวันตกเป็นแม่แบบ แต่กลับไม่ตอบโจทย์ของสังคมไทยได้เหมาะสม หนึ่งในความพยายามตั้งโจทย์ใหม่ให้กับกระบวนทัศน์การพัฒนาสังคมไทยก็คือ การค้นหาว่า “คำตอบ” ของสังคมเราควรมาจากไหนกันแน่ ??? คุณหมอประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เป็นผู้หนึ่งที่ได้เคยสรุปบทเรียนต่อโจทย์ดังกล่าวเอาไว้ว่า ที่ผ่านมา ความล้มเหลวของการพัฒนาประเทศมักเกิดจากการที่คนไทยเลือกที่จะรับความรู้จากภายนอกมากกว่าเชื่อมั่นความรู้จากภายในของสังคมเอง จนถึงกับที่คุณหมอประเวศได้เคยเสนอคำขวัญให้กับสังคมไทยไว้ว่า “คำตอบอยู่ที่หมู่บ้าน” หรือเป็นคำตอบที่ต้องมาจากรากของชุมชนท้องถิ่นอันมีฐานจากสังคมเกษตรกรรมเท่านั้น ทั้งนี้ เหตุผลที่ “คำตอบ” พึง “อยู่ที่หมู่บ้าน” ก็คงเป็นเพราะว่า คำตอบที่เรารับมาจากนอกหมู่บ้าน หรือกล่าวจำเพาะว่าเป็นคำตอบที่เรารับมาจากชาติตะวันตกนั้น บ่อยครั้งจะมีเงื่อนไขในการใช้ที่ไม่สอดรับกับฐานวิธีคิดของคนไทยเอาเสียเลย   ตัวอย่างของปัญหาอันเนื่องมาจากการรับคำตอบจากภายนอกแบบนี้ สะท้อนออกมาให้เห็นได้จากละครโทรทัศน์แนวโรแมนติกคอมเมดี้อย่าง “อันโกะ กลรักสตรอว์เบอร์รี่” เรื่องราวชีวิตของ “อันยา” หรือเจ้าแม่นัมเบอร์วันแห่งวงการเฮดฮันเตอร์เจ้าของสมญาว่า “อันโกะ” เริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอต้องเข้าไปรับจ็อบไล่ล่าทำลายชื่อเสียงของ “ดร.แสน” วิศวกรหนุ่มด้านการตัดต่อพันธุกรรมพืช ซึ่งล่าสุดได้พัฒนาสายพันธุ์ข้าวขึ้นมาใหม่ ที่ช่วยให้ชาวนารอดพ้นวิกฤติผลผลิตตกต่ำได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ปมสาเหตุของการไล่ล่าหัวเฮดฮันเตอร์แบบนี้ ก็เนื่องมาจากการที่บริษัทธุรกิจเกษตรข้ามชาติอย่าง “วิชั่นออฟฟิวเจอร์” ไม่พอใจ ดร.แสน ที่ปฏิเสธเงินล้าน ซึ่งบริษัททุ่มทุนซื้อตัวให้มาทำงานด้วย แถมเขายังเลือกตั้งป้อมเป็นศัตรูกับบรรษัทข้ามชาติด้วยการเปิดบริษัทช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาในชื่อว่า บริษัท “เพียงพอดี” ขึ้นมาเป็นคู่แข่งอีกด้วย แม้ในด้านหนึ่ง ละครจะได้สร้างสีสันให้ผู้ชมได้สนุกสนานและประหลาดใจกับชุดแฟชั่นของอันโกะ ที่โยกจากแคทวอล์กมาเดิน “ตกคันนาตาลอย” อยู่ในท้องนา แต่อีกด้านหนึ่ง ด้วยเนื้อหาเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างผลประโยชน์เยี่ยงนี้ ละครก็ได้เปิดโปงให้เห็นกลยุทธ์อันน่ากลัวหลายอย่างที่ธุรกิจเกษตรข้ามชาติใช้เพื่อไล่ล่าคู่อริที่ขัดขวางผลกำไรจากการลงทุนของพวกเขา นับตั้งแต่ธุรกิจข้ามชาติได้ว่าจ้างอันโกะและทีมงานเข้าไปเป็นสปายสายลับในบริษัทเพียงพอดี และใส่ร้ายป้ายสีทำลายชื่อเสียง ดร.แสน ในทุกวิถีทาง การเข้าไปปลุกระดมชาวบ้านให้ปฏิเสธการทำเกษตรอินทรีย์ การเข้าไปร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ “กำนัลโกมล” ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ไปจนถึงการวางโครงข่ายอำนาจและเครือข่ายการขายสินค้าไว้กับตัวแทนจำหน่ายในหมู่บ้านนั้นไว้เอง แต่ทว่า ในความเพลิดเพลินกับชุดเสื้อผ้าที่หวือหวาของนางเอกอันโกะ กับกลยุทธ์ “ไม่เอาด้วยเล่ห์ก็ต้องได้ด้วยกล” ที่จะทำลาย ดร.แสน และบริษัทเพียงพอดีนั้น ก็บ่งบอกนัยด้วยว่า ทุกวันนี้การพัฒนาวิถีการเกษตรในบ้านเรามีแนวโน้มจะเป็นการพัฒนาแบบที่ต้องพึ่งพิง “ชุดความรู้” จาก “ภายนอก” ชุมชนท้องถิ่นแทบทั้งสิ้น และที่สำคัญ ความรู้จากภายนอกที่เกษตรกรต้องพึ่งพิงนั้น ก็แบ่งได้เป็นอย่างน้อยสองฝักสองฝ่าย หนึ่งก็คือความรู้แบบที่จะช่วย “ปลดปล่อย” คุณภาพชีวิตชาวนา เช่นภาพของ ดร.แสน ที่ใช้องค์ความรู้วิศวพันธุกรรมศาสตร์มาเกื้อกูลวิถีทางเศรษฐกิจของชาวบ้าน กับอีกหนึ่งชุดความรู้ที่เป็นของภาคธุรกิจ ซึ่งเน้น “การครอบงำ” เพื่อให้ชาวนาถูกผูกพันธนาการอยู่กับต้นทุนกำไรที่บริษัทเกษตรข้ามชาติจะได้รับ ในด้านหนึ่ง ความรู้แบบแรกอาจจะดูเรียบง่ายใสซื่อ ไม่ทันเพทุบายของบรรษัทข้ามชาติก็จริง แต่ก็เป็นความรู้ที่เกิดจากความจริงใจ เหมือนกับวิถีชีวิตของ ดร.แสน ที่ติดดินเรียบง่ายปั่นจักรยานไปทำงานแทนการขับรถทุกวัน ตรงกันข้ามกับองค์ความรู้ของธุรกิจข้ามชาติ ที่เป้าหมายเพื่อการครอบงำนั้น ก็อาจจะมีลักษณะหวือหวาตื่นตาเหมือนกับชุดเสื้อผ้าหลุดโลกของอันโกะ แต่เบื้องลึกเบื้องหลังนั้น ช่างฉาบเคลือบไว้ด้วยมิจฉาทิฐิ และความพยายามเข้าไปครอบงำไล่ล่าชุดความรู้แบบอื่นที่ไม่เอื้อต่อประโยชน์กำไรของนายทุนต่างชาติเอาเสียเลย อย่างไรก็ดี ด้วยจุดยืนแบบละครโรแมนติกคอมเมดี้นั้น ผู้ชมเองก็คงคาดเดาได้ไม่ยากว่า ฉากจบของละครก็ต้องเน้นให้เกิดภาพของการประสานปรองดองกันของตัวละครที่อยู่กันคนละฝักฝ่ายอย่างแน่นอน แบบเดียวกับที่อันยาหรืออันโกะก็จะค่อย ๆ เรียนรู้ในท้ายที่สุดว่า ระหว่างความรู้ของ ดร.แสน ผู้สุดแสนซื่อและจริงใจ กับความรู้อันมาจากการครอบงำของทุนข้ามชาตินั้น องค์ความรู้แบบแรกเท่านั้นที่น่าจะเป็น “คำตอบ” ที่ถูกต้องที่สุดสำหรับ “หมู่บ้าน” และการพัฒนาสังคมไทย แม้ในพื้นที่จินตนาการ เราอาจจะเห็นการเลือกข้างความรู้แบบเกษตรทางเลือกให้เป็นคำตอบของชุมชนเกษตรกรรมที่อยู่ในโลกของละคร แต่ในโลกความจริงนั้น ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่ชีวิตชาวนาหรือเกษตรกรของไทยจะหลีกพ้นลัทธิการพึ่งพิงความรู้เกษตรแบบครอบงำไปได้เสียทีเดียว แต่กระนั้น สิ่งหนึ่งที่เรื่องราวชีวิตของอันโกะและ ดร.แสน ชวนให้ขบคิดต่อไปก็คือ หากทุกวันนี้ “คำตอบจากหมู่บ้าน” เริ่มลางเลือน หรืออาจมิใช่ “คำตอบเพียงหนึ่งเดียว” ในการพัฒนาสังคมหมู่บ้านอีกต่อไปแล้ว ท่าทีของสังคมไทยต่อ “คำตอบจากนอกหมู่บ้าน” นั้น ควรเป็นเส้นทางการเลือกรับองค์ความรู้แบบใดกัน  

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า250 Point

ฉบับที่ 168 กระแสต่างแดน

โบนัสขจัดมลพิษ กระทรวงสิ่งแวดล้อมของฝรั่งเศสต้องการส่งเสริมให้ผู้คนเปลี่ยนจากการใช้รถยนต์ดีเซลมาใช้รถพลังงานไฟฟ้า จึงเสนอให้เงิน 10,000 ยูโร (ประมาณ 370,000 บาท) กับผู้ที่ยินดีเปลี่ยน โครงการนี้จะเริ่มในเดือนเมษายนนี้ รมต.สิ่งแวดล้อมบอกว่าถึงเวลาแล้วที่จะหยุดละเมิดสุขภาพของประชาชน เพราะมีเทคโนโลยีที่เป็นทางออกแล้ว แต่เงื่อนไขมีอยู่ว่าคุณต้องเป็นผู้อยู่อาศัยในเขตที่มีมลภาวะสูงที่สุดในประเทศที่นิยมเรียกกันว่า PPA ทั้ง 23 เขต และคุณต้องมีหลักฐานมาแสดงว่าคุณได้นำรถที่อายุเกิน 13 ปีของคุณไปส่งที่สุสานรถเก่าแล้ว สินจ้างรางวัลสำหรับคนรักสิ่งแวดล้อมยังมีอีก เช่น เจ้าของรถไฮบริดทั่วไปจะได้รับโบนัส 1,500 ยูโร (55,900 บาท) แต่ถ้าใครใช้รถไฮบริดแบบชาร์จไฟได้ก็มีโบนัสให้ 2,500 ยูโร (93,000 บาท) ในทางกลับกัน เจ้าของรถที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต้องเสียค่าปรับ ระหว่าง 150 – 3,700 ยูโร (5,600 – 138,000 บาท) ฝรั่งเศสวางแผนติดตั้งสถานีชาร์จแบตฯให้ได้ 7 ล้านจุดทั่วประเทศ ทั้งในบริเวณลานจอดรถทั้งของรัฐและเอกชน สถานีรถไฟ ซูเปอร์มาร์เก็ต และสนามบิน   มีขึ้นต้องมีลง มาเลเซียประกาศลดค่าไฟฟ้าในเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ... ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ต้นทุนการผลิตเขาลดลง รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน เทคโนโลยีสะอาด และน้ำ ประกาศว่าค่าไฟจะลดลงร้อยละ 3.5 สำหรับครัวเรือนบนคาบสมุทรมาเลย์ ในขณะที่ผู้ใช้ไฟในซาบาห์และลาบวนก็จะเสียค่าไฟน้อยลงร้อยละ 5.8 เช่นกัน เอาเป็นว่าเขาจะประหยัดกันได้เดือนละประมาณ 120 บาท และ 400 บาท ตามลำดับ เขาบอกว่าร้อยละ 70 ของผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากงานนี้ ที่ทำได้เพราะว่าบริษัทเทนากา เนชั่นแนล ผู้ผลิตกระแสไฟฟ้ารายใหญ่ของมาเลเซียเขาสามารถประหยัดเงินได้ 700 กว่าล้านริงกิต (ไม่ต่ำกว่า 6,600 ล้านบาทไทย) จากค่าเชื้อเพลิงและค่าการผลิตที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา ถามว่าทำไมถึงลดแค่เดือนมิถุนายน ก็เพราะมาเลเซียใช้กลไกการคิดอัตราค่าไฟแบบ ICPT (Imbalance Cost Pass Through) ที่ทำให้รัฐสามารถเพิ่มหรือลดอัตราค่าไฟได้ด้วยการคำนวณจากราคาของถ่านหิน ก๊าซ และน้ำมันดิบ โดยรัฐจะคำนวณอัตราค่าไฟทุกๆ 6 เดือน เอาเป็นว่าเดือนมิถุนายนนี้มาดูกันใหม่อีกที อาจจะถูกหรือแพงกว่านี้ก็ต้องมาลุ้นกัน ... ยังดีที่ได้มีโอกาสลุ้น เครื่องดื่ม 18 + คณะกรรมการยุโรปด้านสุขภาพและความปลอดภัยด้านอาหารกำลังพิจารณาห้ามขายเครื่องดื่มผสมคาเฟอีนให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เรื่องนี้เรื่องใหญ่ของเขาเพราะร้อยละ 68 ของเยาวชนของเขานิยมดื่มเครื่องดื่มดังกล่าว มีถึงร้อยละ 24 ที่ดื่มถึงสัปดาห์ละ 4 ครั้ง นอกจากนี้งานวิจัยขององค์การความปลอดภัยทางอาหารของยุโรปเขาพบว่า ไม่ว่าจะผู้ใหญ่หรือวัยรุ่นก็ไม่ควรได้รับคาเฟอีนเกินกว่าวันละ 3 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เครื่องดื่มดังกล่าวในปริมาณ 500 มิลลิกรัม ก็มีคาเฟอีนในปริมาณเกินกว่าที่เด็กอายุ 12 ควรได้รับต่อวันแล้ว และมันยังอันตรายมากสำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจ เพราะมันอาจเร่งความเร็วในการเต้นของหัวใจ ทำให้ความดันสูงขึ้นและทำให้เสียชีวิตในที่สุด ข่าวนี้เป็นที่สรรเสริญขององค์กรที่รณรงค์เรื่องอาหารปลอดภัยอย่าง Foodwatch  ในขณะที่เครื่องดื่ม “บำรุงกำลัง” ยี่ห้อที่ขายดีที่สุดในโลกอย่างเรดบูล หรือที่บ้านเราเรียกกระทิงแดง ออกมาโต้ตอบว่า คาเฟอีนที่ผู้คนทุกวันนี้ได้รับส่วนใหญ่นั้นมาจาก ชา กาแฟ และน้ำอัดลม ไม่ได้มาจากเครื่องดื่มชนิดนี้เสียหน่อย   ปรับไม่เลี้ยง ศาลเยอรมันสั่งให้เทศบาลเมืองไลป์ซิกจ่ายค่าชดเชย 15,000 ยูโร (ประมาณ 560,000 บาท) ให้กับสามครอบครัวที่รวมตัวกันฟ้อง พ่อแม่เหล่านี้บอกว่าพวกเขาได้รับความเดือดร้อนลำบากจากการที่เทศบาลมีสถานรับเลี้ยงเด็กไม่เพียงพอสำหรับลูกๆในวัยขวบกว่าของพวกเขา ทำให้ต้องผลัดกันลางานมาเลี้ยงลูกและยอมถูกหักเงินเดือน เพราะตามกฎหมาย รัฐจะต้องจัดหาสถานรับเลี้ยงเด็กสำหรับเด็กวัย 1 ปีขึ้นไปให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน เทศบาลเมืองนี้ก็ยืนยันว่าเขากำลังเร่งสร้างศูนย์รับเลี้ยงเด็กเพิ่มเติมอยู่ เพียงแต่มันมีปัญหาขลุกขลักนิดหน่อยในขั้นตอนการวางแผนและการทำสัญญาการก่อสร้างนี่แหละพี่น้อง แต่ศาลถือว่านั่นไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างของการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของเทศบาลได้ ในเยอรมนี พ่อแม่มีสิทธิหยุดงานโดยได้ยังรับค่าจ้าง 15 เดือน(ทั้งนี้แต่ละฝ่ายหยุดได้ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 12 เดือน) และสามารถหยุดงานเพื่อเลี้ยงลูกได้สูงสุดถึง 3 ปี   อย่างนี้ต้องพิสูจน์ มินห์ พบแมลงวันตายหนึ่งตัวในเครื่องดื่มยี่ห้อนัมเบอร์วัน เขาจึงโทรหาบริษัทผู้ผลิตแล้วบอกว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครรู้ถ้าบริษัทยินดีจ่ายค่าเสียหาย 1,000 ล้านดอง(ประมาณ 1,540,000 บาท) ให้กับเขา แต่ถ้าไม่จ่ายเขาจะฟ้องสื่อ บริษัทจึงตกลงจ่ายให้ครึ่งหนึ่ง(โดยไม่ลืมแจ้งตำรวจไว้ด้วย) ผลคือมินห์ถูกตำรวจรวบตัวได้ขณะที่มารับเงินและถูกดำเนินคดีข้อหาขู่กรรโชกทรัพย์ และขวดเครื่องดื่มที่ว่าก็ถูกตรวจสอบพบว่ามีร่องรอยการเจาะโดยวัตถุมีคม แต่เดี๋ยวก่อน เรื่องนี้ยังจบไม่ได้ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้กระทรวงอนามัยและความปลอดภัยด้านอาหารของเวียดนาม ตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมาตรวจสอบสายการผลิตของบริษัททัน เฮียบ พัด กรุ๊ป ผู้ผลิตเครื่องดื่มดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็มีการส่งต่อเรื่องราวในอินเตอร์เน็ตว่าด้วยเรื่องเครื่องดื่มของบริษัทนี้ที่เปลี่ยนสี เปลี่ยนสภาพ หรือมีสิ่งปลอมปนทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงวันหมดอายุ จนกระทั่งเกิดกลุ่มผู้บริโภคที่ชักชวนกันผ่านโซเชียลมีเดียให้บอยคอตผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้ด้วย ที่สำคัญเมื่อ 6 ปีก่อน ทางการเคยตรวจพบผลิตภัณฑ์แต่งกลิ่นที่หมดอายุแล้วกว่า 67 ตันในโกดังของบริษัทนี้ทั้งที่เมืองบินห์ดวงและโฮจิมินห์ บริษัทดังกล่าวมีส่วนแบ่งประมาณร้อยละ 40 ของตลาดชาพร้อมดื่มในเวียดนาม และร้อยละ 14 ของเครื่องดื่มบำรุงกำลัง  

อ่านเพิ่มเติม >