ฉบับที่ 128 ยังต้องระวัง ไส้กรอกสีสด

  มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคยังทำหน้าที่เฝ้าระวังเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหารอย่างต่อเนื่อง ปีที่แล้วถ้าจำกันได้ เราตรวจหาสีและวัตถุกันเสียในไส้กรอกหมูและไส้กรอกไก่ ทำให้รู้ว่า หลายยี่ห้อใส่วัตถุกันเสีย(สารกันบูด) เกินมาตรฐาน   ผ่านไปปีกว่าๆ  ฉลาดซื้อและมูลนิธิฯ เลยขอตามติดใกล้ชิดไส้กรอกกันอีกสักรอบว่า สถานการณ์ดีขึ้นหรือแย่ลง โดยเก็บตัวอย่างไส้กรอกกลุ่มพรีเมี่ยมทั้งแบบบรรจุถุงและแบบตักแบ่งขาย (ยี่ห้อเดิมที่เคยเก็บเท่าที่หาซื้อได้) จากห้างค้าปลีกสมัยใหม่ และตัวอย่างไส้กรอกสำหรับตลาดล่างจากตลาดสด รวมทั้งสิ้น 19 ตัวอย่าง แบ่งเป็นไส้กรอกหมู 9 ตัวอย่าง ไส้กรอกไก่ 6 ตัวอย่าง และไม่ระบุประเภทเนื้อที่ใช้ 4 ตัวอย่าง   ชื่อผลิตภัณฑ์ ผู้ผลิต / จำหน่าย ว.ด.ป. ผลิต / หมดอายุ ส่วนประกอบที่ระบุ การระบุฉลากเรื่องวัตถุกันเสีย ผลทดสอบ เบนโซอิค (มก./กก.) ซอร์บิค (มก./กก.) ไนเตรท* (มก./กก.) ไนไตรท์* (มก./กก.) สี (มก./กก.) ซีพี – แฟรงค์เฟริตเตอร์ บ.กรุงเทพโปรดิ้วส์ จำกัด (มหาชน) จำหน่าย ซีพีเอฟ เทรดดิ้ง 26/7/54 25/8/54 เนื้อสัตว์ น้ำตาล เกลือ เครื่องเทศ ไม่ระบุ ไม่พบ ไม่พบ - - ไม่พบ หมูตัวเดียว ไส้กรอกหมูคอกเทล บ.บางกอกแฮมโปรดักส์ ซิฟฟลาย จำกัด 22/7/54 22/8/54 เนื้อหมู เครื่องเทศ น้ำตาล ไม่ระบุ ไม่พบ ไม่พบ - - ไม่พบ S&P ไส้กรอกคอกเทล บ.S&P ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) 14/7/54 28/8/54 เนื้อหมู เครื่องปรุงรส น้ำ เครื่องเทศ ไม่ระบุ (บอกว่าไม่ใส่สีไม่ใส่ผงชูรส) ไม่พบ ไม่พบ - - ไม่พบ TGM ไส้กรอกเวียนนาหมู บ.ไทยเยอรมันมีทโปรดักท์ จำกัด จำหน่าย บ.ไทยซอสเซส มาร์เก็ตติ่ง จำกัด 20/7/54 19/8/54 เนื้อหมู 80% น้ำ 15% เครื่องปรุงรส 5%   ระบุ (ใช้โมโนโซเดียมกลูตาเมต) ไม่พบ ไม่พบ - - ไม่พบ คุ้มค่า tesco คอกเทลหมู บ.ซีพีเอฟ ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด 22/7/54 3/8/54 เนื้อหมู น้ำตาล เกลือ เครื่องเทศ ไม่ระบุ   ไม่พบ ไม่พบ - - ไม่พบ หมู 2 ตัว คอกเทลหมู บ.ไทยเยอรมันมีทโปรดักท์ จำกัด 27/7/54 3/8/54 ไม่ระบุ ไม่ระบุ ไม่พบ ไม่พบ - - ไม่พบ หมู 2 ตัว ไส้กรอกไก่ (ตักขาย) บ.ไทยเยอรมันมีทโปรดักท์ จำกัด (โลตัส บางประกอก) 31/7/11 7/8/11 - - ไม่พบ ไม่พบ - - ไม่พบ หมูตัวเดียวคอกเทลไก่ (ตักขาย) ซื้อที่ โลตัส บางประกอก 31/7/11 7/8/11 - - ไม่พบ ไม่พบ - - ไม่พบ ซีพี คอกเทลไก่ (ตักขาย) ซื้อที่ โลตัส บางประกอก 31/7/11 7/8/11 - - ไม่พบ ไม่พบ - - ไม่พบ เทสโก้ ไส้กรอกเวียนนาหมู บ.กรุงเทพโปรดั๊กส์ จำกัด  (มหาชน) ผลิตให้เฉพาะเทสโก้ 24/7/11 17/8/11 เนื้อสัตว์ เครื่องเทศ เครื่องปรุงรส ใช้ผลชูรส ใช้วัตถุกันเสีย ไม่พบ ไม่พบ - - ไม่พบ BK Products ฮอทดอก กริลไก่ บ.กรุงเทพโปรดั๊กส์ จำกัด  (มหาชน) ซีพี เทรดดิ้ง จำกัด จัดจำหน่าย   27/7/54 11/8/54 เนื้อไก่ น้ำ เครื่องเทศ, เครื่องปรุงรส มีส่วนผสมของกลูเตนจากข้าวสาลี โปรตีนจากถั่วเหลือง แป้งมันสำปะหลังดัดแปลง ใช้วัตถุกันเสีย ไม่พบ ไม่พบ - - ไม่พบ PF foods (ไม่ได้แจ้งว่าเป็นไส้กรอกอะไร) บ.ฟลายฟูดส์ จำกัด 99/9 ม.3 ตำบลนาดี อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ไม่แจ้ง - -   ไม่พบ ไม่พบ - - ไม่พบ บีลัคกี้ เวียนนาหมู หจก.บีลัคกี้ 15/7/54 13/8/54 เนื้อหมู 80% น้ำ 15% เครื่องเทศ 5% ระบุว่าไม่ใส่สารกันบูด และไม่ใส่สี ไม่พบ ไม่พบ ไม่พบ ไม่พบ ไม่พบ แหลมทอง แฟรงค์ไก่ บ.แหลมทองโปรตีนฟู้ด จำกัด วันหมดอายุ 6/8/54 เนื้อไก่ เครื่องเทศ เครื่องปรุง ไม่ใช้วัตถุกันเสีย ไม่พบ ไม่พบ 0.77 0.173 ไม่พบ ซีพี มินิคอกเทล (ไม่แจ้งว่าเป็นเนื้ออะไร บ.กรุงเทพโปรดิ๊วส์ จำกัด (มหาชน) 30/7/54 11/8/54 เนื้อสัตว์ น้ำตาล เกลือ เครื่องเทศ - 742.61 339.90 - - ไม่พบ JPM ไส้กรอกหมู บ.เจพีเอ็ม ซอสเซส จำกัด 23/7/54 23/8/54 เนื้อหมู 83% ไขมัน  10% เครื่องปรุง 4% แป้ง 2% น้ำแข็ง 1%     ไม่ระบุ 895.68 ไม่พบ - - ไม่พบ M A ไส้กรอกเวียนนาหมู บ.เจ แอนด์ โอ โปรเซสซิ่ง จำกัด 23/7/11 23/8/11 เนื้อสัตว์ น้ำตาล เกลือ เครื่องเทศ - 977.90 ไม่พบ - - ไม่พบ Better food ไส้กรอกเวียนนารมควัน บ.อาหารเบทเทอร์ จำกัด   14/7/54 13/8/54 เนื้อสัตว์อนามัย ไขมัน น้ำตาล เกลือ เครื่องเทศ ไม่ระบุ ไม่พบ 648.54 - - ไม่พบ Better Food ไส้กรอกนม (ไส้กรอกไก่) บ.อาหารแบทเบอร์ จำกัด 27/7/11 16/8/11 เนื้อไก่ 78% เครื่องปรุงรส+เครื่องเทศ 5% น้ำแข็ง 10% แป้ง 4% หางนม 3% - ไม่พบ 1,953.99 - - 3.79   ผลทดสอบไส้กรอก ยังพบว่ามีการใช้วัตถุกันเสียที่เกินมาตรฐานในบางยี่ห้อ (บางยี่ห้อซ้ำเดิมกับที่เคยพบเมื่อครั้งก่อน)  ในบางยี่ห้อที่ตรวจพบวัตถุกันเสียโดยที่ ไม่มีการแสดงฉลากระบุว่า มีการใช้วัตถุกันเสีย ซึ่งถือเป็นการแสดงฉลากที่ไม่ถูกต้อง  จากการทดสอบในครั้งนี้ (19 ตัวอย่าง) พบว่า กลุ่มวัตถุกันเสียที่ใช้เป็นกลุ่มเบนโซอิคและซอร์บิค โดยกติกาของ อย. ยอมรับให้ใส่วัตถุกันเสียในกลุ่มเบนโซอิคได้ ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม แต่ต้องขออนุญาตก่อน ส่วนซอร์บิคนั้น ไม่ได้รับการยอมรับให้นำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อสัตว์ จึงอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย  ผลทดสอบวัตถุกันเสีย กลุ่มเบนโซอิคและซอร์บิค1. ไม่พบผลิตภัณฑ์ไส้กรอกที่ใส่กรดเบนโซอิคเกินมาตรฐาน แค่เฉียดๆ คือ M A ไส้กรอกเวียนนาหมู 977.90  มิลลิกรัม/กิโลกรัม (เกือบไป)  2. พบกรดซอร์บิคในตัวอย่าง 3 ยี่ห้อจาก 19 ยี่ห้อที่ส่งทดสอบ ได้แก่ Better Food ไส้กรอกนม(ไส้กรอกไก่) 1,953.99 มิลลิกรัม/กิโลกรัม, Better food ไส้กรอกเวียนนารมควัน 648.54 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และซีพี มินิคอกเทล(ไม่ระบุประเภทเนื้อสัตว์)  339.90  มิลลิกรัม/กิโลกรัม  3. พบผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทั้งกรดเบนโซอิคและกรดซอร์บิคร่วมกันจำนวน 1 ตัวอย่าง คือ ไส้กรอกซีพี มินิคอกเทล ปริมาณรวมที่พบคือ 1,082.51 มิลลิกรัม/กิโลกรัม แบ่งเป็นกรดเบนโซอิค 742.61 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และกรดซอร์บิค 339.90 มิลลิกรัม/กิโลกรัม  4. วัตถุกันเสีย กลุ่มไนเตรทและไนไตรท์ พบไนเตรทและไนไตรท์ ในแหลมทอง แฟรงค์ไก่ ในปริมาณน้อยมาก คือ 0.77 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และ 0.173 มิลลิกรัม/กิโลกรัม  การใช้สีผสมในอาหาร (ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ไส้กรอกห้ามใส่สี)  5. พบการใช้สีสังเคราะห์ใน Better Food ไส้กรอกนม (ไส้กรอกไก่)   3.79   มิลลิกรัม/กิโลกรัม   สรุป โดยภาพรวมต้องถือว่า ไส้กรอกในระดับยี่ห้อพรีเมี่ยม มีระดับความปลอดภัยจากเรื่องวัตถุกันเสีย และสี ค่อนข้างสูง จากการเฝ้าระวังในครั้งนี้ ต้องขอบคุณผู้ผลิตทุกรายที่รักษาคุณภาพมาตรฐานในผลิตภัณฑ์ของตน และหวังว่าจะทำได้ดีตลอดไป  ไส้กรอก เป็นเทคนิคการถนอมอาหารที่เก่าแก่อย่างหนึ่ง นับถอยหลังไปได้ถึง สมัยบาบิโลเนีย หรือเมื่อประมาณ 3,500 ปีมาแล้ว กุนเชียง ไส้อั่ว หมูยอ หม่ำ และไส้กรอกอีสาน ก็นับเป็นไส้กรอกชนิดหนึ่งเช่นกัน   ไส้กรอกอย่างฝรั่ง เรียกว่า sausage มีรากศัพท์จากภาษาละติน “salsus" หมายถึง เนื้อสัตว์ที่มีการเก็บรักษาโดยใช้เกลือ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 127 โซเดียมในปลากระป๋อง

  ปลากระป๋องถือเป็นอีกหนึ่งอาหารที่อยู่คู่ครัวคนไทย ยิ่งในยุคที่ข้าวยากหมากแพง หมูแพง ผักแพง น้ำมันก็แพง จะซื้อหาอะไรมาทำกับข้าวก็ปวดหัวปวดใจ จะกินอะไรก็ต้องคิดแล้วคิดอีกเป็นห่วงเงินในกระเป๋า ปลากระป๋องนี่ล่ะ เป็นทางเลือกสำหรับคนงบน้อยแต่อร่อยแล้วก็อิ่มด้วย ในยามยากปลากระป๋องยังเป็นที่พึ่งพาสำหรับผู้ประสบภัยต่างๆ  ในเวลาที่บ้านเมืองเจอภัยพิบัติ ทั้งน้ำท่วม ดินถล่ม หรือแม้แต่คนที่เดินทางไกล เข้าป่าฝ่าดง ซึ่งการหุงหาอาหารกินเองเป็นเรื่องลำบาก ปลากระป๋องและรวมถึงอาหารกระป๋องชนิดอื่นๆ นับเป็นตัวช่วยที่ดี เพราะจะเปิดกินเมื่อไหร่ก็ได้สะดวกสบาย แถมเก็บไว้ได้นานเป็นปี ที่สำคัญคือราคาไม่แพงมาก แต่ปลากระป๋องก็คืออาหารแปรรูปชนิดหนึ่ง คุณค่าทางอาหารที่มีก็ต้องสูญเสียไปตามขั้นตอนการผลิต เรียกว่าเทียบไม่ได้กับอาหารที่ทำสดๆ ใหม่ๆ แถมถ้ากินมากเกินไปร่างกายของเราก็มีสิทธิเสี่ยงโรคร้ายทั้ง โรคไต โรคหัวใจ ความดัน จาก “โซเดียม” ที่มีอยู่ในปลากระป๋อง   ปลากระป๋องถือเป็นอาหารที่ผลิตในระบบอุตสาหกรรม ผลิตเพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งขายออกไปทั่วโลก โรงงานผลิตปลากระป๋องในบ้านเราก็จะตั้งอยู่ในจังหวัดที่อยู่ใกล้หรือติดกับทะเล โดยเฉพาะหลายจังหวัดในภาคใต้ รวมถึงจังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร และกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ใกล้กับทรัพยากรในการผลิต ส่วนประกอบหลักๆ ในการผลิตปลากระป๋องก็คือ ปลา ที่เรารู้จักกันดีก็คือ ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล และปลาทูน่า แต่ผู้ผลิตบางรายก็เลือกใช้ปลาทูแขกหรือปลาทูลังแทนปลาซาร์ดีน เพราะปลาซาร์ดีนหายากมากในทะเลบ้านเรา ซึ่งปลาทูแขกหรือปลาทูลังก็จัดอยู่ในสายพันธุ์เดียวกันกับปลาซาร์ดีน ส่วนประกอบถัดมาที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ ซอสปรุงรส ที่นิยมกันมากๆ ก็คือ ซอสมะเขือเทศ น้ำมัน หรือน้ำกลือ แต่เดี๋ยวนี้ก็พัฒนาดัดแปลงทำเป็นสูตรแกงต่างๆ ทั้ง พะแนง มัสมั่น แกงเขียวหวาน ฉู่ฉี่ เป็นการเพิ่มรสชาติใหม่ๆ ไม่จำเจอยู่แค่ปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศ และอย่างสุดท้ายก็คือ กระป๋อง ทำจากดีบุกหรืออะลูมิเนียมซึ่งกระป๋องที่ใช้สำหรับบรรจุอาหารส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปี----------------------------------------------- ผลทดสอบปริมาณโซเดียมในปลากระป๋อง +ฉลาดซื้อสุ่มตัวอย่างปลากระป๋องที่ขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดจำนวน 18 ยี่ห้อ แบ่งเป็น ปลาซาร์ดีนในซอสมะเขือเทศ 12 ยี่ห้อ และปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศอีก 6 ยี่ห้อ + Thai RDI (Thai Recommended Daily Intakes) แนะนำปริมาณโซเดียมที่เหมาะสมกับการบริโภคต่อวันสำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป คือไม่เกิน 2,400 มิลลิกรัม  +ซูเปอร์ซีเชฟ ปลาซาร์ดีนในซอสมะเขือเทศ พบมีปริมาณโซเดียมต่อ 1 กระป๋องมากที่สุดคือ 823.05 มิลลิกรัม หรือประมาณ 1 ใน 3 ของปริมาณที่แนะนำในการบริโภคต่อวัน ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างสูง เพราะอย่าลืมว่าอาหารเกือบทุกอย่างที่รับประทานในแต่ละวันที่โซเดียมเป็นส่วนประกอบเกือบทุกชนิดมากน้อยแตกต่างกันไป โดยเฉพาะอาหารจานหลักต่างๆ ที่ต้องมีการเติมเครื่องปรุงรส ไม่ว่าจะเป็น น้ำปลา ซีอิ้ว ให้โซเดียมสูง น้ำปลาหรือซีอิ้ว 1 ช้อนชามีโซเดียมประมาณ 350 – 500 มิลลิกรัม นี่ยังไม่รวมพวกขนมขบเคี้ยวต่างๆ ที่หลายๆ ชอบรับประทานเป็นอาหารว่าง ซึ่งมีโซเดียมอยู่สูงเช่นกัน  +ส่วนประกอบหลักของปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศก็คือ ปลาและซอสมะเขือเทศ ซึ่งในซอสมะเขือเทศนั่นแหละที่เป็นแหล่งของโซเดียม นอกจากนี้ผู้ผลิตเค้ายังมีการเติมทั้งเกลือและโมโนโซเดียมกลูตาเมต ที่ล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งของโซเดียมอีกด้วย +เพราะคนไทยเราพิถีพิถันในเรื่องอาหารการกิน ปลากระป๋องก็เลยต้องเอามาปรุงใหม่เพื่อให้อร่อยถูกใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่นำปลากระป๋อ งมาอุ่นร้อนก่อนรับประทาน เมนูยอดฮิตก็ต้องให้ต้มยำปลากระป๋อง แต่ต้องระวังเวลาปรุงรสด้วยนะอย่าให้เค็มเกินไป เพราะปลากระป๋องก็มีโซเดียมสูงอยู่แล้ว เติมโซเดียมจากน้ำปลาเข้าไปอีกจะยิ่งอันตราย  +อีกเมนูปลากระป๋องสุดโปรดของหลายๆ คนก็คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับปลากระป๋อง เพราะแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 ซอง ก็มีโซเดียมอยู่ถึง 1,500 – 1,800 มิลลิกรัม ถ้ารวมกับปลากระป๋องเข้าไปอีก รับรองโซเดียมพุ่งปี๊ดแน่นอน โปรดระวัง+อายุของปลากระป๋องจะอยู่ที่ 2 ปี แต่ปลากระป๋องที่เก็บไว้นานๆ หรือใกล้วันหมดอายุก็ไม่ควรรับประทาน เพราะยิ่งนานๆ เนื้อปลาก็จะยิ่งเสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ   วิธีเลือกซื้อปลากระป๋อง+ต้องมีฉลากแสดงข้อมูล ชื่ออาหาร ชื่อ - ที่อยู่ผู้ผลิต วันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ ส่วนประกอบ ข้อมูลโภชนาการ ที่สำคัญที่สุดคือฉลากต้องเป็นภาษาไทย  +ดูความเรียบร้อยของกระป๋อง ว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่ กระป๋องต้องไม่บุบหรือบวม หรือมีรอยขีดข่วน ต้องเช็คดูตามตะเข็บของกระป๋องว่าไม่มีรอยรั่วซึม ซึ่งอาจทำให้อากาศและเชื้อจุลินทรีย์เข้าไปในกระป๋องทำให้อาหารเน่าเสีย ซึ่งสาเหตุมักเกิดจากขั้นตอนการขนส่งหรือจัดเก็บ ส่วนการที่กระป๋องบวมอาจมีสาเหตุจากขั้นตอนการไล่อากาศออกไม่หมด ทำให้ยังมีออกซิเจนหลงเหลืออยู่ในกระป๋องซึ่งจะไปทำปฏิกิริยากับสารเคลือบในกระป๋องทำให้เกิดก๊าซไฮโดรเจนทำให้กระป๋องบวม  +ลักษณะของกระป๋องที่ดีต้องมีลักษณะมันแวววาว ไม่มีรอยผิดปกติบนพื้นผิวกระป๋องทั้งภายนอกและภายใน +เมื่อเปิดกระป๋องแล้ว กลิ่นและสีของอาหารต้องอยู่ในลักษณะปกติ ไม่ผิดเพี้ยน สีไม่คล้ำ ไม่มีกลิ่นเหม็น ถ้าหากเปิดกระป๋องออกมาแล้วดูน่าสงสัยก็ไม่ควรรับประทาน +ปลากระป๋องควรนำไปใส่ในภาชนะอุ่นให้ร้อนอีกครั้งก่อนรับประทาน หรือถ้าเปิดแล้วกินไม่หมด ควรเทเปลี่ยนใส่ในภาชนะอื่น แล้วนำไปแช่ในตู้เย็น ป้องกันเชื้อจุลินทรีย์ในอากาศทำปฏิกิริยากับสารเคลือบที่อยู่ในกระป๋อง +ส่วนเรื่องการเก็บรักษานั้นต้องเก็บในอุณหภูมิห้อง อย่าเก็บในที่ที่มีอากาศร้อน เพราะจะทำให้อาหารที่อยู่ในกระป๋องเน่าเสียได้ ยิ่งถ้าอากาศร้อนหรืออยู่ในที่ที่อุณหภูมิสูงมากๆ กระป๋องอาจระเบิดได้---------------------------------------------------------   ปลาซาร์ดีน เป็นชื่อเรียกของปลาขนาดเล็กมีหลากหลายสายพันธุ์ คำว่าซาร์ดีนมาจากชื่อเกาะซาร์ดีเนียซึ่งอยู่ในทะเลเมอร์ดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นแหล่งที่มีปลาซาร์ดีนอุดมสมบูรณ์ ปลาซาร์ดีนเป็นอาหารที่มีประโยชน์มาก มีโอเมก้า – 3 ที่ช่วยลดการเกิดโรคหัวใจ ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ แถมยังมีวิตามินดี วิตามินบี 12 และโปรตีน ส่วน ปลาแมคเคอเรล เป็นปลาที่อยู่ในสายพันธุ์เดียวกับปลาซาร์ดีนแต่ว่าจะมีขนาดใหญ่กว่า ปลาทูก็อยู่ในสายพันธุ์เดียวกันกับปลาแมคเคอเรล ทั้งปลาซาร์ดีนและปลาแมคเคอเรลถือเป็นสัตว์ลำดับแรกๆ ในห่วงโซ่อาหาร ทำให้การปนเปื้อนของปรอทที่มักพบในอาหารทะเลมีค่อนข้างน้อย   คนไทยชอบกินปลากระป๋องอะไรกัน?ปลาซาร์ดีน 67%ปลาแมคเคอเรล 18%ปลาทูน่า 12% อื่นๆ 3% ข้อมูลจาก บทความเรื่อง “ผลวิจัย Most Admired & Why We Buy 2008” นิตยสาร brandage มกราคม 2551   ชื่อสินค้า ปริมาณ ราคา ผู้ผลิต ส่วนประกอบ ปริมาณโซเดียม / 1 กระป๋องตามที่แจ้งในฉลาก (มิลลิกรัม) ผลทดสอบ ข้อมูลโภชนาอื่นๆ ที่ระบุบนฉลาก มีที่เปิดแบบฝาดึง ปริมาณโซเดียม / 100 กรัม(มิลลิกรัม) ปริมาณโซเดียม เมื่อเทียบ / 1 กระป๋อง (มิลลิกรัม) ปลาซาร์ดีนในซอสมะเขือเทศ 1.ซูเปอร์ซีเชฟ น้ำหนักเนื้อ 93 กรัม น้ำหนักสุทธิ 155 กรัม   บ.ไอ.เอส.เอ.แวลู จำกัด ปลาซาร์ดีน 60% ซอสมะเขือเทศเข้มข้น 35% เกลือแกง 2.5% น้ำมันถั่วเหลือง 1.5% น้ำ 1% 780 มก. 531 มก. 823.05 มก. ไม่ใช้วัตถุกันเสีย มี 2.รูปสามเหลี่ยม น้ำหนักเนื้อ 75 กรับ น้ำหนักสุทธิ 125 กรัม 14 บ. บ.เจริญอุตสาหกรรม จำกัด ปลาซาร์ดีน 60% ซอสมะเขือเทศ 32% อื่นๆ 8% ไม่ระบุ 497 มก. 621.25 มก. เจือสี ไม่มี 3.ซูมาโก น้ำหนักเนื้อ 75 กรับ น้ำหนักสุทธิ 125 กรัม 15 บ. บ.เจริญอุตสาหกรรม จำกัด ปลาซาร์ดีน 60% ซอสมะเขือเทศ 32% อื่นๆ 8% ไม่ระบุ 494 มก. 617.5 มก. เจือสี ไม่มี 4.บิ๊กซี น้ำหนักเนื้อ 93 กรัม น้ำหนักสุทธิ 155 กรัม   บ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ปลาซาร์ดีน 60% ซอสมะเขือเทศ 37% น้ำมันถั่วเหลือง 2% เกลือ 1% 700 มก. 443 มก. 686.65 มก. ไม่ระบุ ไม่มี 5.ตราแฮปปี้มาก น้ำหนักเนื้อ 87 กรัม น้ำหนักสุทธิ 145 กรัม   บ.ทูพลัส ฟู้ด อินดัสเตรียล จำกัด ปลาซาร์ดีน 60% ซอสมะเขือเทส 38% น้ำตาล 1% เกลือ 1% ไม่ระบุ 430 มก. 623.5 มก. เจือสีธรรมชาติ ไม่มี 6.ซีเล็ค น้ำหนักเนื้อ 93 กรัม น้ำหนักสุทธิ 155 กรัม   บ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ปลาซาร์ดีน 60% ซอสมะเขือเทศ 37% น้ำมันถั่วเหลือง 2% เกลือ 1% ไม่ระบุ 424 มก. 657.2 มก. ไม่ใช้วัตถุกันเสีย มี 7.แม็กกาแรต น้ำหนักเนื้อ 90 กรัม น้ำหนักสุทธิ 140 กรัม 11 บ. บ.วี เค แฟคตอรี่ จำกัด ปลาซาร์ดีน 65% ซอสมะเขือเทศ 30% น้ำมันถั่วเหลือง 4.6% ผงชูรส 0.1% ไมระบุ 394 มก. 551.6 มก. ไมระบุ ไม่มี 8.ซีคราวน์ น้ำหนักเนื้อ 93 กรัม น้ำหนักสุทธิ 155 กรัม 14.50 บ. บ.สมุยฟูดส์ จำกัด ปลาซาร์ดีน 60% ซอสมะเขือเทศ 27% เกลือ 1% 760 มก. 392 มก. 607.6 มก. ใช้โมโนโซเดียมกลูตาเมต มี 9.ท๊อปส์ น้ำหนักเนื้อ 93 กรัม น้ำหนักสุทธิ 155 กรัม 15 บ. บ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ปลาซาร์ดีน 60% ซอสมะเขือเทศ 39.95%   700 มก. 378 มก. 585.9 มก. ใช้โมโนโซเดียมกลูตาเมต, ไดโซเดียม 5 กัวไนเลต, ไดโซเดียม 5 ไอโนชิเดต มี 10.สามแม่ครัว น้ำหนักเนื้อ 93 กรัม น้ำหนักสุทธิ 155 กรัม   บ.รอยัลฟู้ดส์ จำกัด ปลาซาร์ดีน 60% ซอสมะเขือเทศเข้มข้น 36.47% เกลือ 1.14% น้ำตาล 0.72% 800 มก. 374 มก. 579.7 มก. ใช้โมโนโซเดียมกลูตาเมต มี 11.โฮม เฟรช มาร์ท น้ำหนักเนื้อ 93 กรัม น้ำหนักสุทธิ 155 กรัม 13.50 บ. บ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ปลาซาร์ดีน 60% ซอสมะเขือเทศ 37% น้ำมันถั่วเหลือง 2% เกลือ 1% ไม่ระบุ 348 มก. 539.4 มก. ไม่ใช้วัตถุกันเสีย มี 12.อะยัม น้ำหนักเนื้อ 93 กรัม น้ำหนักสุทธิ 155 กรัม 28 บ. บ.ผลิตภัณฑ์ปลากระป๋องสยาม จำกัด ปลาซาร์ดีน 60% ซอสมะเขือเทศ 36% น้ำมันถั่วเหลือง 2.9% เกลือ 1% 700 มก. 330 มก. 511.5 มก. ไม่ใช้วัตถุกันเสีย, ผงชูรส ไม่เจือสี มี ปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ 13.ไฮคิว น้ำหนักเนื้อ 93 กรัม น้ำหนักสุทธิ 155 กรัม   บ.ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ปลาแมคเคอรเล 65% ซอสมะเขือเทศ 30% เกลือ 2.50% น้ำมันปาล์ม 2.50% 600 มก. 484 มก. 750.2 มก. ไม่เจือสี ไม่ใช้วัตถุกันเสีย มี 14.ตราคุ้มค่า เทสโก้ น้ำหนักเนื้อ 87 กรัม น้ำหนักสุทธิ 145 กรัม   บ.สมุยฟู้ดส์ จำกัด ปลาแมคเคอเรล 60% ซอสมะเขือเทศ 6% เกลือไอโอดีน 1% 620 มก. 456 มก. 661.2 มก. ใช้โมโนโซเดียมกลูตาเมท เจือสีธรรมชาติ ไม่มี 15.โรซ่า น้ำหนักเนื้อ 93 กรัม น้ำหนักสุทธิ 155 กรัม   บ.ไฮคิว แคนนิ่ง (ปัตตานี) จำกัด ปลาแมคเคอเรล 65% ซอสมะเขือเทศ30% เกลือ 2.5% น้ำมันปาล์ม 2.5% 540 มก. 447 มก. 692.85 มก. ไม่เจือสี ไม่ใช้วัตถุกันเสีย มี 16.นกพิราบ น้ำหนักเนื้อ 93 กรัม น้ำหนักสุทธิ 155 กรัม 13.50 บ. บ.สันติภาพ (ฮั่วเพ้ง 1958) จำกัด ปลาแมคเคอเรล 60% ซอสมะเขือเทศ 38% เกลือแกง 1.1% กัวร์กัม 0.5% 490 มก. 444 มก. 688.2 มก. ใช้โมโนโซเดียมกลูตาเมต ไม่ใช้วัตถุกันเสีย มี 17.ปุ้มปุ้ย   น้ำหนักเนื้อ 93 กรัม น้ำหนักสุทธิ 155 กรัม 13 บ. บ.ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ปลาแมคเคอเรล 60% ซอสมะเขือเทศ 37% น้ำมันถั่วเหลือง 1.6% เกลือ 1.4% 680 มก. 438 มก. 678.9 มก. ไม่ใช้วัตถุกันเสีย ไม่ใช้วัตถุปรุงแต่งรสอาหาร มี 18.ทีซีบี น้ำหนักเนื้อ 93 กรัม น้ำหนักสุทธิ 155 กรัม 14.25 บมจ.ทรอปิคอล เคนนิ่ง (ประเทศไทย) ปลาแมคเคอเรล 66% ซอสมะเขือเทศ 30.8% น้ำมันถั่วเหลือง 2.6% เกลือ 0.6% 580 มก. 360 มก. 558 มก. ไม่ใช้วัตถุกันเสีย มี   ผลทดสอบเฉพาะตัวอย่างที่ส่งตรวจเท่านั้น ทดสอบโดย สถาบันโภชนาการ ม.มหิดล

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 126 “จะเท่ทั้งที ต้องป้องกัน UV ด้วยนะ”

  ผลทดสอบการป้องกันรังสี UV ในแว่นกันแดด เมื่อพูดถึง “แว่นกันแดด” สำหรับบางคนอาจให้ค่าว่าเป็นเพียงแค่เครื่องประดับชิ้นหนึ่ง หรืออาจใส่ไว้เพื่อบ่งบอกรสนิยม เชื่อว่าใส่แล้วจะดูเท่ความหล่อความน่ารักจะเพิ่มขึ้น บางคนก็อาจใช้แว่นกันแดดเพื่อปกปิดอำพรางความรู้สึกทางสายตา กลัวว่าคนอื่นมองตาแล้วจะรู้ความคิดที่อยู่ในใจ หรืออาจใส่เพื่อปลอมตัวแบบที่เคยเห็นบ่อยๆ ในละครทีวี ที่แย่กว่านั้นบางคนก็ใช้แว่นกันแดดแทนที่คาดผม ซึ่งก็ไม่ถือว่าผิดแต่ก็ดูเป็นการใช้งานที่ผิดหลักการไปสักหน่อย  เพราะความจริงแล้วแว่นกันแดดถือเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตของเรามาก เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยปกป้องดวงตาของเราจากอันตรายของรังสีอัลตร้าไวโอเลต (UV) ซึ่งเป็นวายร้ายคอยทำลายดวงตาของเรา ทั้งส่งผลเสียต่อจอประสาทตา และเป็นสาเหตุของโรคต้อหิน ดังนั้นการสวมแว่นกันแดดในช่วงเวลาที่ตาของเราต้องปะทะกับแสงแดดจ้าจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นอย่างมาก   แว่นกันแดดที่ดีต้องป้องกันรังสี UV ไม่ใช่มีแค่ความเท่หน้าที่หลักของแว่นกันแดด คือการช่วยป้องกันอันตรายของรังสีอัลตร้าไวโอเลต (รังสี UV) โดยปกติแล้วแว่นกันแดดที่ดีต้องสามารถป้องกันรังสี ได้ไม่น้อยกว่า 95% (มาตรฐานความปลอดภัยของสินค้าในสหรัฐฯ The American National Standards Institute (ANSI)) นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันแสงที่เกิดจากการสะท้อนบนผิววัตถุที่มีความมันวาว เพราะแสงประเภทนี้ก็ทำอันตรายกับดวงตาของเราด้วยเช่นกัน อาจทำให้ตาพร่ามั่วชั่วขณะหนึ่ง  รังสี UV เป็นรังสีที่มองไม่เห็นและไม่สามารถรับรู้หรือรู้สึกได้ ซึ่งรังสี UV สามารถทำอันตรายกับดวงตาของเรา ทำให้จอประสาทตาเสื่อมและเป็นสาเหตุของโรคต้อกระจก ต้อหิน ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลทำให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นของเราแย่ลง และอาจรุนแรงถึงขึ้นทำให้ตาบอดสนิทได้เลยทีเดียว   รังสี UV ถือเป็นภัยใกล้ตัวที่หลายคนอาจจะมองข้าม เพราะชีวิตประจำวันของเราต้องเสี่ยงกับรังสี UV ยิ่งโดยเฉพาะกับคนที่ต้องทำงานการกลางแดดจ้า คนที่ต้องขับรถ และคนที่ชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง   นอกจากนี้แว่นกันแดดยังใช้สวมเพื่อปกปิดความผิดปกติของดวงตา ป้องกันดวงตาของเราจากฝุ่นละอองและลมด้วย เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ถ้าเราไม่มีหมวก หรือร่ม เมื่อต้องออกเผชิญแดดจ้า เราควรต้องใส่แว่นกันแดด เพื่อช่วยดูแลปกป้องรักษาดวงตาให้อยู่กับเราไปนานๆ  เรื่องควรรู้ -สภาพอากาศ ฟ้าที่มีเมฆหรือหมอกไม่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ -ยิ่งอยู่กลางแดดนานก็ยิ่งได้รับรังสี UV มากตามไปด้วย  -ช่วงเวลาที่แสงแดดมีรังสี UV มากคือประมาณ 10.00 น. – 16.00 น. มีมากที่สุดคือช่วงเที่ยงวัน  -ประเทศที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร (อย่างเช่นประเทศไทยของเรา) มีโอกาสได้รับรังสี UV มากกว่าพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของโลก   -ยิ่งอยู่ที่สูงโอกาสที่เสี่ยงต่ออันตรายของแสง UV ก็ยิ่งมีมาก  -ความเข้มของสีเลนส์แว่นตากันแดดไม่ได้มีผลกับประสิทธิภาพในการการป้องกันรังสี UV  -แว่นตากันแดดที่ไม่ได้มาตรฐานไม่มีการเคลือบสารกรองหรือป้องกันรังสี UV นอกจากไม่ช่วยลดอันตรายของรังสี UV แล้ว กลับจะยิ่งทำอันตรายกับดวงตาของเรา เพราะเมื่ออยู่ในที่มืดหรือที่แสงสลัวรูม่านตาของเราจะขยายตัวมากขึ้น ยิ่งทำให้รังสี UV เข้าสู่นัยน์ตาเรามากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงแว่นที่มีการหักเหของแสงที่ไม่เหมาะสม เมื่อใช้แล้วเกิดมุมมองภาพที่บิดเบี้ยวหรือผิดเพี้ยนไปจากปกติ ซึ่งทำให้ตาของเราทำงานหนัก อาจทำให้ปวดตาหรือเวียนหัว  -แว่นกันแดดชนิดโพลารอยด์ (polaroid) มีคุณสมบัติช่วยป้องกันแสงที่สะท้อนผ่านเลนส์ ไม่ทำให้สายตาพร่ามั่วและช่วยตัดแสงที่ทำมุม 45 องศาที่เข้ามากระทบ ช่วยตัดแสงไม่ให้เห็นภาพลวงตาที่เกิดจากการหักเหของแสงบนพื้นถนนและช่วยลดความเข้มของแสง ป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อตาและประสาทตาเกิดอาการอ่อนล้า  -แต่แว่นตากันแดดถึงดียังไง จะได้รับการรับรองว่ากันแสงหรือรังสี UV ได้มากสักแค่ไหน ก็ไม่สามารถป้องกันอันตรายจากการมองที่ดวงอาทิตย์โดยตรง  -การใส่หมวกที่มีปีกช่วยบังทิศทางของแสงที่เข้าหาดวงตา ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดอันตรายของรังสี UV ต่อดวงตาของเราได้  -แว่นสายตาใสๆ ธรรมดา ก็สามารถป้องกันรังสี UV ได้ด้วยเช่นกัน หากมีการรับรองจากผู้ผลิตหรือผู้ขายว่าป้องกันได้   ฉลาดซื้อแนะนำวิธีเลือกซื้อแว่นกันแดดการจะทดสอบเรื่องของประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UV ในแว่นตากันแดด อาจเป็นเรื่องยากเกินไปสำหรับผู้บริโภคอย่างเรา แต่ก็ใช่ว่าเราจะมองข้ามเรื่องคุณภาพของแว่นกันแดดจนสนใจแต่เรื่องรูปทรงความสวยงามเท่านั้น เพราะยังมีวิธีง่ายๆ ในการเลือกซื้อแว่นกันแดดให้ได้คุณภาพที่คุ้มค่า   1.ถ้าหากแว่นกันแดดมีการระบุข้อความว่า “400 UV Protection” ก็น่าจะพอเชื่อใจได้ระดับหนึ่งว่า แว่นกันแดดที่เราจะซื้อมีการป้องกันรังสี UV ที่ระดับสูง (ตัวเลข 400 มาจาก 400 นาโนเมตร ซึ่งเป็นระยะปลอดภัยของรัสี UV หรือเป็นระยะที่ป้องกันรังสี UV ได้ 100% ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่ใช้ใน ยุโรป อเมริกา และอีกหลายๆ ประเทศ)  2.ถ้ามีสัญลักษ์ CE ซึ่งเป็นตรารับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์จากยุโรป ก็ถือเป็นการการันตีคุณภาพได้เช่นกัน  3.ให้ลองมองแนวที่เป็นเส้นตรงผ่านเลนส์ข้างใดข้างหนึ่ง จากนั้นให้ขยับแว่นเลื่อนเข้าเลื่อนออกช้าๆ เลนส์ที่ดีต้องไม่ทำให้เส้นตรงที่มอง คดหรือเบี้ยวขณะขยับแว่น  4.รูปทรงของแว่นต้องเหมาะกับรูปหน้าของเรา ไม่คับเกินไปจนอึดอัดหรือเจ็บที่ขมับ และก็ต้องไม่หลวมมากจนเกินไปจนตกลงมาอยู่ที่ปลายจมูกทำให้ต้องเลื่อนสายตาลงมาเวลามอง  5.เวลาสวมแว่นกันแดดแล้วต้องให้แสงแดดลอดเข้ามาหาดวงตาน้อยที่สุด ทั้งจากด้านบนและด้านล่าง แต่ก็ไม่ถึงกับใกล้ขนาดใส่แล้วเลนส์มาชิดติดกับขนตา  6.แม้เรื่องราคาและยี่ห้อของแว่นจะไม่ใช่ตัวการันตีเรื่องคุณภาพในการป้องกันรังสี แต่การซื้อกับร้านที่มีที่อยู่แน่นอน ตัวแว่นกันแดดมีรายละเอียดข้อมูลที่อยู่ผู้ผลิต มีใบรับประกัน ก็น่าจะทำให้ผู้ใช้อย่างเรามั่นใจคุณภาพได้มากกว่า  7.ถ้าหากมีการรับประกันก็ต้องศึกษาให้ดี ยิ่งเป็นแบบที่ราคาแพงยิ่งต้องศึกษาและสอบถามจากร้านค้าหรือพนักงานขาย ดูว่ารับประกันกี่ปี อะไรบ้างที่อยู่ในข่ายรับประกันและไม่รับประกัน เช่น ถ้าซื้อมาใช้แล้วเกิดรอยขีดข่วนที่เลนส์สามารถเปลี่ยนหรือซ่อมให้ฟรีหรือเปล่า  8.อย่าลืมสอบถามกับพนักงานที่เราซื้อแว่นตากันแดดว่า แว่นที่เราซื้อต้องดูแลรักษายังไง มีขอควรระวังในการใช้อะไรบ้าง  9.แว่นกันแดดเองก็มีกำหนดอายุการใช้งานด้วยเช่นกัน (ซึ่งปกติจะอยู่ที่ 2 – 3 ปี) เพราะฉะนั้นเวลาซื้อก็ต้องอย่าลืมศึกษาข้อมูลวันที่ผลิตจากคู่มือหรือใบรับรอง หรือไม่ก็สอบถามจากพนักงานขาย -------------------------------------------------------------------------------- สีของเลนส์แว่นกันแดดที่ควรเลือกใช้คือ แดง เทา เขียว น้ำตาล เพราะสีที่เห็นจะเพี้ยนน้อย ซึ่งจะปลอดภัยเวลาต้องสังเกตสัญญาณไฟจราจรขณะขับรถ เลนส์ที่ออกโทนสีเทาและเขียว เป็นเลนส์ที่ให้การมองเห็นเป็นสีจริง ส่วนโทนสีน้ำตาล จะช่วยเพิ่มความคมชัดและการรับรู้ภาพแบบตื้นลึก ซึ่งเหมาะกับนักกีฬา นักบิน คนที่ต้องขับรถเป็นประจำ สำหรับคนที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ การใส่แว่นกันแดดก็ช่วยถนอมสายตาและเพิ่มความคมชัดในการมองได้ด้วยเช่นกัน แต่ต้องเลือกแว่นกันแดดเลนส์สีอ่อนๆ เพราะเมื่อใส่แล้วจะช่วยทำให้การมองเห็นดูนุ่มนวลขึ้น --------------------------------------------------------------------------------   อย่าลืมซื้อแว่นกันแดดป้องกัน UV ให้กับเด็กๆ ด้วยนะรังสี UV ไม่เป็นมิตรกับใครทั้งนั้นไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ แถมเด็กๆ ยังมีโอกาสเสี่ยงอันตรายจากรังสี UV มากกว่าผู้ใหญ่ เพราะดวงตาของเด็กๆ จะเปิดรับการมองเห็นได้มากกว่าผู้ใหญ่ เลนส์แก้วตาก็ยังมีความชัดเจนกว่า จึงเป็นเรื่องที่พ่อ – แม่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้ามสุขภาพตาของเด็กๆ อย่าปล่อยให้ลูกของเราต้องเผชิญแสงจ้าโดยไม่ได้สวมแว่นกันแดด และที่สำคัญเวลาเลือกซื้อแว่นกันแดดให้กับเด็กๆ ก็ต้องดูที่ประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UV เป็นอันดับแรก ไม่ใช่ดูแต่รูปลักษณ์ภายนอก เลือกซื้อแต่แบบที่น่ารักกุ๊กกิ๊กซึ่งอาจกันรังสี UV ไม่ได้   ผลทดสอบการป้องกันรังสี UV ในแว่นกันแดด Vans ราคา 700 บาท ค่าการผ่านของแสง                     17% ค่าการสะท้อนแสงภายนอก          3.7% ค่าการส่งผ่านรังสี UV                  0% ค่าการสะท้อนรัง UV                    3.7%     Ray Ban ราคา 6,000 บาท ค่าการผ่านของแสง                     14.5% ค่าการสะท้อนแสงภายนอก          4.3% ค่าการส่งผ่านรังสี UV                  0% ค่าการสะท้อนรัง UV                    4.6%     ไม่มียี่ห้อ (1) ราคา 60 บาท ค่าการผ่านของแสง                     22.5% ค่าการสะท้อนแสงภายนอก          3.4% ค่าการส่งผ่านรังสี UV                  0% ค่าการสะท้อนรัง UV                    3.6%     ไม่มียี่ห้อ (2) ราคา 39 บาท ค่าการผ่านของแสง                     6.0% ค่าการสะท้อนแสงภายนอก          3.6% ค่าการส่งผ่านรังสี UV                  0.2% ค่าการสะท้อนรัง UV                    3.8%     LE Club ราคา 590 บาท ค่าการผ่านของแสง                     11.8% ค่าการสะท้อนแสงภายนอก          4.3% ค่าการส่งผ่านรังสี UV                  0% ค่าการสะท้อนรัง UV                    4.6%     Action Eyewear (1) ราคา 299 บาท ค่าการผ่านของแสง                     13.1% ค่าการสะท้อนแสงภายนอก          4.7% ค่าการส่งผ่านรังสี UV                  0% ค่าการสะท้อนรัง UV                    5%     Estoffi ราคา 3,000 บาท ค่าการผ่านของแสง                     15.4% ค่าการสะท้อนแสงภายนอก          4.5% ค่าการส่งผ่านรังสี UV                  0% ค่าการสะท้อนรัง UV                    4.7%     Action Eyewear (2) ราคา 199 บาท ค่าการผ่านของแสง                     20.2% ค่าการสะท้อนแสงภายนอก          3.9% ค่าการส่งผ่านรังสี UV                  0% ค่าการสะท้อนรัง UV                    4.2%     Action Polarised ราคา 399 บาท ค่าการผ่านของแสง                     9.4% ค่าการสะท้อนแสงภายนอก          4.6% ค่าการส่งผ่านรังสี UV                  0% ค่าการสะท้อนรัง UV                    5.1%   ********************************************************************************* ผลการทดสอบ เมื่อราคาไม่ใช่ตัวการันตีประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UV ฉลาดซื้อได้สุ่มซื้อตัวอย่างแว่นกันแดดจำนวน 9 ตัวอย่าง โดยเน้นที่ความหลากหลายของราคา เพื่อจะดูว่าราคามีผลกับประสิทธิภาพการป้องกันการส่งผ่านของรังสี UV หรือไม่ ซึ่งผลที่ออกมาถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะแว่นกันแดดทุกตัวอย่างที่เราส่งให้ทางกรมวิทยาศาสตร์บริการทดสอบนั้น มีค่าการส่งผ่านรังสี UV ที่ 0% คือไม่สามารถผ่านได้เลย เท่ากับว่าสามารถป้องกันรังสี UV ได้ 100% มีเพียง 1 ตัวอย่างเท่านั้นที่ยังมีการส่งผ่านของรังสี UV อยู่บ้างคือ ตัวอย่างที่ไม่มียี่ห้อซึ่งมีราคา 39 บาท ที่รูปร่างลักษณะออกจะเป็นแว่นกันแดดเฉพาะโอกาสไว้ใส่สนุกสนานดูเป็นแว่นแฟชั่นมากกว่า โดยรังสี UV สามารถส่งผ่านได้ 0.2% ซึ่งก็ถือว่าน้อยมาก   จากเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยของสินค้าในสหรัฐฯ The American National Standards Institute (ANSI) รังสี UVB ซึ่งเป็นรังสีระยะสั้น 280 – 315 นาโนเมตร ค่าการส่งผ่านไม่ควรเกิน 0.1% ส่วนรังสี UVA ที่ระยะรังสีอยู่ที่ 315 – 380 นาโนเมตร ค่าการส่งผ่านไม่ควรเกิน 0.5% ซึ่งระยะปลอดภัยสูงสุดของรังสี UV อยู่ที่ 400 นาโนเมตร ค่าการส่งผ่านจะเท่ากับ 0% แม้การทดสอบของเราไม่ได้มีการประเภทของรังสี แต่การทดสอบก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจเพราะเกือบทั้งหมดมีค่าการส่งผ่านของรังสี UV ที่ 0%   ผลทดสอบนี้สามารถบอกเราได้ว่าราคาไม่มีผลกับเรื่องประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV จะถูกจะแพงก็ป้องกันรังสี UV ได้เหมือนกัน ส่วนเรื่องการทดสอบอื่นๆ ทั้งค่าการผ่านของแสง ค่าการสะท้อนของแสง และค่าการสะท้องรังสี UV ก็อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันทุกตัวอย่าง   แต่การทดสอบนี้เป็นเพียงแค่ส่วนของการผ่านของแสงและรังสี UV เท่านั้น ซึ่งแว่นกันแดดที่ดียังมีต้องคุณสมบัติอื่นๆ ประกอบอีกหลายอย่าง ทั้งความคงทนของเลนส์ กรอบแว่น ขาแว่น ส่วนข้อต่อต่างๆ วัสดุที่ผลิต รวมทั้งเรื่องการออกแบบ และบริการหลังการขาย ซึ่งเรื่องพวกนี้แหละที่มาเป็นเงื่อนไขเรื่องของราคา

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 125 SUNSCREEN UPDATE!

  เพื่อเป็นการลดความสับสนให้กับผู้บริโภคเวลาที่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์กันแดด องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ประกาศกฎใหม่สำหรับฉลากผลิตภัณฑ์กันแดดที่จะบังคับใช้ภายใน 1 ปี ดังนี้  •  ผลิตภัณฑ์ที่จะติดฉลากว่าเป็น ซันสกรีน (Sunscreen) ได้นั้นจะต้องสามารถป้องกันได้ทั้งรังสียูวีเอ และยูวีบี (UVA/UVB)  • ถ้าจะมีคำว่า “Broad spectrum” บนฉลาก ผลิตภัณฑ์นั้นจะต้องมีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสีทั้งสองประเภทได้พอๆ กัน (ไม่ใช่ป้องกันรังสียูวีเอได้มากแต่ป้องกันรังสียูวีบีได้เพียงเล็กน้อย เป็นต้น)  • ต่อไปนี้ห้ามใช้คำว่า “กันน้ำ” (Waterproof/ water resistance) หรือ “กันเหงื่อ” (Sweatproof) โดยอนุญาตให้ระบุเป็นเวลาที่ยังมีประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากโดนน้ำได้เท่านั้น อย่างที่เห็นในผลทดสอบ ว่าประสิทธิภาพในการป้องกันรังสีของผลิตภัณฑ์กันแดดส่วนใหญ่มักลดลงเมื่อผิวหนังเราสัมผัสกับน้ำ บางยี่ห้อเหลืออยู่ประมาณร้อยละ 30 เท่านั้น  • ที่สำคัญ ผลิตภัณฑ์นั้นจะต้องมีค่า SPF ไม่ต่ำกว่า 15 จึงจะสามารถอ้างว่า “สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง หรือป้องกันผิวแก่ก่อนวัยได้”  • ถ้าผลิตภัณฑ์นั้นมีค่า SPF ระหว่าง 2 ถึง 14 จะต้องมีคำเตือนให้ผู้ใช้ทราบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่สามารถช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนังหรือการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ ---- ข้องใจ ... ทำไมไม่แบน?กฎเกณฑ์ใหม่ที่ออกมาได้รับการชื่นชมจากบรรดาผู้ที่ทำงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภค แต่มีอยู่หนึ่งเรื่องที่ยังเป็นที่คาใจของประธานมูลนิธิมะเร็งผิวหนังแห่งอเมริกา  เขาบอกว่ารู้สึกผิดหวังมากที่ อย.สหรัฐยังไม่ประกาศห้ามการอ้างว่ามี SPF สูงกว่า 50 ซึ่งยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าจะช่วยป้องกันรังสีอันตรายได้นานขึ้นจริงหรือไม่  เพราะการปล่อยให้มีการขายผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่ามีค่า SPF มากกว่า 50 ทำให้ผู้บริโภคได้รับสารเคมีที่อาจก่อความระคายเคืองในปริมาณที่มากขึ้น โดยไม่มีผลทางการป้องกันแดดเพิ่มขึ้น --- เพื่อเป็นการตอบรับมาตรการใหม่ในการควบคุมฉลากผลิตภัณฑ์กันแดด ฉลาดซื้อฉบับนี้ขอนำผลทดสอบจากองค์กรทดสอบสากลมาฝากกันอีกครั้ง คราวนี้เขาเลือกทดสอบเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF 15 และ SPF 20 เท่านั้น ผลิตภัณฑ์ที่ส่งเข้ามาทดสอบจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ซื้อจากฝรั่งเศสและเยอรมนี ดังนั้นเราจึงเลือกมาเฉพาะแบรนด์ที่มีจำหน่ายในบ้านเราเท่านั้น   เราพบว่า• ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มีค่า SPF สูงกว่าที่แจ้งไว้บนฉลาก ยกเว้น อัลตราซัน Ultrasun professional protection sports clear gel formula วิชี่ Vichy Laboratoires Capital Soleil Sonnschutz-Gel-Milch Körper  การ์นีเย่ Garnier Ambre Solaire ที่มีค่าการป้องกันรังสี UVB หรือค่า SPF ที่วัดได้จริงเพียง 15 แต่แจ้งบนฉลากว่ามีค่า SPF 20 • ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มีค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกันรังสี UVB ยกเว้น คลาแรงส์ Clarins Sun Care Cream และ อีโค คอสเมติกส์ Eco Cosmetics Sonnencreme • ผลิตภัณฑ์กันแดดชนิดที่อ้างว่าใช้สารสกัดจากธรรมชาติหรือออร์กานิกนั้นยังไม่สามารถป้องกันรังสี UVA ที่เป็นตัวการทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอย เช่น อีโค คอสเมติกส์ Eco Cosmetics Sonnencreme นีเวีย Nivea Sun Pflegende Sonnenmilch SPF 20 ค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 23ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 69 ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB  ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 1 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  2ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 2.5ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 1.5  อีฟ โรเช่ Yves Rocher Protectyl Végétal Feuchtigkeitsspendende Sonnenschutz-Milch SPF 15ค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 29ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 66ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB  ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 1 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  2ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 2ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 2.5   การ์นิเย่ Garnier Ambre Solaire Ultra-feuchtigkeitsspendende Sonnenschutz-Milch SPF 20ค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 21ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 63 ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB  ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 1 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  2ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 2.5ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 2   ลอรีอัล L`Oréal Paris Solar Expertise SPF 20ค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 27ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 58 ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB  ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 1 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  2ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 2ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 2   ลาโรช โพเซ่ย์ La Roche-Posay Anthelios Spray für empfindliche Haut SPF 20ค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 35ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 56 ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB  ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 2 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  1.5ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 2ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 2    นีเวีย Nivea Sun Light Feeling Transparentes Spray SPF 20 ค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 24ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 54 ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB  ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 1 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  2ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 2ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 1.5   นีเวีย Nivea Sun  Sun Spray 20 mediumค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 24ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 51 ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB  ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 1 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  2ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 2ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 2   เอวอน Avon sun medium SPF 20ค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 34ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 51ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB  ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 3 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  2.5ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 2ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 1    วิชี่ Vichy Capital Soleil SPF 20ค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 25ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 50 ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB  ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 3 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  1.5ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 2ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 1.5   ชิเซโด Shiseido Sun Protection Lotion SPF 15ค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 29ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 40 ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB  ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 2 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  2ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 2.5ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 1.5  ลอรีอัล L`Oreal Solar Expertise, icy protection SPF 20ค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 20ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 40 ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB  ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 1 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  1.5ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 2ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 1.5  ยูเซอริน Eucerin Sun Protection Sun Spray SPF 20ค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 35ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 32 ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB  ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 1 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  2ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 2ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 2   อัลตราซัน Ultrasun professional protection sports clear gel formula SPF 20ค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 15ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 61 ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB  ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 3 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  1.5ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 1.5ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 1   วิชี่ Vichy Laboratoires Capital Soleil Sonnschutz-Gel-Milch Körper SPF 20ค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 15ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 51 ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB  ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 1 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  1ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 2ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 2   การ์นีเย่ Garnier Ambre Solaire SPF 20ค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 15ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 37 ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB  ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 3 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  1.5ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 2ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 1.5  คลาแรงส์ Clarins Sun Care Cream SPF 20ค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 52ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 42 ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB ×ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 3 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  2ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 2.5ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 2   อีโค คอสเมติกส์ Eco Cosmetics, Sonnencreme SPF15ค่า SPF ที่วัดได้จริง  SPF 24ประสิทธิภาพในการกันแดดหลังจากผิวหนังเปียกน้ำ ร้อยละ 67 ค่าการป้องกันรังสี UVA ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของค่าการป้องกัน UVB ×ประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง 1 ความพึงพอใจของผู้ใช้เกลี่ยง่าย  3ซึมลงสู่ผิวรวดเร็ว 3ไม่รู้สึกเหนอะหนะ 2.5

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 124 ตรวจฉลากบะหมี่สำเร็จรูป(อีกสักครั้ง)

  ตามที่สัญญาไว้ในฉบับที่แล้วว่า จะพาท่านผู้อ่านไปดูการให้ข้อมูลบนฉลากของอาหารกึ่งสำเร็จรูปแบบซองเดี่ยวชนิดซองต่อซอง ยี่ห้อต่อยี่ห้อของผู้ประกอบการในตลาด ฉลาดซื้อจึงได้เก็บตัวอย่างอาหารกึ่งสำเร็จรูปในตลาดเท่าที่หาได้จากห้างบิ๊กซีสาขาสะพานควาย และร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่นสาขาต่าง ๆ  รวมจำนวน 37 ตัวอย่าง ตัวอย่างละ 1 รสชาติ แบ่งตามตราสินค้าได้เป็น 12 ยี่ห้อ   ผลการทดสอบผู้ประกอบการกว่าครึ่งแสดงข้อมูลที่ต้องแสดงครบถ้วน ยกเว้นคำแนะนำในการเก็บรักษา (ซึ่งประกาศกระทรวงสาธารณสุขเปิดช่องไว้ให้ใส่หรือไม่ก็ได้เพราะใช้คำว่า “ถ้ามี”) ที่ผู้ประกอบการหลายตราสินค้าไม่ได้แสดง ได้แก่ ตราสินค้าไวไว ไวไวควิก ซื่อสัตย์ ฮาร์โมนีไลฟ์ และอินโดหมี่   สำหรับการเปรียบเทียบการแสดงข้อมูลรายการต่อรายการนั้นฉลาดซื้อขอนำเสนอใน 2 ประเด็นคือ การแสดงวันผลิต/วันหมดอายุ และฉลากโภชนาการ   วันผลิต/วันหมดอายุพบว่า การแสดงข้อมูลในส่วนของวันผลิต/วันหมดอายุหรือควรบริโภคก่อน ไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน การแสดงฉลากค่อนข้างสับสนและมีรูปแบบที่แตกต่างกันไปในผู้ประกอบการแต่ละตราสินค้า เช่น บางรายแสดงทั้งวันผลิต/วันหมดอายุหรือควรบริโภคก่อนโดยใช้คำภาษาไทยกำกับให้ดูบนซองแล้วใช้เลขหกหลักโดยไม่มีจุดหรือไม่เว้นวรรค เช่น มาม่า บางรายใช้เลขหกหลักกับจุดคั่นเพื่อให้รู้ว่าเป็นวัน/เดือน/ปี เช่น ยำยำ บางรายใช้เว้นวรรค เช่น อินโดหมี่ บางรายแสดงปีก่อนแล้วค่อยแสดงวันกับเดือน เช่น บะหมี่ผักอบแห้งโมโรเฮยะรสเห็ดหอมตราฮาโมนีไลฟ์  อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า แม้แต่ตราสินค้าเดียวกันแต่ต่างประเภทเส้นก็ยังมีการแสดงรายละเอียดที่ต่างกัน เช่น วุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรสต้มยำกุ้งกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับต้มยำน้ำข้นตรามาม่า ที่ตัวอย่างแรกแสดงคำว่าควรบริโภคก่อนเป็นภาษาไทย แล้วแสดงเลขหกตัวซึ่งน่าจะเป็น วัน/เดือน/ปี พร้อมด้วยล็อตผลิตเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ ขณะที่ตัวอย่างหลังแสดงคำว่า “วันที่ผลิต/วันที่ควรบริโภคก่อน ดูบนซอง” แล้วแสดงคำภาษาอังกฤษว่า MFG ตามด้วยเลขหกหลัก (090511) กับตัวอักษรภาษาอังกฤษและตัวเลข (H22) บรรทัดถัดมาแสดงคำภาษาอังกฤษว่า BBE ตามด้วยเลขหกหลัก (091111)   ผู้ประกอบการที่แสดงแต่วันที่ผลิตอย่างเดียวได้แก่ ตราสินค้าไวไว กับ เอฟเอฟ โดยที่รายแรกส่วนใหญ่แสดงเป็นคำภาษาไทยว่า “ผลิต” ตามด้วยเลขหกหลักส่วน รายหลังแสดงคำว่า “ผลิต (MFG)” ตามด้วยเลขหกตัวมีจุดคั่นเพื่อแสดงวัน/เดือน/ปี ในทางกลับกันตราสินค้าของผู้ประกอบการที่แสดงแต่วันหมดอายุหรือควรบริโภคก่อนเพียงอย่างเดียว ได้แก่ มาม่าประเภทเส้นกึ่งสำเร็จรูปอื่นที่ไม่ใช่เส้นบะหมี่ ซื่อสัตย์ อินโดหมี่ เกษตร และ ฮาโมนีไลฟ์   ข้อเสนอ ควรให้มีการใช้คำเป็นภาษาไทยว่า วันผลิต และ วันหมดอายุ ตามด้วยวัน/เดือน/ปี (ปีที่ใช้ควรเป็นแบบเดียวกัน เลือกเอาอย่างใด อย่างหนึ่งว่าจะใช้ ปี พ.ศ. หรือ ปี ค.ศ.) โดยที่จะมีภาษาอังกฤษเป็นตัวย่อต่อท้ายหรือไม่ก็ได้ และควรแสดงข้อความดังกล่าวไว้ในตำแหน่งเดียวกันบนฉลากในทุกผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้บริโภคสังเกตได้ง่าย   ฉลากโภชนาการ การแสดงฉลากโภชนาการมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลและความรู้ด้านคุณค่าทางโภชนาการของอาหารแก่ประชาชน อันเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคทางด้านอาหารและโภชนาการ อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนดให้การแสดงฉลากโภชนาการเป็นไปโดยสมัครใจเว้นแต่มีการกล่าวอ้างทางโภชนาการหรือมีการใช้คุณค่าในการส่งเสริมการขาย (ในกรณีอาหารกึ่งสำเร็จรูป) จากการตรวจสอบข้อมูลบนฉลากอาหารกึ่งสำเร็จรูปทั้ง 37 ตัวอย่างพบว่าอยู่ในระดับที่ไม่น่าพอใจ มีเพียง 1 ใน 3 (13 ตัวอย่าง) ที่แสดงข้อมูลโภชนาการ โดยที่ 6 ตัวอย่างเป็นของผู้ประกอบการตราสินค้ามาม่า (มีการกล่าวอ้างคุณค่าบนฉลากอาหาร)  ขณะที่ผลิตภัณฑ์จำนวน 24 ตัวอย่าง (2 ใน 3) ไม่มีการแสดงข้อมูลโภชนาการ โดยทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ของตัวอย่างที่ไม่แสดงข้อมูลโภชนาการ ได้แก่ ตราสินค้ายำยำจัมโบ้และยำยำช้างน้อย ไม่มีการแสดงข้อมูลโภชนาการเลย ถัดมาคือ ไวไวและไวไวควิก ที่มีเพียงตัวอย่างเดียวที่แสดงข้อมูลโภชนาการ ปิดท้ายด้วยตราสินค้ามาม่า ซึ่งกว่าครึ่งหนึ่งของตัวอย่างที่ทดสอบ ไม่แสดงข้อมูลโภชนาการ ขณะที่มาม่าบิ๊กแพ็คทั้งหมดไม่มีการแสดงข้อมูลโภชนาการ   ถ้าหากนำผลิตภัณฑ์มาให้ฉลากในลักษณะสัญญาณไฟจราจร พบว่าเกือบทั้งหมดมีโซเดียมสูง ติดระดับไฟแดง โดยเฉพาะยี่ห้อ เอฟเอฟที่ให้โซเดียมสูงถึง 2 กรัม (2,000 มิลลิกรัม) คิดเป็นร้อยละ 83 ของความต้องการสารอาหารต่อวัน ส่วนตัวอย่างที่มีระดับคะแนนโดยภาพรวมดีที่สุด ได้แก่ บะหมี่ผักอบแห้งโมโรเฮยะรสเห็ดหอมตราฮาโมนีไลฟ์ ที่ได้เกณฑ์คะแนนเป็นสีเขียวเกือบทั้งหมดยกเว้นโซเดียมที่ได้สีแดง  สรุปในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ควรเลือกจากการให้ข้อมูลบนฉลากเป็นสำคัญ ดูวันผลิต/วันหมดอายุหรือควรบริโภคก่อน ข้อความเฉพาะของวัตถุเจือปนอาหารเมื่อมีการใช้ และข้อมูลโภชนาการ แนะนำให้สนับสนุนผู้ประกอบการที่แสดงวันผลิตและวันหมดอายุ เป็นภาษาไทยบนฉลาก หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารกึ่งสำเร็จรูปของผู้ประกอบการตราสินค้าที่ไม่แสดงข้อมูลโภชนาการ และหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารกึ่งสำเร็จรูปเกินกว่า 1 ซองต่อวันเนื่องจากมีโซเดียมสูงอันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ -------------------------------------------------------------------------------- การเก็บสินค้าและเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณา เก็บตัวอย่างอาหารกึ่งสำเร็จรูปจากห้างบิ๊กซีสาขาสะพานควาย และร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่นสาขาต่าง ๆ  รวมจำนวน 37 ตัวอย่าง ตัวอย่างละ 1 รสชาติ แบ่งตามตราสินค้าได้เป็น 12 ยี่ห้อ  ได้แก่  มาม่า 12 ตัวอย่าง มาม่าบิ๊กแพ็ค 3 ตัวอย่าง ไวไว 6 ตัวอย่าง ไวไวควิก 3 ตัวอย่าง ยำยำจัมโบ้  5 ตัวอย่าง ยำยำช้างน้อย 2 ตัวอย่าง เทสโก้ เกษตร  ฮาร์โมนีไลฟ์ อินโดหมี่ เอฟเอฟ และ ซื่อสัตย์ อย่างละ 1 ตัวอย่าง   พิจารณาตามเกณฑ์การแสดงฉลากตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 194) พ.ศ. 2543 เรื่องฉลากจำนวน 15 รายการ ซึ่งเมื่อจัดกลุ่มรวมจะเหลือ 10 รายการ ได้แก่ ชื่ออาหาร เลขสารบบอาหาร ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้แบ่งบรรจุ ปริมาณของอาหาร ส่วนประกอบที่สำคัญ ข้อความเฉพาะของวัตถุเจือปนอาหารเมื่อมีการใช้ วันผลิต/วันหมดอายุ คำแนะนำในการเก็บรักษา วิธีปรุงเพื่อรับประทาน/คำแนะนำในการบริโภค และข้อมูลโภชนาการ (ตามสมัครใจ) --------------------------------------------------------------------------------      

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า300 Point

ฉบับที่ 124 น้ำผัก – ผลไม้รวม 100%

  เพราะเรารู้ว่าแฟนๆ “ฉลาดซื้อ” เป็นคนที่รักและห่วงใยดูแลสุขภาพ ฉบับนี้เรามีผลทดสอบเครื่องดื่มยอดฮิตสำหรับคนรักสุขภาพอย่าง “น้ำผัก – ผลไม้รวม 100%” มาฝาก  ในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์น้ำผักพร้อมดื่มทั้ง 100% และไม่ 100% ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น มีการผลิตออกมาหลากหลายยี่ห้อหลากหลายรสชาติ ตอบรับกระแสรักสุขภาพของคนรุ่นใหม่ ซึ่งการเลือกดื่มน้ำผัก – ผลไม้พร้อมดื่มนั้นสะดวกสบาย หาซื้อง่าย เข้ากับยุคสมัยที่ผู้คนหันมาห่วงใยสุขภาพมากขึ้นแต่กับมีเวลาดูแลตัวเองน้อยลง แถมบางคนที่ไม่ชอบกินผักก็เลือกที่จะดื่มน้ำผักแทน เพราะกินง่ายกว่า รสชาติก็อร่อยกว่า  ลองมาหาคำตอบกันดูสิว่า น้ำผัก – ผลไม้รวม 100% พร้อมดื่ม จะเป็นทางเลือกใหม่ของคนรักสุขภาพได้จริงหรือ? ------------------------------------------------------------------------------------------ น้ำผัก - ผลไม้ถือเป็นอุตสาหกรรมแปรรูปประเภทหนึ่ง เป็นวิธีการเพิ่มมูลค่าให้กับผัก – ผลไม้ ในช่วงเวลาที่ผัก – ผลไม้ล้นตลาดและราคาตกต่ำ การแปรรูปน้ำผัก – ผลไม้ยังเป็นช่วยยืดอายุของผักและผลไม้เพราะสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานขึ้น ประเภทของน้ำผัก ผลไม้1.น้ำผลไม้เข้มข้น ทำจากน้ำผลไม้แท้ที่ผ่านการต้มเพื่อให้น้ำระเหยออกบางส่วนจนได้เป็นน้ำผลไม้เข้มข้น เวลาดื่มต้องผสมกับน้ำให้เจือจางก่อน ซึ่งน้ำผลไม้เข้มข้นนิยมใช้เป็นส่วนผสมในขนม ไอศครีม และเครื่องดื่มต่างๆ 2.น้ำผัก - ผลไม้พร้อมดื่ม ก็คือน้ำผลไม้บรรจุกล่องหรือขวดที่วางขายอยู่ตามร้านค้าหรือร้านสะดวกซื้อทั่วไป ซึ่งน้ำผัก – ผลไม้พร้อมดื่มก็ทั้งแบบที่เป็นน้ำผัก – ผลไม้ 100% และแบบที่ไม่ถึง 100% คือจะอยู่ที่ประมาณ 25 – 50% ซึ่งคือการนำน้ำผลไม้เข้มข้นมาเจือจางและแต่งรสชาติเพิ่มเติม ------------------------------------------------------------------------------------------ สรุปผลทดสอบ -ถือเป็นข่าวดีของผู้บริโภคที่สามารถสบายใจได้ว่าน้ำผัก – ผลไม้รวมพร้อมดื่ม 100% ที่เราทดสอบทั้ง 10 ตัวอย่าง ปลอดภัยจากการปนเปื้อนและสารเคมีทางการเกษตร -เครื่องดื่มน้ำผัก – ผลไม้รวม 100% แม้จะอ้างว่ามีส่วนประกอบจากน้ำผัก – ผลไม้หลาย 10 ชนิด แต่ถ้าเราลองดูข้อมูลส่วนประกอบจะเห็นว่า เกือบทุกยี่ห้อจะมีน้ำแครอทเป็นส่วนประกอบหลัก หรือกว่า 30% ของส่วนประกอบทั้งหมด ที่เหลือก็จะเป็นน้ำผลไม้ที่ทำหน้าที่เพิ่มรสชาติให้ดื่มง่ายและอร่อยขึ้น เช่น น้ำสับปะรด น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล ส่วนน้ำผักอื่นๆ จะผสมมาในสัดส่วนที่น้อยมากๆ ไม่ถึง 10%  -เครื่องดื่มน้ำผัก – ผลไม้รวม 100% บางยี่ห้อมีการเติมวิตามินลงไปด้วย แต่ก็ในปริมาณที่น้อยมาก แถมวิตามินส่วนใหญ่ถูกทำลายได้ง่ายมาก โดยเฉพาะวิตามินซี ทั้งจากการถูกความร้อน แสงแดด หรือสัมผัสกับอากาศ แม้จะมีการเติมวิตามินลงไป แต่น้ำผัก – ผลไม้รวมพร้อมดื่มก็ให้วิตามินได้ไม่เท่าผัก – ผลไม้สดๆ อยู่ดี  -ปริมาณน้ำตาลจากการทดสอบ พบว่ามีค่าเฉลี่ยอยู่ 9.27 กรัม / 100 มิลลิลิตร ถ้าคิดปริมาณน้ำตาลเป็นช้อนชาจะอยู่ประมาณ 2 ช้อนชากว่าๆ (1 ช้อนชา = 4.2 กรัม) ปริมาณน้ำตาลที่นักโภชนาการแนะนำให้รับประทานต่อวันคือ ไม่ควรเกิน 4 ช้อนชาสำหรับเด็ก และ 6 ช้อนชาสำหรับผู้ใหญ่ ถ้าหากเราดื่มน้ำผัก – ผลไม้รวมพร้อมดื่ม 1 แก้ว หรือประมาณ 200 มิลลิลิตร เราก็จะได้น้ำตาลที่ประมาณ 4 ช้อนชา ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง  ดังนั้นใครที่คิดจะดื่มน้ำผัก น้ำผลไม้พร้อมดื่มเพื่อเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักอาจจะต้องคิดใหม่   ผลทดสอบปริมาณน้ำตาลและการปนเปื้อนของสารเคมีทางเกษตรในน้ำผัก – ผลไม้รวมพร้อมดื่ม 100% ชื่อผลิตภัณฑ์ ผู้ผลิต ส่วนประกอบ ราคา (บาท) ผลการทดสอบ น้ำตาล / 100 มิลลิลิตร  (กรัม) การปนเปื้อนของสารเคมีทางการเกษตร กลุ่มคาร์บาเมต กลุ่มสารสังเคราะห์ไพรีทรอยด์ ดอยคำ น้ำผักผลไม้รวม 100% โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป น้ำสับปะรด 50% น้ำแครอท 31% น้ำเสาวรส 7% น้ำมะเขือเทศ 7% น้ำบีทรูท 5% 55 บ. / 1 ลิตร 9.3 ไม่พบ ไม่พบ Chooze ชูส น้ำผักผลไม้รวมผสมผักโขม 100% Universal food public company limited   น้ำองุ่นขาว 43% น้ำสับปะรด 30% น้ำส้ม 20% น้ำแตงกวา 4% น้ำผักโขม 1.3% น้ำแครอท 1.2% น้ำฝักทอง 0.5% 69 บ. / 1 ลิตร 8.6 ไม่พบ ไม่พบ Big C น้ำผักผสมน้ำผลไม้รวม 100% บริษัท มาลีบางกอก จำกัด   น้ำแครอท 30% น้ำส้ม 27% น้ำแอปเปิ้ล 25% น้ำฟักทอง 5% น้ำสับปะรด 5% น้ำนะนาว 3.97% น้ำมะเขือเทศ 3% น้ำขึ้นฉ่าย 1% วิตามิน ซี 0.03% 45 บ. / 1 ลิตร 11.4 ไม่พบ ไม่พบ ชบา น้ำผักผสมน้ำผลไม้รวม 100% บริษัท มาลีบางกอก จำกัด   น้ำแครอท 40% น้ำแอปเปิ้ลแดง 17.47% น้ำส้มเขียวหวาน 15% น้ำฟักทอง 10% น้ำสับปะรด 5% น้ำขึ้นฉ่าย 5% น้ำมะเขือเทศ 5% น้ำมะนาว 2.5% วิตามิน ซี 0.03% 51 บ. / 1 ลิตร 10.3 ไม่พบ ไม่พบ ยูนิฟ น้ำผักผลไม้รวม 100% บริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด น้ำแครอท 40% น้ำสับปะรด 32.3% น้ำส้ม 15% น้ำแอปเปิ้ล 13% น้ำมะเขือเทศ 3.3% น้ำมะนาว 2% น้ำขึ้นฉ่าย 2% น้ำฟักทอง 1% น้ำแครอทม่วง 0.3% น้ำองุ่นแดง 0.1% 52 บ. / 1 ลิตร 9.8 ไม่พบ ไม่พบ ทิปโก้ 100% น้ำผักผลไม้รวม 32 ชนิด บริษัท ทิบโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด   น้ำผักผสมน้ำผลไม้รวม จากน้ำผักผสมน้ำผลไม้รวมเข้มข้น 32 ชนิด 39.4187925% น้ำส้มจากน้ำส้มเข้มข้น 30% น้ำแอปเปิ้ลจากน้ำแอปเปิ้ลเข้มข้น 15% น้ำส้มเช้งจากน้ำเช้งเข้มข้น 10% น้ำมะม่วง 3% น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2% ใยอาหาร 0.55% วิตามินซี 0.03% วิตามินเอ 0.0012% วิตามินบี 2 0.000005% วิตามินบี 1 0.0000025% 69 บ. / 1 ลิตร 8.6 ไม่พบ ไม่พบ V8 เครื่องดื่มน้ำผักผสม ผลิต บริษัท แคมเบลล์ ซุปคัมปานี จำกัด เมืองแคมเด็น รัฐนิวเจอร์ซี่ สหรัฐอเมริกา นำเข้า บริษัท ซีโน-แปซิฟิค เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด น้ำมะเขือเทศ 44.05% น้ำผัก 33.07% เกลือ 0.95% แต่งกลิ่นธรรมชาติ 129 บ. / 964 ซีซี 4.0 ไม่พบ ไม่พบ เซปเป้ ฟอร์วันเดย์ บริษัท ทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด จำกัด น้ำผักรวม (คื่นฉ่าย, ผักกาดหอม, ผักโขม, บีทรูท, ผักชีฝรั่ง, บล๊อกโคลี่) 30% น้ำแครอทจากน้ำแครอทเข้มข้น 30% น้ำส้มจากน้ำส้มเข้มข้น 20% น้ำสับปะรดจากน้ำสับปะรดเข้มข้น 20% แต่งกลิ่นเลียนธรรมชาติ 25 บ. / 350 มิลลิลิตร 10.4 ไม่พบ ไม่พบ Malee veggies 100% บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) น้ำผลไม้รวม 88% (น้ำแอปเปิ้ลแดง, น้ำองุ่นขาว, น้ำแอปเปิ้ลเขียว, น้ำกีวี) น้ำผักรวม 12% (น้ำคื่นฉ่าย, น้ำบร็อกโคลี่, น้ำหน่อไม้ฝรั่ง, น้ำแตงกาว, น้ำผักขม) 49 บ. / 1 ลิตร 10.0 ไม่พบ ไม่พบ Smile น้ำผักผลไม้รวม 100% บริษัท นูบูน จำกัด   น้ำผักรวม 40% น้ำแอปเปิ้ล 25% น้ำสับปะรด 24% น้ำส้ม 8% น้ำแพชชั่น 3% 98 บ. / 1 ลิตร 10.3 ไม่พบ ไม่พบ     ฉลาดซื้อแนะนำ1) หากอยากจะดื่มน้ำผัก – ผลไม้ให้ได้คุณค่าและดีกับสุขภาพร่างกายจริงๆ ฉลาดซื้อแนะนำให้คั้นดื่มเอง เพราะเราสามารถเลือกผัก – ผลไม้จะมาทำได้  ถ้าไม่อยากได้น้ำตาลเยอะเราสามารถเลือกผัก – ผลไม้ที่ไม่หวานมากมาทำ แถมน้ำผัก น้ำผลไม้ที่เราคั้นเองปั่นเองก็จะมีทั้งกากใยและเนื้อผัก – ผลไม้เหลืออยู่ด้วย ซึ่งก็คือใยอาหารที่มีประโยชน์ช่วยในการขับถ่าย 2) คั้นน้ำผักดื่มเอง ต้องล้างทำความสะอาดผักก่อนจะนำมาทำน้ำผัก เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของสารเคมีทางการเกษตรที่มากับผัก  3) น้ำผักควรเป็นเพียงเครื่องดื่มเพื่อหลีกหนีความจำเจเท่านั้น การรับประทานผักสดเป็นประจำมีความจำเป็นต่อร่างกายมากกว่า ถ้าอาหารในแต่ละมื้อที่เรารับประทานมีผักเป็นส่วนประกอบในปริมาณที่มากพออยู่แล้ว การดื่มน้ำผักก็ไม่มีความจำเป็น ซึ่งราคาของน้ำผักก็สูงกว่าราคาของผักสดธรรมดาที่เราซื้อมาประกอบอาหารค่อนข้างมาก   ----------------------------------------------------------------------------------------- 7,500 ล้านบาท คือตัวเลขมูลค่าทางการตลาดน้ำผัก – ผลไม้ในบ้านเรา ซึ่งธุรกิจน้ำผัก – ผลไม้ในบ้านเรามีอัตราการเติบโตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี ซึ่งมาจากกระแสรักสุขภาพ2,400 ล้านบาท คือตัวเลขมูลค่าทางการตลาดเฉพาะน้ำผัก – ผลไม้ 100% ซึ่งถือว่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับน้ำผัก – ผลไม้ประเภทอื่นๆ  (ที่มา: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปีที่ 15 ฉบับที่ 2519 วันที่ 29 พฤษภาคม 2552) -----------------------------------------------------------------------------------------  ทำน้ำผักไว้ดื่มเองก็ได้  หากอยากจะได้น้ำผัก – ผลไม้ที่รสชาติถูกใจและดีต่อสุขภาพจริงๆ รวมทั้งประหยัดด้วย การเลือกผัก – ผลไม้มาคั้นเองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด (ใครอยากรู้สูตรการทำน้ำผัก – ผลไม้ลองคลิกไปที่ http://www.vegetablejuicerecipes.org/ มีให้เลือกลองทำหลากหลายสูตรหลากหลายเมนู) แต่การทำน้ำผัก – ผลไม้เองต้องอย่าลืมสิ่งสำคัญที่สุด คือการล้างทำความสะอาด เพราะผัก – ผลไม้สมัยนี้วางใจไม่ได้เรื่องสารเคมีปนเปื้อน แทนที่จะมีสุขภาพดีอาจต้องมาป่วยเพราะยาฆ่าแมลงก็ได้

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 123 ตรวจสอบการให้ข้อมูลบนฉลากของอาหารกึ่งสำเร็จรูปแบบบรรจุห่อรวม

  บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นเสบียงคู่ครัวคนไทยสมัยใหม่มาอย่างยาวนาน เท่าที่ผู้เขียนทราบก็ราว ๆ ปี พ.ศ. 2514 – 2515 จนถึงปัจจุบัน โดยมียี่ห้อแรกคือ ซันวา นิตยสารฉลาดซื้อได้เคยลงบทความทดสอบปริมาณโซเดียม (เกลือ และ ผงชูรส) มาแล้ว ครานี้ผมขอนำบทความเกี่ยวกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาเสนอผู้อ่านอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เราจะไม่พูดถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์แต่อย่างใด หากแต่เป็นเรื่องของ ฉลาก และการให้ข้อมูลบนฉลาก ที่ต้องพูดคุยกันมาก ฉบับนี้เลยขอนำเสนอการเปรียบเทียบฉลากภายนอกของอาหารกึ่งสำเร็จรูปชนิดจัดชุดก่อน และฉบับหน้าจะพาท่านผู้อ่านไปดูรายละเอียดฉลากชนิดซองต่อซอง ยี่ห้อต่อยี่ห้อของผู้ประกอบการรายต่าง ๆ ในตลาดว่าค่ายใดจะให้ข้อมูลกับผู้บริโภคมากกว่ากัน   ฉลากและความสำคัญคำว่า ฉลาก ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายความว่า รูป รอยประดิษฐ์ เครื่องหมายหรือข้อความใด ๆ ที่แสดงไว้ที่ภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยา อาหาร หรือผลิตภัณฑ์อื่น เช่น ฉลากยา ฉลากเครื่องสําอาง  ส่วนคำว่า ฉลากอาหาร นั้น พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ระบุว่าหมายรวมถึง รูป รอยประดิษฐ์ เครื่องหมาย หรือข้อความใด ๆ ที่แสดงไว้ที่อาหาร ภาชนะบรรจุอาหาร หรือหีบห่อของภาชนะที่บรรจุอาหาร  ฉลากอาหารเป็นแหล่งข้อมูลของผู้บริโภค ที่จะทำให้ผู้บริโภคได้ทราบข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับอาหารนั้น ๆ ในการแสดงข้อมูลบนฉลากอาหาร ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 194) พ.ศ. 2543 เรื่องฉลาก ได้กำหนดไว้ว่า “ฉลากของอาหารที่จำหน่ายต่อผู้บริโภค ต้องมีข้อความเป็นภาษาไทยแต่จะมีภาษาต่างประเทศด้วยก็ได้ และจะต้องมีข้อความแสดงรายละเอียดดังต่อไปนี้…” สำหรับข้อมูลที่ประกาศฉบับนี้ระบุให้แสดงนั้นมีทั้งหมด 15 รายการ   ในปัจจุบันสินค้าหลายชนิดถูกวางขายในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่และห้างสรรพสินค้าในลักษณะแพ็กชุดใหญ่ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องดื่มชงชนิดต่างๆ เพื่อส่งเสริมการขายให้มากขึ้น เพราะการซื้อแบบแพ็กชุดราคาจะถูกลงเมื่อเทียบเป็นจำนวนชิ้น ในกรณีฉลากสำหรับบรรจุภัณฑ์ภายนอกของอาหารชนิดจัดชุดนั้น ตามหลักการควรที่จะมีการแสดงข้อมูลในระดับเดียวกันกับการแสดงข้อมูลที่อยู่ในซองย่อยที่อยู่ภายในซองบรรจุภัณฑ์รวม เพราะไม่เช่นนั้นจะรู้ได้อย่างไรว่า ผลิตภัณฑ์ข้างในเป็นอย่างไร เนื่องจากไม่สามารถแกะแยกห่อออกมาดูได้  ฉลาดซื้อจึงได้ลองใช้เกณฑ์ขั้นต่ำที่พึงแสดงตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องฉลากที่ต้องแสดงจำนวน 4 รายการ ได้แก่ ชื่ออาหาร ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้แบ่งบรรจุ ปริมาณของอาหารเป็นระบบเมตริก (น้ำหนักสุทธิ-กรัมหรือกิโลกรัม/ ปริมาตรสุทธิ-มิลลิลิตรหรือลิตร) และวันเดือนและปีที่ผลิต วันเดือนและปีที่หมดอายุการบริโภค หรือ วันเดือนและปีที่อาหารยังมีคุณภาพดี โดยมีข้อความว่า “ผลิต” “หมดอายุ” หรือ “ควรบริโภคก่อน” กำกับไว้ด้วยแล้วแต่กรณี มาใช้เป็นเกณฑ์ประกอบการพิจารณากับตัวที่บรรจุภัณฑ์ที่ห่อหุ้มสินค้าชนิดแพ็กชุด  โดยตัวอย่างทดสอบชุดแรก มาจากกรณีร้องเรียนของผู้บริโภครายหนึ่งที่ ร้องเรียนกับศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภคเมื่อกลางเดือนเมษายน เรื่องซื้อสินค้าหมดอายุเนื่องจากการไม่เห็นวันผลิต – วันหมดอายุ บนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ 3 ห่อได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้งน้ำข้น ตรามาม่า ชนิดห่อแบบจัดชุด 6 ซอง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้ง ตรามาม่า ชนิดจัดชุด 10 ซอง และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับ ตรายำยำ จัมโบ้ ชนิดจัดชุด 10 ซอง ที่ผู้ร้องซื้อจากห้างบิ้กซี สาขาสะพานควายเมื่อเดือนมีนาคม   จากการตรวจสอบหลักฐานเบื้องต้นที่ผู้ร้องส่งมา พบว่าซองภายนอกของผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ห่อ ไม่มีการระบุ วันผลิต – วันหมดอายุ แต่มีการระบุวัน เวลา ดังกล่าวไว้ในบรรจุภัณฑ์ย่อยแต่ละซองที่อยู่ภายในซองใหญ่ ในการหาข้อมูลเพิ่มเติมผู้เขียนจึงได้ไปเก็บตัวอย่างเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2554 จากห้างที่ผู้ร้องไปใช้บริการจำนวน 3 ตัวอย่าง และจากร้านท็อปซูเปอร์มาเก็ต สาขาโรงภาพยนตร์เซ็นจูรี่ จำนวน 5 ตัวอย่าง รวม 8 ตัวอย่างได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับต้มยำ ตราไวไว ชนิด 10 ซอง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้ง ตราไวไว ชนิด10 ซอง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสกุ้งนึ่งมะนาว ตราไวไวควิก ชนิด 5 ซอง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำหมูสับ ตรา ยำยำจัมโบ้ ชนิด 6 ซอง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำทะเลหม้อไฟ ตรายำยำจัมโบ้ ชนิด 6 ซอง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสเย็นตาโฟต้มยำหม้อไฟ ตรามาม่า ชนิด 10 ซอง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสไก่กระเทียม ตราซื่อสัตย์ ชนิด 6 ซอง และวุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้ง ตราเกษตร ชนิด 4 ซอง แล้วนำมารวมกับตัวอย่างเก่าที่ผู้ร้องส่งมาให้รวมทั้งหมด 11 ตัวอย่าง เพื่อตรวจสอบลักษณะการแสดงข้อมูลขั้นต่ำแก่ผู้บริโภค จำนวน 4 รายการได้แก่ ชื่ออาหาร ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้แบ่งบรรจุ ปริมาณของอาหารเป็นระบบเมตริก และ วันผลิต – วันหมดอายุ รวมไปถึงตรวจดูลักษณะบรรจุภัณฑ์บนซองภายนอกของผลิตภัณฑ์   ผลการทดสอบพบว่า1. เกือบทุกตัวอย่าง แสดงชื่อสินค้าและตราสินค้าบนซองภายนอกบรรจุภัณฑ์ แม้ว่าซองที่บรรจุจะเป็นซองใสก็ตาม ยกเว้น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสไก่กระเทียม ตราซื่อสัตย์ ที่ได้แสดงข้อมูลไว้ในห่อภายในของบรรจุภัณฑ์โดยที่ห่อภายนอกเป็นพลาสติกใส สามารถมองทะลุได้อย่างชัดเจน  2. ไม่มีตัวอย่างใดแสดงชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้แบ่งบรรจุบนซองภายนอกของบรรจุภัณฑ์ 3. มีตัวอย่างจำนวน 7 ตัวอย่างจาก 11 ตัวอย่างแสดงปริมาณของอาหารไว้บนห่อรวมบรรจุภัณฑ์ โดยที่ 3 ตัวอย่างแสดงไว้ด้านหลังบรรจุภัณฑ์ ได้แก่ ยำยำจัมโบ้รสต้มยำหมูสับชนิด 6 ซอง ยำยำจัมโบ้รสต้มยำทะเลหม้อไฟชนิด 6 ซอง และไวไวรสต้มยำกุ้งชนิด 10 ซอง อีก 4 ตัวอย่างแสดงไว้ด้านหน้าบรรจุภัณฑ์ได้แก่ มาม่ารสต้มยำชนิด 10 ซอง มาม่ารสเย็นตาโฟต้มยำหม้อไฟ ชนิด 10 ซอง มาม่ารสต้มยำกุ้งน้ำข้นชนิด 6 ซอง และยำยำจัมโบ้รสหมูสับชนิด 10 ซอง  4. ไม่มีตัวอย่างใดแสดงวันผลิต-วันหมดอายุบนห่อรวมบรรจุภัณฑ์ หากแต่มีการแสดงข้อมูลวันผลิต วันหมดอายุ หรือวันบริโภคก่อน ภายในบรรจุภัณฑ์ย่อยในทุกผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตามมีตัวอย่างจำนวน 3 ตัวอย่างที่ไม่สามารถเห็นวันผลิต – วันหมดอายุในผลิตภัณฑ์ด้านในซอง ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากซองรวมบรรจุภัณฑ์มีลักษณะปิดทึบทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ได้แก่ รสเย็นตาโฟต้มยำหม้อไฟ ชนิด 10 ซอง ยำยำจัมโบ้รสต้มยำทะเลหม้อไฟ ชนิด 6 ซอง ยำยำจัมโบ้รสต้มยำหมูสับ ชนิด 6 ซอง  5. ลักษณะของบรรจุภัณฑ์แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มได้แก่ (1) บรรจุภัณฑ์ที่เป็นพลาสติกใสทั้งหมดหรือใสบางส่วนแต่สามารถเห็นได้ครบทุกด้านทั้งซ้าย ขวา หน้า และหลัง บรรจุภัณฑ์กลุ่มนี้มี 3 ตัวอย่าง คือ ซื่อสัตย์รสไก่กระเทียม ชนิดจัดชุด 6 ซอง ไวไวควิกรสกุ้งนึ่งมะนาว ชนิดจัดชุด 5 ซอง และ วุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำตราเกษตร ชนิดจัดชุด 4 ซอง (2) บรรจุภัณฑ์ที่เป็นพลาสติกประกอบลวดลายด้านหน้าและหลังแต่เปิดพื้นที่ว่างด้านซ้ายและขวาให้มองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในได้ บรรจุภัณฑ์กลุ่มนี้มี 4 ตัวอย่าง ได้แก่ มาม่ารสต้มยำกุ้ง ชนิดจัดห่อ 10 ซอง มาม่ารสต้มยำกุ้งน้ำข้น ชนิดจัดชุด 6 ซอง ยำยำจัมโบ้รสหมูสับ ชนิดจัดชุด 10 ซอง และไวไวรสต้มยำกุ้ง ชนิดจัดชุด 10 ซอง (3) บรรจุภัณฑ์ที่เป็นพลาสติกประกอบด้วยรูปหรือลวดลายปิดหมด 3 ด้านเปิดพื้นที่ใสให้เห็นด้านในเพียงด้านเดียวหรือปิดทั้ง 4 ด้านจนไม่สามารถเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในได้ บรรจุภัณฑ์กลุ่มนี้มีทั้งหมด 4 ตัวอย่าง ได้แก่ มาม่ารสเย็นตาโฟต้มยำหม้อไฟ ชนิดจัดชุด 10 ห่อ ยำยำจัมโบ้รสต้มยำทะเลหม้อไฟ ชนิดจัดชุด 6 ซอง ยำยำจัมโบ้รสต้มยำหมูสับ ชนิดจัดชุด 6 ซอง และไวไวรสหมูสับต้มยำชนิดจัดชุด 10 ซอง   ข้อสังเกต1. ถึงแม้ผลิตภัณฑ์จะเป็นตราสินค้าเดียวกันแต่หากต่างรสกัน ไม่เสมอไปที่การแสดงข้อมูลจะเป็นแบบเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ไวไวรสหมูสับต้มยำชนิดจัดชุด 10 ซอง กับ ไวไวรสต้มยำกุ้งชนิดจัดชุด 10 ซอง ที่ตัวอย่างแรกมีการแสดงข้อมูลเพียงชื่อและตราสินค้าร่วมกับตัวอักษรขนาดใหญ่ว่าจัดชุด 10 ซอง ขณะที่ตัวอย่างหลังมีการแสดงข้อมูลสำคัญทุกอย่างเกือบครบถ้วนรวมไปถึง ข้อมูลโภชนาการด้วย 2. มีเพียง 2 ตัวอย่างเท่านั้นที่มีการแสดงคำว่า ผลิต หรือ ควรบริโภคก่อน เป็นภาษาไทยอยู่ในบรรจุภัณฑ์ ได้แก่ วุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้งตราเกษตร ชนิดจัดชุด 4 ซอง และ ไวไวรสต้มยำกุ้ง ชนิดจัดชุด 10 ซอง  3. ไม่มีรูปแบบตายตัวของการแสดงข้อมูลสำคัญของผู้ผลิตบนห่อใหญ่ของบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันผลิต วันหมดอายุ หรือ ควรบริโภคก่อน อีกทั้ง เมื่อมองเข้าไปในบรรจุภัณฑ์ย่อย ยังพบว่าหน่วยปีที่ใช้ก็ยังมีความแตกต่างกัน ขณะที่ส่วนใหญ่ใช้ปี ค.ศ. แต่ก็ยังมีบางรายใช้ปี พ.ศ. ในการอ้างอิง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสไก่กระเทียมตราซื่อสัตย์ เป็นต้น  สรุป การแสดงฉลากของอาหารกึ่งสำเร็จรูปชนิดจัดชุดอยู่ในระดับไม่น่าพอใจเนื่องจากมีการแสดงข้อมูลสำคัญที่จำเป็นไม่เพียงพอโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันผลิต วันหมดอายุ หรือ ควรบริโภคก่อน   ยิ่งไปกว่านั้น ในกรณีที่มีการกล่าวอ้างทางโภชนาการ หรือ มีการใช้คุณค่าในการส่งเสริมการขาย เช่น มาม่ารสต้มยำกุ้ง ชนิดบรรจุ 10 ซอง ระบุว่ามีธาตุไอโอดีน เหล็ก และวิตามินเอ บนฉลากทั้งซองรวมภายนอกและซองเล็กภายในแต่บนซองรวมกลับไม่มีการระบุฉลากโภชนาการไว้ จริงอยู่ว่ามีการแสดงข้อมูลโภชนาการไว้ภายในซองเล็ก และลักษณะซองภายนอกอาจจะมีลักษณะใสมองเห็นด้านในได้บางส่วน แต่การจัดวางบรรจุภัณฑ์ทำให้มองไม่เห็นข้อมูลเหล่านี้  ดังนั้น ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์นี้ชนิดจัดชุด ควรดูที่การแสดงข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์ภายนอก หากไม่มีการแสดงข้อมูลวันผลิต-วันหมดอายุ ที่เห็นได้ชัดเจน ผู้บริโภคไม่น่าจะสนับสนุน ผู้ประกอบการรายนั้นๆ และควรส่งเสริมผู้ประกอบการที่ทำดี ทำฉลากชัดเจนจะดีกว่า   ตารางเปรียบเทียบการแสดงข้อมูลบนฉลากของอาหารกึ่งสำเร็จรูปชนิดบรรจุห่อรวม ผลิตภัณฑ์/ยี่ห้อ ชื่ออาหาร ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้แบ่งบรรจุ ปริมาณของอาหาร วันผลิต – วันหมดอายุ ลักษณะบรรจุภัณฑ์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้ง ตรามาม่า ชนิดจัดชุด 10 ซอง มี ไม่มี มี ไม่มี มีภาพประกอบและลวดลายด้านหน้าและหลังของบรรจุภัณฑ์แต่มองเห็นด้านข้างได้ทั้งสองด้าน โดยแสดงวันผลิต-วันหมดอายุ บนซองย่อยที่อยู่ภายในห่อรวม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้งน้ำข้น ตรามาม่า ชนิดจัดชุด 6 ซอง มี ไม่มี มี ไม่มี มีภาพประกอบและลวดลายด้านหน้าและหลังของบรรจุภัณฑ์แต่มองเห็นด้านข้างได้ทั้งสองด้าน โดยแสดงวันผลิต-วันหมดอายุ บนซองย่อยที่อยู่ภายในห่อรวม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสเย็นตาโฟต้มยำหม้อไฟ ตรามาม่า ชนิดจัดชุด 10 ซอง มี ไม่มี มี ไม่มี มีภาพประกอบและลวดลายทั้งด้านหน้าและหลังของบรรจุภัณฑ์ ซองมีสีชมพูถึงชมพูเข้มทั้งซอง มีการแสดงวันผลิต-วันหมดอายุ บนซองย่อยที่อยู่ภายในห่อรวมแต่ไม่สามารถมองเห็นสิ่งของด้านในได้อย่างชัดเจน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับต้มยำ ตราไวไว ชนิดจัดชุด 10 ซอง มี ไม่มี ไม่มี ไม่มี มีภาพประกอบและลวดลายบนผลิตภัณฑ์ 3 ด้าน เปิดพื้นที่ให้เห็นด้านในได้หนึ่งด้าน โดยแสดงวันผลิต-วันหมดอายุ บนซองย่อย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้ง ตราไวไว ชนิดจัดชุด 10 ซอง มี ไม่มี มี ไม่มี มีภาพประกอบและการแสดงข้อมูลชื่ออาหาร ตราสินค้า เลขสารบบอาหาร (เลขอย.) ด้านหน้าของซองรวม ด้านหลังแสดงข้อมูลโภชนาการ วิธีปรุง ส่วนประกอบสำคัญ และคำแนะนำในการบริโภค และเปิดพื้นที่ด้านข้างทั้งสองข้างให้มองเห็นวันผลิต-วันหมดอายุที่อยู่ภายในซองย่อย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสกุ้งนึ่งมะนาว ตราไวไวควิก ชนิดจัดชุด 5 ซอง มี ไม่มี ไม่มี ไม่มี เป็นซองใสมีลายเล็กน้อยตรงกลางด้านหน้าซอง ซึ่งเป็นที่ระบุข้อมูลชื่อและชนิดอาหารพร้อมบาร์โค้ดของซอง วันผลิต-วันหมดอายุอยู่ในซองย่อยแต่มองได้ไม่ชัดเจนเนื่องจากสีสันของบรรจุภัณฑ์ภายในมีมากเกินไป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับ ตรายำยำจัมโบ้ ชนิดจัดชุด 10 ซอง มี ไม่มี มี ไม่มี มีภาพประกอบและลวดลายด้านหน้าและหลังของบรรจุภัณฑ์แต่มองเห็นด้านข้างได้ทั้งสองด้าน โดยแสดงวันผลิต-วันหมดอายุ บนซองย่อยที่อยู่ภายในห่อรวม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำหมูสับ ตรายำยำจัมโบ้ ชนิดจัดชุด 6 ซอง มี ไม่มี มี ไม่มี มีภาพประกอบและลวดลายบนผลิตภัณฑ์ และมีสีทึบ 3 ด้าน เปิดพื้นที่ให้เห็นด้านในได้เพียงเล็กน้อยหนึ่งด้าน โดยมีลวดลายมากจนมองเห็นการแสดงวันผลิต-วันหมดอายุ บนซองย่อย ได้ไม่ชัดเจนหรือไม่เห็นเลย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำทะเลหม้อไฟ ตรายำยำจัมโบ้ ชนิดจัดชุด 6 ซอง มี ไม่มี มี ไม่มี มีภาพประกอบและลวดลายบนผลิตภัณฑ์ และมีสีทึบ 3 ด้าน เปิดพื้นที่ให้เห็นด้านในได้เพียงเล็กน้อยหนึ่งด้าน โดยมีการแสดงวันผลิต-วันหมดอายุ บนซองย่อย แต่ไม่สามารถเห็นได้เนื่องจากตำแหน่งของวันผลิต-วันหมดอายุที่อยู่ในซองย่อยไม่ตรงกับช่องที่เปิดไว้ให้เห็นด้านในเพียงเล็กน้อย วุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้ง ตราเกษตร ชนิดจัดชุด 4 ซอง มี ไม่มี ไม่มี ไม่มี เป็นซองใส มีข้อมูลชื่อและชนิดอาหารพร้อมบาร์โค้ดของซอง วันผลิต-วันหมดอายุ อยู่ในซองย่อย สามารถมองเห็นได้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสไก่กระเทียม ตราซื่อสัตย์ ชนิดจัดชุด 6 ซอง ไม่มี ไม่มี ไม่มี ไม่มี เป็นซองใสมีลายเล็กน้อยตรงกลางด้านหน้าซอง ระบุตราสินค้าแต่ไม่ระบุชื่อสินค้า มีบาร์โค้ดของซอง วันผลิต-วันหมดอายุอยู่ในซองย่อยสามารถมองเห็นได้

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า300 Point

ฉบับที่ 121 น้ำแร่ดีกว่าแน่หรือ ??

ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยน้ำถึงร้อยละ 70 ดังนั้นเพื่อให้ระดับน้ำในร่างกายสมดุล ทำให้การทำงานของร่างกายเป็นปกติ มนุษย์จึงขาดน้ำไม่ได้  แต่น้ำสะอาดธรรมดาถึงมีค่ามากแล้ว ก็ยังไม่ไฮโซพอ ต้องมีการเชียร์ให้ดื่ม น้ำแร่ นัยว่าเพื่อประโยชน์ที่สมบูรณ์กว่า ด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบต่าง ๆ น้ำแร่ในความเข้าใจของคนทั่วไปจึงกลายเป็นสินค้าสุขภาพที่มีราคาแพงมากเมื่อวัดเป็นปริมาณต่อซีซี และผู้บริโภคหลายคนก็ยอมจ่ายเงินในราคาที่สูงลิ่วเพื่อจะได้ดื่มมันเป็นประจำ  อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรที่มีแต่คุณประโยชน์โดยไม่มีโทษ แร่ธาตุบางกลุ่มบางชนิดสามารถให้โทษต่อร่างกายได้และโดยมากไม่ได้ถูกระบุไว้บนฉลากผลิตภัณฑ์ ฉลาดซื้อเลยขอขันอาสานำข้อมูลการทดสอบแร่ธาตุที่เป็นโทษต่อร่างกายในน้ำแร่มาแจ้งให้แก่ท่านผู้อ่านทุกท่านได้ทราบ ฉลาดซื้อ เก็บตัวอย่างน้ำแร่จำนวน 24 ตัวอย่าง ตัวอย่างละ 1 ยี่ห้อ ส่งห้องปฏิบัติการสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดลเมื่อเดือนมกราคม 2554 เพื่อทดสอบหาแร่ธาตุที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย 4 กลุ่ม ได้แก่ ตะกั่วและแคดเมียมในกลุ่มโลหะหนัก กับไนเตรทและไนไตรท์ซึ่งสามารถกลายสภาพเป็นไนโตรซามีน หนึ่งในสารก่อมะเร็ง ผลการทดสอบมีดังนี้  ตะกั่ว1. ไม่พบการตกค้างของสารตะกั่วในน้ำแร่จำนวน 20 ตัวอย่าง (ร้อยละ 83) 2. พบการตกค้างของสารตะกั่วในน้ำแร่จำนวน 4 ตัวอย่าง (ร้อยละ 17) ที่ปริมาณระหว่าง 0.0002 – 0.003 มิลลิกรัม/ลิตร อย่างไรก็ตามไม่มีตัวอย่างใดมีปริมาณตะกั่วตกค้างสูงเกินมาตรฐานประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 199) พ.ศ. 2543 เรื่องน้ำแร่ธรรมชาติ ที่ปริมาณไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัม/ลิตร  แคดเมียม1. ไม่พบการตกค้างของแคดเมียมในน้ำแร่จำนวน 4 ตัวอย่าง (ร้อยละ 17)2. พบการตกค้างของแคดเมียมในน้ำแร่จำนวน 20 ตัวอย่าง (ร้อยละ 83) ที่ปริมาณระหว่าง 0.0002 – 0.0075 มิลลิกรัม/ลิตร และเมื่อนำมาตรฐานประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 199) พ.ศ. 2543 เรื่องน้ำแร่ธรรมชาติที่กำหนดให้มีการตกค้างของแคดเมียมได้ไม่เกิน 0.003 มิลลิกรัม/ลิตร มาประกอบการพิจารณา พบว่ามีน้ำแร่จำนวน 2 ตัวอย่างที่เกินมาตรฐานไปเล็กน้อย ได้แก่ น้ำแร่ฟิจิ ของบริษัท เนเชอรัล วอเตอร์ ออฟ วิติ ลิมิเต็ด สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ นำเข้าโดย บ.ซี.วี.เอส ซินดิเคท จำกัด ปริมาณแคดเมียมที่พบเท่ากับ 0.0075 มิลลิกรัม/ลิตร และน้ำแร่อควอเร่ ของ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ปริมาณ 0.0032 มิลลิกรัม/ลิตร  ไนเตรท1. ไม่พบไนเตรทในน้ำแร่จำนวน 2 ตัวอย่าง (ร้อยละ 8) ได้แก่ น้ำแร่ไอยริน ของบริษัท วี แอนด์ พี สยาม วอเตอร์ โปรดักส์ จำกัด และน้ำแร่ วิทเทล ของ บริษัท เปอริเอ้ วิทเทล (ฝรั่งเศส) 2. พบไนเตรทในน้ำแร่จำนวน 22 ตัวอย่าง (ร้อยละ 92) ที่ปริมาณระหว่าง 0.027 – 14.229 มิลลิกรัม/ลิตร แต่ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 199) พ.ศ. 2543 เรื่องน้ำแร่ธรรมชาติที่กำหนดให้มีไนเตรทได้ไม่เกิน 50 มิลลิกรัม/ลิตร  ไนไตรท์1. ไม่พบไตรท์เลยในน้ำแร่จำนวน 23 ตัวอย่าง (ร้อยละ 96)2. พบไนไตรท์จำนวน 1 ตัวอย่าง (ร้อยละ 4) ปริมาณที่พบเท่ากับ 0.004 มิลลิกรัม/ลิตร ในน้ำแร่มิเนเร่ของบริษัทบ.เปอริเอ้ วิทเทล (ประเทศไทย) จำกัด แต่อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยเนื่องจากไม่สูงเกินมาตรฐานประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 199) พ.ศ. 2543 เรื่องน้ำแร่ธรรมชาติที่กำหนดไว้ให้มีได้ไม่เกิน 0.02 มิลลิกรัม/ลิตร   ข้อสังเกต1. การทดสอบกลุ่มโลหะหนัก ตะกั่วและแคดเมียม  มีน้ำแร่ 4 ตัวอย่าง ที่ไม่พบเลย ได้แก่ ไอโอ มองต์เฟลอ เทสโก้ และไอซ์แลนด์สปริง  ขณะเดียวกันก็มีน้ำแร่ 4 ตัวอย่างที่ตรวจพบโลหะหนักทั้ง 2 ชนิด ได้แก่ ท็อปส์ โฮมเฟรชมาร์ช ฟิจิ และอควอเร่ แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย 2. การทดสอบ ไนเตรทและไนไตรท์ มีน้ำแร่จำนวน 2 ยี่ห้อที่ไม่พบไนเตรทและไนไตรท์เลย คือ ไอยรินกับ วิทเทล ขณะที่ตัวอย่างที่พบทั้งไนเตรทและไนไตรท์ ได้แก่ มิเนเร่ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย3. เมื่อเทียบผลการทดสอบกับการตรวจสอบฉลากของผลิตภัณฑ์พบว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่ไม่มีการระบุแร่ธาตุที่เป็นอันตรายกับร่างกายไว้บนฉลาก และมีการแสดงฉลากไม่สมบูรณ์ตามประกาศฯ ฉบับที่ 199 เรื่องน้ำแร่ จำนวน 3 ตัวอย่าง แบ่งเป็นไม่แสดงชนิดของแร่ธาตุที่สำคัญ 2 ตัวอย่าง คือ  โอเชี่ยน ดีฟ ของบ.ไต้หวัน เยส ดีฟ โอเชี่ยน วอเตอร์ จำกัด และ วาย อี เอส ของ บ.ยัง เอ็นเนอจี ชอร์ส จำกัด เมืองโถวเฉิน จ.อี้เหลิง ประเทศไต้หวัน กับไม่แสดงแหล่งที่มาของน้ำแร่จำนวน 1 ตัวอย่าง ได้แก่ ฟิจิ ของบ. เนเชอรัล วอเตอร์ ออฟ วิติ ลิมิเต็ด สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ   สรุป จากการทดสอบตัวอย่างน้ำแร่จำนวน 24 ยี่ห้อ โดยมีหนึ่งตัวอย่างเป็นน้ำดื่มโมเลกุลเล็ก และหนึ่งตัวอย่างเป็นน้ำดื่มที่มาระบุว่ามาจากใต้ทะเลลึก ผู้บริโภคมีความเสี่ยงที่จะได้รับตะกั่วเข้าสู่ร่างกายที่ร้อยละ 17 แคดเมียมที่ร้อยละ 83 ไนเตรทที่ร้อยละ 92 และไนไตรท์ที่ร้อยละ 4 โดยพบแคดเมียมเกินมาตรฐานจำนวน 2 ตัวอย่าง ในยี่ห้อฟิจิและอควอเร่ เนื่องจากราคาขายน้ำแร่โดยเฉลี่ยสูงกว่าน้ำดื่มบรรจุขวดและน้ำดื่มตู้หยอดเหรียญค่อนข้างมากและยังมีแร่ธาตุที่เป็นโทษตามที่ได้ทดสอบไปประกอบอยู่ตามธรรมชาติ  ที่ถึงแม้ปริมาณที่พบส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยต่อการบริโภคแต่หากบริโภคติดต่อกันเป็นประจำอย่างต่อเนื่องก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้นั้น ฉลาดซื้อขอแนะนำว่าบริโภคเป็นทางเลือกได้ แต่ไม่เหมาะสมที่จะบริโภคทดแทนน้ำดื่มปกติ สำหรับคำโฆษณาที่บอกว่าน้ำแร่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายนั้น จากการศึกษาฉลากพบว่าปริมาณแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีอยู่ในน้ำแร่นั้นมีปริมาณที่น้อยมาก (หน่วยวัดเป็นมิลลิกรัมหรือไมโครกรัม) เมื่อเทียบกับความต้องการตามปกติของร่างกายต่อวัน น้ำแร่จึงไม่ใช่แหล่งแร่ธาตุที่เหมาะสมกับร่างกาย หากต้องการแร่ธาตุต่าง ๆ ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่โดยที่ครึ่งหนึ่งของปริมาณบริโภคเป็นผักและผลไม้จะทำให้ได้รับแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ร่างกายต้องการได้ครบถ้วนและดีกว่า ตารางแสดงผลทดสอบแร่ธาตุในน้ำแร่   ชื่อสินค้า บริษัทผู้ผลิต / จัดจำหน่าย แร่ธาตุที่ระบุบนฉลาก แหล่งน้ำธรรมชาติที่อ้างถึง เลขที่ อย. ระบุ ว/ด/ป ที่ผลิต – หมดอายุ ราคา ตะกั่ว Lead (มก./ ลิตร) แคดเมียม Cadmium (มก./ลิตร) ไนเตรท Nitrate (มก./ลิตร) ไนไตรท์ Nitrite (มก./ลิตร) 1.มิเนเร่ บ.เปอริเอ้ วิทเทล (ประเทศไทย) แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม สังกะสี ฟลูออไรด์ ไบคาร์บอเนต ซัลเฟต ต.โพธิ์สามต้น จ.พระนครอยุธยา 14-2-00336-2-0001 ระบุ 1.5 ลิตร / 13.50 บ. ไม่พบ 0.0002 0.192 0.004 2.ออรา บ.ทิปโก้ฟูดส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ฟลูออไรด์ โพแทสเซียม โซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม ไบคาร์บอเนต ซิลีก้า คลอไรด์ ซัลเฟต พุจากใต้เทือกเขาสูง อ.แม่ริน จ.เชียงใหม่ 50-2-00850-2-0001 ระบุ 1.5 ลิตร / 16.50 บ. ไม่พบ 0.0008 4.829 ไม่พบ 3.ไอโอ บ.บุญรอดเอเซียเบเวอเรซ จำกัด ไอโอดีน แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม ฟลูออไรด์ ไบคาร์บอเนต ซัลเฟต ต.พระงาม จ.สิงห์บุรี 17-2-00141-2-002 ระบุ 1.5 ลิตร / 13 บ. ไม่พบ ND 0.422 ไม่พบ 4.มองต์ เฟลอ ผลิตโดย บจ.ทิพย์วารินวัฒนา แคลเซียม โซเดียม โปตัสเซียม ซัลเฟต ไบคาร์บอเนต สังกะสี ผ่านกรรมวิธีเติมโอโซน แหล่งน้ำพุร้อนลึกใต้ผิวโลก ต.พบพระ จ.ตาก 63-2-00540-2-001 ระบุ 1.5 ลิตร / 18.75 บ. ND ND 0.027 ไม่พบ 5.คาร์ฟูร์ สั่งผลิตและจัดจำหน่าย บ.เซ็นคาร์ จำกัด ผลิตโดย บ.ทีทีซี น้ำดื่มดื่มสยาม จำกัด ฟลูออไรด์ ไนเตรท ไบคาร์โบเนต ซัลเฟต ไอโอดีน แคลเซียม แมกนีเซียม จากแหล่งน้ำลึก 200 เมตร อ.สามโคก จ.ปทุมธานี 13-2-00441-2-0006 ระบุ 1.5 ลิตร / 9 บ. ไม่พบ 0.001 0.085 ไม่พบ 6.บิ๊กซี บ.ทีทีซี น้ำดืมสยาม จำกัด แคลเซียม แมกนีเซียม โปแตสเซียม โซเดียม สังกะสี ฟลูออไรด์ ไบคาร์บอเนต ซัลเฟต จากแหล่งสามโคก จ.ปทุมธานี 13-2-00441-2-0007 ระบุ 1.5 ลิตร / 13 บ. ไม่พบ 0.001 0.05 ไม่พบ 7.เทสโก้ บ.ทีทีซี น้ำดืม สยาม จำกัด ฟลูออไรด์ แมกนีเซียม โซเดียม ซัลเฟต ไอโอดีน แคลเซียม โปแตสเซียม ไบคาร์บอเนต จากแหล่งสามโคก จ.ปทุมธานี 13-2-00441-2-0005 ระบุ 1.5 ลิตร / 10 บ. ไม่พบ ไม่พบ 0.112 ไม่พบ 8.ท๊อปส์ บ.ทีทีซี น้ำดืมสยาม จำกัด ฟลูออไรด์ ไนเตรท ซัลเฟต ไอโอดีน แคลเซียม แมกนีเซียม จากแหล่งสามโคก จ.ปทุมธานี 13-2-00441-2-0032 ระบุ 1.5 ลิตร / 15 บ. 0.003 0.002 0.14 ไม่พบ 9.โฮม เฟรช มาร์ท บ.ทีทีซี น้ำดืมสยาม จำกัด แคลเซียม แมกนีเซียม โปตัสเซียม ไอโอดีน คลอไรด์ ซัลเฟด ไบคาร์บอเนต จากแหล่งสามโคก จ.ปทุมธานี 13-2-0041-2-0082 ระบุ 1.5 ลิตร / 15 บ. 0.0002 0.0002 0.077 ไม่พบ 10.โอเชี่ยน ดีฟ ผลิตโดย บ.ไต้หวัน เยส ดีฟ โอเชี่ยน วอเตอร์ จำกัด (น้ำจากทะเลน้ำลึกมหาสมุทรแปซิฟิก) ประเทศไต้หวัน นำเข้าโดย บ.ทีมเทคเวิลด์ไวด์ จำกัด   น้ำจากทะเลน้ำลึกมหาสมุทรแปซิฟิก 10-3-02152-1-0001 ระบุ 1.5 ลิตร / 58 บ. ไม่พบ 0.0006 0.211 ไม่พบ 11.เอเวียง ผลิตโดย เอส เอ เอเวียง ประเทสฝรั่งเศส นำเข้าโดย บจก. ซีโน-แปซิฟิก เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) ไบคาร์บอเนต โซเดียม แคลเซียม ไนเตรท แมกเนเซียม คลอไรด์ ซัลเฟต โปตัสเซียม ซิลิกา น้ำแร่ธรรมชาติจากคาซาต เทือกเขาแอลป์ ฝรั่งเศส 10-3-11523-1-0518 ระบุ 1.5 ลิตร / 76.75 บ. ไม่พบ 0.0013 3.37 ไม่พบ 12.สโนวี่เมาท์เทน ผลิตโดย บ.สโนวี่ เมาท์เทน บอทเทิ้ล จำกัด ประเทศออสเตรเลีย นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บ.โกลบอล ฟู้ด โปรดักส์ จำกัด ไบคาร์บอเนต คลอไรด์ แคลเซียม แมกนีเซียม โซเดียม ซัลเฟต โปตัสเซียม ซิลิกา น้ำแร่ธรรมชาติจากเทือกเขาเดเลสฟอร์ด 10-3-34148-1-0646 ระบุ 1.5 ลิตร / 50 บ. ไม่พบ 0.0002 14.229 ไม่พบ 13.ไอซ์แลนด์สปริง นำเข้าและจัดจำหน่าโดย บ.เอช ทู โอ-ไฮโดร จำกัด คลอไรด์  แคลเซียม แมกนีเซียม โซเดียม ซัลเฟต โปตัสเซียม เหล็ก น้ำแร่ธรรมชาติจากประเทศไอซ์แลนด์ 10-3-14052-1-0001 ระบุ 1.5 ลิตร / 96 บ. ไม่พบ ไม่พบ 0.589 ไม่พบ 14.ราดิโอซ่า ผลิตโดย คาสเทลเดลซี  บาคูรา เอส.อาร์.แอล. ประเทศอิตาลี นำเข้าโดย บจก.อิตาเลี้ยน สตาร์ ไบคาร์บอเนต แคลเซียม แมกนีเซียม ไนเตรท ซิลิกา โซเดียม โพแทสเซียม ซัลเฟรต คลอไรด์ ฟลูออไรด์ น้ำแร่ธรรมชาติจากเทือกเขาฟูไบโอไล 10-3-21652-1-0001 ระบุ 1.5 ลิตร / 44 บ. ไม่พบ 0.001 1.159 ไม่พบ 15.ไพน์วอเตอร์ (น้ำดื่มโมเลกุลเล็ก) 3P2M Co., Ltd. แคลเซียม แมกนีเซียม ซัลเฟต ฟลูออไรด์ เหล็ก โพแทสเซียม ซิง โซเดียม น้ำดื่มโมเลกุลเล็ก ด้วยนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี 10-1-09549-1-0001 ระบุ 1.5 ลิตร / 40 บ. ไม่พบ 0.0013 0.162 ไม่พบ 16.วอลวิก ผลิตโดย โซซิเอเต้ เดโอเดอ วอลวิก ประเทศฝรั่งเศส นำเข้าโดย บจก.ซีโน-แปซิฟิก เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) แคลเซียม แมกนีเซียม โซเดียม โปแตสเซียม คลอไรด์ ไนเตรต ซัลเฟต ไบคาร์บอเนต น้ำแร่ธรรมชาติจากอูเวิร์น 10-3-11523-1-0683 ระบุ 1.5 ลิตร / 59 บ. ไม่พบ 0.0006 6.317 ไม่พบ 17.ซุยไซ โนะ โมริ ผลิตโดย โมริยามะ นิวเงียว จำกัด เมืองคานากาวา ประเทศญี่ปุ่น นำเข้าโดย บ.โกเบ-ยา ไชกุอิน โตเงียว จำกัด เป็นภาษาญี่ปุ่น น้ำแร่ธรรมชาติจากเมืองคุโรมาสึไนเกะ ฮอกไกโด 10-3-07132-1-4993 ระบุ 2 ลิตร / 60 บ. ไม่พบ 0.0007 0.085 ไม่พบ 18.แพนนา ผลิตโดย แพนนา เอส.พี.เอ. ซูกาโน โอร์เวียโต ประเทศอิตาลี นำเข้าโดย บ.วานิชวัฒนา (กรุงเทพฯ) จำกัด ไบคาร์บอเนต แคลเซียม คลอไรด์ ฟูลออไรด์ แมกนีเซียม ไนเตรด ซัลเฟต น้ำแร่จากแหล่ง แพนนา ทีโอนี 10-3-05246-1-0001 ระบุ 89 บ. ไม่พบ 0.0016 3.383 ไม่พบ 19.โอ เดอ เปอริเอ้ ผลิตโดย Nestle water’s Supply Sud, France นำเข้าโดย บ.เปอริเอ้ วิทเทล (ประเทศไทย) จำกัด จำหน่ายโดย บ.อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด แคลเซียม โซเดียม แมกนีเซียม คลอไรด์ ไบคาร์บอเนต ซัลเฟต น้ำแร่ธรรมชาติชนิดมีฟองน้อยจากแหล่งเปอริเอ้ 10-3-03439-1-0003 ระบุ 750 มล. / 77 บ. ไม่พบ 0.001 5.63 ไม่พบ 20.ฟิจิ ผลิตโดย บ.เนเชอรัล วอเตอร์ ออฟ วิติ ลิมิเต็ด สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ นำเข้าโดย บ.ซี.วี.เอส ซินดิเคท ซิลิกา แคลเซียม ไบคาร์บอเนต โซเดียม แมกนีเซียม คลอไรด์  โพแทสเซียม ไนเตรท ซัลเฟต   10-3-23251-1-0001 ระบุ 1 ลิตร / 69 บ. 0.0001 0.0075 1.321 ไม่พบ 21.ไอยริน ผลิตโดย บ.วี แอนด์ พี สยาม วอเตอร์ โปรดักส์ จำกัด  จัดจำหน่ายโดย บ.โชคมหาชัย เบเวอร์เรจ จำกัด บ.เครื่องดื่ม ซันสปาร์ค จำกัด แคลเซียม แมกนีเซียม โปตัสเซียม โซเดียม ฟลูออไรด์ ซัลเฟต ไนเตรท คลอไรด์ น้ำแร่ธรรมชาติจากแหล่งหินเพิง 30-2-02246-2-0018 ระบุ 500 มิลลิตร / 20 บ. ไม่พบ 0.0008 ND ไม่พบ 22.วิทเทล ผลิตโดย บ.เปอริเอ้ วิทเทล (ฝรั่งเศส) ประเทศฝรั่งเศส นำเข้าโดย บ.เปอริเอ้ วิทเทล (ประเทศไทย) จำกัด แคลเซียม แมกนีเซียม โซเดียม ซัลเฟต น้ำแร่ธรรมชาติจากแหล่งบอนน์ ฝรั่งเศส 10-3-03439-1-0001 ระบุ 1.5 ลิตร / 50.25 บ. ไม่พบ 0.0004 ไม่พบ ไม่พบ 23.วาย อี เอส ผลิตโดย บ.ยัง เอ็นเนอจี ชอร์ส จำกัด ประเทศไต้หวัน นำเข้าโดย บ.ทีมเทคเวิลด์ไวดื จำกัด (มหาชน)   น้ำแร่ธรรมชาติจากเทือกเขา สโนว์เมาท์เทน 10-3-02152-1-0003 ระบุ 700 มิลลิลิตร / 25 บ. ไม่พบ 0.0012 0.139 ไม่พบ 24.อควอเร่ บ.ทิปโก้ฟูดส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ฟลูออไรด์ โพแทสเซียม โซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม ไบคาร์บอเนต คลอไรด์ ซัลเฟต น้ำแร่ธรรมชาติจากแหล่งโป่งแยง 50-2-00850-2-0007 ระบุวันหมดอายุ   0.0002 0.0032 4.654 ไม่พบ

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า300 Point

ฉบับที่ 121 กุนเชียง เสี่ยง...ไม่เสี่ยง

  โครงการพัฒนากลไกการเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านอาหารของผู้บริโภคได้เก็บตัวอย่างกุนเชียงหมูจำนวน 7 ตัวอย่าง จากพื้นที่ปฏิบัติงานโครงการ 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น มหาสารคาม เชียงใหม่ พะเยา และสงขลา จังหวัดละ 1 ตัวอย่าง ยกเว้นจังหวัดมหาสารคามที่เก็บตัวอย่างทั้งสิ้น 2 ตัวอย่าง นอกจากนี้ยังได้เก็บตัวอย่างกุนเชียงไก่จำนวน 1 ตัวอย่าง จากพื้นที่จังหวัดสตูล รวม 8 ตัวอย่าง ในเดือนมีนาคม 2553 เพื่อทดสอบหาปริมาณการใช้วัตถุเจือปนอาหาร 2 กลุ่ม คือ สารกันบูด (ได้แก่ กรดเบนโซอิค กรดซอร์บิค ไนเตรท และไนไตรท์) กับ สีสังเคราะห์   ผลการทดสอบ1. พบการใช้กรดเบนโซอิคในกุนเชียงจำนวน 5 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 62 ปริมาณเฉลี่ยที่พบเท่ากับ 15.3 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ซึ่งจัดอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยต่อการบริโภค2. พบการใช้กรดซอร์บิคจำนวน 3 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 37 ปริมาณเฉลี่ยที่พบเท่ากับ 620 มิลลิกรัม/กิโลกรัม โดยมี 1 ตัวอย่างที่ปริมาณกรดซอร์บิคอยู่ในเกณฑ์สูงเกินมาตรฐาน ปริมาณสารกันบูดที่พบเท่ากับ 1,205 มิลลิกรัม/กิโลกรัม3. พบการใช้ไนเตรทและไนไตรท์จำนวน 3 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 37 ปริมาณเฉลี่ยที่พบเท่ากับ 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัมซึ่งจัดอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยต่อการบริโภค4. ไม่พบการใช้สีสังเคราะห์ในทุกตัวอย่างที่ทำการทดสอบ  สรุป ในกุนเชียง 1 กิโลกรัมจากจำนวน 8 ตัวอย่างที่ทดสอบ ปริมาณเฉลี่ยของสารกันบูดชนิด กรดเบนโซอิคเท่ากับ 15.3 มิลลิกรัม กรดซอร์บิคเท่ากับ 620 มิลลิกรัม ไนเตรทและไนไตรท์เท่ากับ 10 มิลลิกรัม อย่างไรก็ตามความเสี่ยงจากการได้รับสารกันบูดสูงเกินมาตรฐานอยู่ในเกณฑ์ต่ำที่ร้อยละ 12.5 ขณะที่ความเสี่ยงจากการได้รับสีสังเคราะห์เป็นศูนย์หรือเท่ากับไม่มีเลย ซึ่งก็ถือว่าเป็นข่าวดี ยังไงเพื่อลดความเสี่ยงเวลาเลือกซื้อกุนเชียงอ่านฉลากให้ดี โดยเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ฉลากระบุว่าไม่ใช้วัตถุกันเสียและไม่เจือสีสังเคราะห์*************************************************************** กุนเชียง ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปซึ่งมีลักษณะคล้ายกันกับไส้กรอก แต่จะแตกต่างกันตรงที่ความละเอียดของเนื้อที่ใช้ เนื้อสำหรับทำกุนเชียงจะเป็นเนื้อที่บดหยาบกว่า อาจจะใช้เครื่องบดหรือใช้มีดสับด้วยมือธรรมดาๆ ส่วนไส้กรอกจะเป็นเนื้อที่บดละเอียด เรียกว่าเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนจะนำมาใส่ส่วนผสม เช่น เกลือ น้ำตาล ซีอิ้วขาว หรือเครื่องเทศ แล้วนำไปใส่ลงในไส้หมูที่ล้างทำความสะอาดมาแล้วเรียบร้อย นำไปตากหรืออบให้แห้ง กุนเชียง มีที่มาจากประเทศจีน หลายประเทศในแถมเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ก็นิยมรับประทานกุนเชียงเหมือนบ้านเรา แต่ว่าจะมีชื่อเรียกแตกต่างกัน ถ้าเป็นชาวตะวันตกก็จะเหมาเรียกรวมกันว่า Chinese sausage หรือ ไส้กรอกจีน ************************************************************** ฉลาดซื้อแนะนำ-กุนเชียงที่ดี เนื้อกุนเชียงต้องผสมกันดี ทั้งส่วนเนื้อและส่วนที่เป็นมัน-สี ต้องเป็นธรรมชาติ ดูสม่ำเสมอกันตลอดชิ้น ไม่ซีดหรือคล้ำ-ไม่มีกลิ่นอับ หรือมีกลิ่นเหม็น -กุนเชียงต้องบรรจุอยู่ในภาชนะบรรจุที่สะอาด ผนึกเรียบร้อย ไม่มีสิ่งปนเปื้อน-ถ้าจะให้ดีควรมีการระบุ ชื่อผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบ น้ำหนักสุทธิ วัน เดือน ปี ที่ผลิตหรือหมดอายุ ชื่อผู้ผลิตพร้อมสถานที่ตั้ง กำกับไว้ที่ภาชนะบรรจุกุนเชียง+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++   ผลวิเคราะห์ตัวอย่างกุนเชียง ยี่ห้อ ผู้ผลิต จังหวัดที่เก็บตัวอย่าง ผลวิเคราะห์ (มิลลิกรัม / กิโลกรัม) เบนโซอิค ซอร์บิค ไนเตรท ไนไตรท์ สีสังเคราะห์ กุนเชียงหมู บิ๊กซี บ. ส ขอนแก่น กรุงเทพ 10.42 474.04 28.43 2.65 ไม่พบ ชิน เหอ เชียง ไม่ระบุ ขอนแก่น ไม่พบ 181.4 ไม่พบ ไม่พบ ไม่พบ พีแอนด์พี บ. พี แอนด์ พี มหาสารคาม 5 ไม่พบ ไม่พบ ไม่พบ ไม่พบ จิง จิง เชียง บ.จิง จิง เชียง มหาสารคาม 5 ไม่พบ ไม่พบ ไม่พบ ไม่พบ ไม่ระบุ ไม่ระบุ สงขลา 48.79 ไม่พบ 23.2 5.84 ไม่พบ แม่เนื้อพลอย ไม่ระบุ เชียงใหม่ 7.31 ไม่พบ ไม่พบ ไม่พบ ไม่พบ พีแอนด์พี บ.พี แอนด์ พี พะเยา ไม่พบ ไม่พบ ไม่พบ ไม่พบ ไม่พบ กุนเชียงไก่ ปิยวัฒน์ บ.ปิยะวัฒน์เจ้เม้ง สตูล ไม่พบ 1,205 1.62 0.22 ไม่พบ   ผลรายงานเฉพาะตัวอย่างที่ส่งวิเคราะห์เท่านั้น โดย สถาบันโภชนาการ ม.มหิดล ภาควิชาเทคโนโลยีอาหาร คณะเทคโนโลยี ม.ขอนแก่น คณะอุตสาหกรรมการเกษตร ม.สงขลานคริทร์ สถาบันวิจัยทยาศาสตร์สุขภาพ ม.เชียงใหม่ อ้างอิงสารกันบูด – ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 281 (พ.ศ. 2547) เรื่องวัตถุเจือปนอาหาร กำหนดให้ผลิตภัณฑ์กุนเชียงสามารถใช้วัตถุกันเสีย (สารกันบูด) ได้ 2 ชนิด คือไนเตรทและไนไตรท์ ที่ปริมาณไม่เกิน 500 และ 125 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ตามลำดับ และในกรณีใช้ไนเตรทกับไนไตรท์ร่วมกันในหนึ่งผลิตภัณฑ์ให้ปริมาณที่ใช้ได้สูงสุดไม่เกิน 125 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ส่วนการใช้สารกันบูดชนิดอื่น ๆ รวมถึงกรดซอร์บิคและกรดเบนโซอิค ไม่มีการระบุไว้แต่อย่างใดว่าให้ใช้ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม มาตรฐานอาหารสากล (Codex) ปี 2005 ได้กำหนดการใช้กรดเบนโซอิคในผลิตภัณฑ์กุนเชียงเพื่อถนอมอาหารนั้นไว้ว่าไม่ควรเกินกว่า 1,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม โดยที่ไม่ได้ระบุการใช้กรดซอร์บิคในกุนเชียงไว้อีกทั้งยังมิได้ระบุค่าความปลอดภัย (Acceptable Dietary Intake: ADI) เอาไว้อีกด้วย  สีสังเคราะห์ - ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 281 (พ.ศ. 2547) เรื่องวัตถุเจือปนอาหาร ระบุว่าห้ามใช้สีสังเคราะห์ในกุนเชียง

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า300 Point

ฉบับที่ 120 Dark Chocolate ของดำกำลังมา

เทรนด์ใหม่มาแรงนาทีนี้เห็นทีจะหนีไม่พ้น “ช็อกโกแลตดำ” หรือ Dark Chocolate ที่เป็นทางเลือกใหม่ในหมู่ผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพ เพราะส่วนผสมหลักของช็อกโกแลต ซึ่งได้แก่ โกโก้นั้นเป็นที่ทราบกันดีว่ามีสารฟลาโวนอยด์ที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้ ไหนจะสรรพคุณช่วยกระตุ้นการหลั่งเอนโดรฟิน ที่ทำให้ผู้ที่รับประทานเข้าไปรู้สึกมีความสุขอีกต่างหาก หรือบ้างก็ยืนยันว่ากินแล้วช่วยลดน้ำหนักได้อีก แต่ทั้งนี้ต้องอย่าลืมว่าสิ่งที่จะทำให้เกิดผลที่กล่าวมาข้างต้นคือโกโก้เท่านั้น ไม่ได้หมายรวมถึงช็อกโกแลตทั้งแท่งซึ่งยังมีส่วนผสมอื่นๆ ซึ่งอาจไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายรวมอยู่ด้วย  ฉลาดซื้อจึงถือโอกาสในเดือนแห่งช็อกโกแลต(ดูจากปฏิทินของคนช่างกิน) ทำการสำรวจหาช็อกโกแลตดำที่มีปริมาณโกโก้สูงที่สุดมาฝากสมาชิกกัน ---  แบบไหนจึงจัดว่า “ดำ”ตามมาตรฐานยุโรป “ช็อกโกแลตดำ” จะต้องมีโกโก้แมสเป็นส่วนประกอบไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 35 แต่ในอเมริกานั้น แค่มีปริมาณโกโก้แมสไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 15 ก็จัดว่าเป็น Dark Chocolate ได้แล้ว---  ฉลาดซื้อสำรวจ ... เราพบว่า- ถ้าต้องการกินช็อกโกแลตเพื่อสุขภาพเราคงต้องให้ความสนใจกับปริมาณน้ำตาลด้วย เราพบว่าแม้ช็อกโกแลตเหล่านี้จะจัดตัวเองว่าเป็น “ช็อกโกแลตดำ” แต่ก็ยังมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบตั้งแต่ ร้อยละ 26 ถึงร้อยละ 46 เลยทีเดียว (ยกเว้น Anti-Ox ซึ่งไม่มีน้ำตาล และ Cavalier ซึ่งใช้สารให้ความหวานมอลทิทอลเป็นส่วนประกอบร้อยละ 22)  - ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เราสำรวจ ช็อกโกแลตดำของ Dove และ Meiji มีส่วนประกอบของน้ำตาลสูงที่สุด (ร้อยละ 46)  - เมื่อเฉลี่ยดูราคาต่อหน่วยแล้ว พบว่าช็อกโกแลตที่เราซื้อมาในราคาต่ำสุด (Miraco) กลับมีราคาต่อหน่วยสูงที่สุด (1.59 บาท/กรัม) ในขณะที่ช็อกโกแลตที่ซื้อมาในราคาสูงที่สุด (Cavalier) นั้นมีราคาต่อหน่วยต่ำที่สุด (0.66 บาท/กรัม) - ผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณโกโก้สูงกว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่แพงกว่า เพราะเราพบว่าAnti-Ox ซึ่งที่มีปริมาณโกโก้สูงสุดถึงร้อยละ 90 มีราคาถูกที่สุดเป็นอันดับสองรองจาก Cavalier  - ถ้าดูจากปริมาณโกโก้แมส ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่เราสำรวจสามารถจัดว่าเป็นช็อกโกแลตดำได้ตามมาตรฐานอเมริกัน แต่ถ้าใช้มาตรฐานของยุโรปจะมีเพียง 6 ผลิตภัณฑ์เท่านั้น (AntiOx / Cavalier / Ritter Sport / Miraco / Dove / และ HERSHEY’s Special Dark) ที่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นช็อกโกแลตดำได้  - อีกข้อสังเกตอีกประการหนึ่งคือ ปริมาณโกโก้ที่แสดงบนฉลากด้านหน้า บริเวณชื่อผลิตภัณฑ์ กับในส่วนประกอบสำคัญมักไม่ตรงกัน บางทีมากกว่า แต่ส่วนใหญ่แล้วน้อยกว่า มีเพียง HERSHEY’S Special Dark Pure Chocolate ที่รวมส่วนผสมโกโก้ทั้งหมดแล้วได้ตามที่เขียนไว้ด้านหน้า  - แต่ต้องย้ำตรงนี้ว่า เราไม่ได้สำรวจเรื่องของรสชาติ ผู้ผลิตแต่ละเจ้าก็มีการใช้ส่วนผสมอื่นๆ เพื่อความเนียนนุ่ม หอมมัน หรือใช้น้ำตาลในปริมาณที่แตกต่างกันไป ใครชอบแบบไหนเห็นจะต้องไปทดลองชิมกันเองอีกที---  อีกทางเลือกถ้าไม่ต้องการน้ำตาลส่วนเกินที่มากับช็อกโกแลตดำสำเร็จรูปเหล่านี้ ลองหาซื้อโกโก้ผงมาชงเป็นเครื่องดื่มร้อนไว้จิบชิลๆ ดูก็ได้ ------  หมายเหตุ ช็อกโกแลตดำที่มีขายในตลาดบ้านเรา ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าจากจีน ญี่ปุ่น เบลเยียม เยอรมนี และออสเตรเลีย มีเพียงยี่ห้อ Miraco เท่านั้นที่ผลิตในบ้านเรา---________________________________________________________ เกือบร้อยละ 40 ของผลผลิตโกโก้ดิบมาจากประเทศ ไอโวรี่ โคสต์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตโกโก้รายใหญ่ที่สุดของโลก รองลงมาได้แก่ประเทศกาน่า และอินโดนีเซีย และเนื่องจากขณะนี้ ไอโวรี่โคสต์ กำลังประสบปัญหาความมั่นคงภายในประเทศ จึงทำให้ราคาโกโก้ในตลาดโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ12.5 เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมาราคาโกโก้ในตลาดนิวยอร์กอยู่ที่ตันละ 3,000 เหรียญ แต่ทั้งนี้นักวิเคราะห์เขาบอกว่าราคาโกโก้น่าจะไม่ส่งผลต่อราคาของช็อกโกแลตแท่งมากนักเพราะ ณ ปัจจุบัน ถ้าช็อกโกแลตแท่งหนึ่งราคา 100 บาท ในนั้นมีค่าต้นทุนโกโก้เพียง 6 ถึง 8 บาทเท่านั้น ที่เหลือเป็นราคาสำหรับส่วนผสมอื่นๆ เช่น นม หรือน้ำตาล แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือค่าใช้จ่ายในการผลิต การจัดจำหน่าย ค่าโฆษณาและกำไรของผู้ผลิตช็อกโกแลตนั่นเอง_______________________________________________________________  งานวิจัย: กินช็อกฯ ... กันช็อกงานวิจัยที่ทำกับผู้หญิงสวีเดน ที่อายุระหว่าง 48-83 ปี จำนวนกว่า 30,000 คน (เป็นการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาระหว่างปีคศ. 1998 - 2006) พบว่าคนที่รับประทานช็อกโกแลตในปริมาณเล็กน้อย เป็นประจำ จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจล้มเหลวน้อยกว่าคนทั่วไป และช็อกโกแลตที่พวกเธอทานเป็นช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของโกโก้ในปริมาณที่เข้มข้น   งานวิจัยพบว่า • ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจล้มเหลวลดลงร้อยละ 26 ในกลุ่มที่รับประทานช็อกโกแลตที่มีปริมาณโกโก้สูงระหว่าง 1 ถึง 3 ครั้งต่อเดือน • ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจล้มเหลวลดลงร้อยละ 32 ในผู้หญิงที่กินช็อกโกแลตดังกล่าว 2 ครั้งต่อสัปดาห์ • ไม่พบว่ามีความเสี่ยงในการเกิดหัวใจล้มเหลวน้อยลง ในผู้หญิงที่รับประทานช็อกโกแลตอย่างน้อยวันละครั้ง ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะแคลอรี่ส่วนเกินที่ได้จากช็อกโกแลตแทนที่จะได้จากอาหารชนิดอื่นนั่นเอง * ปริมาณที่รับประทานต่อครั้งอยู่ที่ 19 – 30 กรัม-----   Dark Chocolate ปริมาณโกโก้ที่แจ้งบนฉลาก (ร้อยละ) ร้อยละของโกโก้ ที่แจ้งในส่วนประกอบสำคัญบนฉลากภาษาไทย (ร้อยละ) ส่วนประกอบของน้ำตาล (ร้อยละ) ราคา (บาท) น้ำหนัก (กรัม) ราคาต่อกรัม (บาท) โกโก้แมส (ร้อยละ) ไขมันโกโก้ (ร้อยละ) โกโก้ผง (ร้อยละ) รวมปริมาณโกโก้ (ร้อยละ) AntiOx Chocolate 70 Dark Chocolate 90 - - 90 - 109 80 0.73 Cavalier Belgian Chocolate Extra Dark 72 41.5 14 13.5 69 22 (มอลทิทอล) 128 85 0.66 HERSHEY’S Special Dark Pure Chocolate 65 57 3 5 65 32 59 50 0.84 Ritter Sport Fine Extra Dark Chocolate 71 60 - - 60 26 74 100 1.35 HERSHEY’S Dark Chocolate ไม่ระบุ 29 17 3 49 42.75 29 40 1.37 Miraco Dark Chocolate ไม่ระบุ 42 5 2 49 40 22 35 1.59 Dove Dark Chocolate ไม่ระบุ 45 2 - 47 46 35 43 1.22 Lindt LINDOR Extra Dark 60 33.19 11.04 - 44.23 30.45 96 100 1.04 Meiji Black Chocolate ไม่ระบุ 33 6 - 39 46 39 45 1.15 Guylian Belgian Chocolates 74 26 11 - 37 35 88 65 0.73 Morinaga DARS ไม่ระบุ 23 5 9 37 30 50 50 1   ไหนๆ ก็ไปเยี่ยมเยียนถึงแผงช็อกโกแลตกันแล้ว ฉลาดซื้อของถือโอกาสนี้สำรวจปริมาณน้ำตาลและโกโก้ในช็อกโกแลตนม/ขนมหวานกลิ่นช็อคโกแลตมาเสียด้วยเลย   • ในบรรดาช็อกแลตนมธรรมดา ที่ไม่ได้เรียกตัวเองว่าช็อกโกแลตดำนั้น บางยี่ห้อมีปริมาณโกโก้อยู่ถึง ร้อยละ 38 (Meiji Milk Chocolate)ส่วนน้ำตาลนั้นก็เป็นไปตามคาด มีตั้งแต่ร้อยละ 23 ถึงร้อยละ 65 โดยขนมหวานที่มีปริมาณน้ำตาลมากที่สุดในกลุ่มที่เราสำรวจมาได้แก่ Mars (ร้อยละ 65) ตามด้วย M&M (ร้อยละ 60) และ Snickers (ร้อยละ 53)   ผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตนม / ขนมหวานกลิ่นช็อกโกแลต (เรียงลำดับตามปริมาณโกโก้) น้ำตาล และส่วนผสมอื่นๆ เช่นกลูโคสไซรัป/แลคโตส (ร้อยละ) ปริมาณโกโก้ (ร้อยละ) น้ำหนัก (กรัม) ราคา (บาท) Meiji Milk Chocolate 43 38 45 38 Morinaga DARS Milk 35 33 50 50 Ghana Milk Chocolate 42.7 32.3 58 45 Toblerone ช็อกโกแลตนมผสมอัลมอนด์นูกัตรสน้ำผึ้ง 48 30 100 85 Dove Milk Chocolate 38 29 43 35 Miraco Mocha Chocolate 41 27 35 22 BOUNTY ขนมหวานโกโก้สอดไส้มะพร้าว 37 26 57 54 Frey Classic ช็อกโกแลตนมผสมลูกเกด เฮเซลนัท และอัลมอนด์ 36.4 25.1 35 25 Cadbury's Twirl ช็อกโกแลตนม ไม่ระบุ 22 39 58 Cadbury's PICNICช็อกโกแลตนมสอดไส้ขนมปังกรอบผสมคาราเมลและข้าวพอง 23 (คาราเมล) 22 46 58 Van Houten Chocolateช็อกโกแลตนมผสมอัลมอนด์ 39.8 22 50 30 Cadbury's TIME OUTช็อกโกแลตสอดไส้เวเฟอร์ ไม่ระบุ 21 40 58 M&M ช็อกโกแลตนมเคลือบน้ำตาลสีต่างๆ 60 20 100 55 Maltesers ขนมช็อกโกแลตสอดไส้รสมอลต์ 43 18 37 30 KitKat Bites ช็อกโกแลตนมสอดไส้เวเฟอร์ 40 16 40 29 Ferrero Rocher ช็อกโกแลตนมผสมเกล็ดเฮเซลนัทสอดไส้ครีมและเฮเซลนัท 33.7 15.9 37.5 40 Alfie double chocoขนมหวานรสช็อกโกแลต 40 13 36 10 Kinder Chocolate ช็อกโกแลตนมสอดไส้ครีมนม 38.3 12.8 50 33 TOY STORY3 Choco Stick ขนมหวานกลิ่นช็อกโกแลต 44.5 10 15 6 Lilo&Stitch Choco Bar ขนมหวานรสช็อกโกแลต 43.5 9 15 8 Milo Choco Bar ขนมหวานรสช็อกโกแลต 36 7 37 19 Alfie ขนมหวานรสช็อกโกแลต 43 7 36 10 Snickers ถั่วลิสงคาราเมลและนูกัตเคลือบช็อกโกแลตนม 53 6 35 24 Pelotty เปล็อตตี้ ขนมหวานรสช็อกโกแลตและรสนม 48 6 6 Choco2tone ขนมหวานกลิ่นช็อกโกแลต 46.96 5.5 16 8 Mars ช็อกโกแลตนมไส้คาราเมลและนูกัต 65 5 36 24   Ethiscore ว่าด้วยคะแนนจริยธรรมของผู้ผลิต  นิตยสาร Ethical Consumer ของอังกฤษ ได้ให้คะแนนจริยธรรมหรือ Ethiscore (จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน) กับผู้ผลิตช็อกโกแลตไว้ดังต่อไปนี้   ผลิตภัณฑ์     คะแนน Lindt Chocolate     11   คะแนนKinder Chocolate     10   คะแนนGuylian Chocolate bars    7   คะแนนMark&Spencer Organic Fairtrade Chocolate   6.5   คะแนนMark&Spencer Chocolate     4.5   คะแนนCadbury’s Dairy Milk Chocolate   4   คะแนนTime Out     4   คะแนนCrunchie      3   คะแนนKraft Chocolate     3   คะแนนToblerone      3   คะแนนTwirl      3   คะแนนBounty      1.5   คะแนนM&M      1.5   คะแนนMaltesers      1.5   คะแนนMars      1.5   คะแนนMilky Way     1.5   คะแนนSnickers      1.5   คะแนนTwix      1.5   คะแนนNestle’s Heaven     1   คะแนน  หมายเหตุ: คะแนนข้างต้นมีการอัพเดทครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2553 โดยเกณฑ์การให้คะแนนนั้นได้แก่การปฏิบัติตนของผู้ประกอบการในด้านต่างๆ เช่น สิ่งแวดล้อม แรงงาน การปฏิบัติต่อสัตว์ การเมือง และความยั่งยืน (เช่น เป็นผลิตภัณฑ์ออกานิก หรือผลิตภัณฑ์ Fairtrade เป็นต้น) ช็อกโกแลตที่ได้คะแนนสูงที่สุดได้แก่ Plamil Fairtrade Organic Chocolate ที่ได้ไปถึง 18 คะแนน

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า300 Point