ฉบับที่ 269 เบอร์เราที่คนอื่นเปิดให้ ทางแก้ปัญหาอยู่ที่ไหน?!?

        การถูกสวมรอยหรือถูกแอบอ้างใช้ชื่อและบัตรประชาชนไปเปิดเบอร์มือถือ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ในระยะหลังนี้เป็นที่พูดถึงมากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจสะท้อนว่าปัญหามีการขยายตัวหนักขึ้น ในขณะเดียวกับที่ความตระหนักต่อภยันตรายที่จะติดตามมาก็มากขึ้นด้วย เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความไม่ปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนบุคคล ภาระค่าบริการ และที่สำคัญที่สุดคือ การที่เบอร์มือถือที่ถูกแอบเปิดดังกล่าวอาจพาให้เข้าไปพัวพันกับการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือการก่ออาชญากรรม         ปัญหาดังกล่าวนี้สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ โดยคนที่ตกเป็นเหยื่อนั้นมักไม่รู้ตัว         อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างก็มีเครื่องมือสำหรับช่วยให้ผู้บริโภคตรวจสอบได้ว่ามีเบอร์ที่ลงทะเบียนไว้ในชื่อของตนเท่าไรและเป็นเบอร์อะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันของค่ายมือถือ หรือ “แอปพลิเคชัน 3 ชั้น” ของ กสทช. โดยสำหรับแอปฯ ของแต่ละค่ายจะมีข้อจำกัดว่าตรวจสอบได้เฉพาะเบอร์ที่เปิดกับแต่ละค่าย แต่ “แอปฯ 3 ชั้น” นั้นจะตรวจสอบได้ครบทุกค่าย         ยิ่งกว่านั้น นอกจากใช้ตรวจสอบข้อมูลแล้ว “แอปฯ 3 ชั้น” ยังสามารถแจ้งปัญหา ทั้งในแง่ของเบอร์ที่เกินมาและที่ขาดไป ตลอดจนใช้เพื่อล็อกป้องกันการถูกบุคคลอื่นนำบัตรประชาชนของเราไปแอบอ้างเปิดเบอร์ใหม่ได้ด้วย ส่วนเมื่อไรที่ต้องการเปิดเบอร์ใหม่ก็สามารถปลดล็อกเองได้เช่นเดียวกัน         ถึงแม้ว่าเครื่องมือเหล่านี้ไม่อาจช่วยป้องกันมิให้เกิดการลักลอบเปิดเบอร์ตั้งแต่ต้นทาง แต่ก็ช่วยให้ตามทันปัญหา ซึ่งยิ่งไวเท่าไรก็ยิ่งลดความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็สามารถสะสางให้ปัญหายุติลงได้ ดีกว่าที่จะรอให้เกิดผลกระทบขึ้นแล้วจึงค่อยรู้ตัว ซึ่งที่ผ่านมา บางรายก็รู้ต่อเมื่อถูกเรียกเก็บค่าบริการ หรือบางกรณีอาจเลวร้ายกว่านั้น         แท้ที่จริง เรื่องนี้ยังมีมาตรการอีกส่วนหนึ่งที่ถ้าทำได้ดีจะส่งผลในเชิงป้องกันได้มากกว่า นั่นคือ การยกระดับคุณภาพและความรัดกุมของการรับลงทะเบียน ซึ่งหน้าที่ในเรื่องนี้เป็นของผู้ให้บริการหรือค่ายมือถือต่างๆ นั่นเอง โดยที่ กสทช. มีหน้าที่กำกับดูแลการทำหน้าที่ของเอกชนอีกทอดหนึ่ง         กสทช. ได้ออกประกาศเรื่อง การลงทะเบียนและการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2562 ในประกาศนี้กำหนดอย่างชัดเจนว่า ผู้ให้บริการต้องบริหารจัดการการลงทะเบียนผู้ใช้บริการที่จุดให้บริการ ซึ่งก็คือศูนย์ให้บริการหรือสำนักงานบริการลูกค้าที่จัดตั้งขึ้น โดยในกรณีที่ผู้ลงทะเบียนเป็นบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย อย่างน้อยต้องแสดงเอกสารหลักฐานเป็นบัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดที่ใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง โดยที่จุดให้ลงทะเบียนต้องตรวจสอบหลักฐาน รวมทั้งพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคลของผู้ใช้บริการ ด้วยความรอบคอบ เคร่งครัด รัดกุม         นอกจากนั้น ประกาศยังกำหนดเรื่องการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการ รวมทั้งกำหนดว่า บริษัทผู้ให้บริการจะต้องรับผิดชอบ หากมีเหตุอันมิชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวกับการให้บริการโทรคมนาคมอันเกิดจากการดำเนินการของจุดให้บริการ เสมือนเป็นผู้ดำเนินการเองทุกกรณี เว้นแต่สามารถพิสูจน์ให้สำนักงาน กสทช. เห็นได้ว่า ผู้ให้บริการมีมาตรการและดำเนินการตรวจสอบการกระทำของจุดให้บริการนั้น รวมถึงมีการกำกับดูแลจุดให้บริการโดยรอบคอบ เคร่งครัด และรัดกุมแล้ว        ตามกติกาเช่นนี้ หากในทางปฏิบัติจริงทำตามได้อย่างไม่บิดพลิ้ว เรื่องการสวมรอยหรือแอบอ้างใช้ชื่อและบัตรประชาชนของคนอื่นลงทะเบียนเปิดใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยทั่วไปย่อมไม่ควรจะเกิดขึ้นได้ หากจะเกิดขึ้นก็เพียงในกรณีที่ว่า ผู้แอบอ้างได้บัตรประชาชนฉบับจริงของผู้นั้นไป และมีหน้าตาคล้ายคลึงกับเจ้าของบัตรด้วย         แต่จากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะบ่งชี้ว่า ด่านการลงทะเบียนมีมาตรฐานห่างไกลจากคำว่า “รอบคอบ เคร่งครัด รัดกุม” อย่างมาก สะท้อนต่อเนื่องว่า กติกาไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ และการกำกับกติกาไม่มีประสิทธิผล         ทั้งนี้พบว่า ในกรณีที่มีการร้องเรียนปัญหานี้เข้าสู่สำนักงาน กสทช. ที่ผ่านๆ มา ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผู้ให้บริการจะดูแลปิดเบอร์ให้ กรณีมีค่าบริการก็ยกเว้นการเรียกเก็บ แต่สำหรับการสืบสาวถึงสาเหตุหรือความรับผิดชอบอื่นใด ผู้ให้บริการมักไม่เปิดเผยและไม่แสดงความรับผิดชอบ ขณะที่สำนักงาน กสทช. ก็ไม่ติดใจ         สำหรับมาตรการเรื่องการจำกัดจำนวนการเปิดเบอร์ที่ กสทช. กำลังให้ความสำคัญในขณะนี้ นั่นคือจำกัดให้แต่ละคนถือครองเลขหมายโทรศัพท์มือถือคนละไม่เกิน 5 เบอร์         แม้ว่ามาตรการนี้อาจช่วยปิดช่องมิให้มิจฉาชีพดำเนินการเปิดเบอร์มือถือจำนวนมากและก่อให้เกิดความไม่สะดวกต่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ แต่อาจช่วยไม่ได้มากนักในเรื่องการแอบอ้างหรือสวมรอยเปิดเบอร์ ช่วยได้ก็เพียงลดปริมาณเบอร์ที่แต่ละคนจะถูกสวมรอยเท่านั้น         ปราการสำคัญแท้จริงของเรื่องนี้จึงยังคงอยู่ที่ขั้นตอนการลงทะเบียน ที่จะต้อง “รอบคอบ เคร่งครัด รัดกุม” ให้ได้จริงๆ ซึ่งถ้าหากผู้ให้บริการยังคงทำหน้าที่ส่วนนี้ให้ดีไม่ได้ กสทช. ก็ควรต้องทำหน้าที่ให้เข้มข้น ส่วนว่า ถ้าหาก กสทช. เองก็ทำหน้าที่ให้ดีไม่ได้เช่นเดียวกัน แน่นอนว่า ประชาชนก็ย่อมมีทางเลือกเพียงเฝ้าระวังและติดตามปัญหาด้วยตนเองเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 267 ใส่ใจสุขภาพ กับ Thaisook

        เมื่อเทคโนโลยีมาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตหลักในประจำวัน จนเหมือนเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งไปแล้ว จากที่เคยต้องออกจากบ้านเพื่อไปซื้อจับจ่ายซื้อของในตลาด เปลี่ยนมาเป็นกดเลือกสินค้าผ่านสมาร์ทโฟน เท่านี้สินค้าก็เดินทางมาถึงหน้าบ้าน โดยไม่ต้องเหนื่อย หรือจะสั่งอาหารจากร้านอาหารชื่อดัง ไม่ว่าจะอยู่มุมไหน ไกลแค่ไหน แต่เมื่อเราอยากกินเราต้องได้กิน แค่กดปุ๊ปจ่ายปั๊ป ใช้นิ้วมือในการบริหารจัดการได้ทันที        เทคโนโลยีทำประโยชน์ให้กับการใช้ชีวิตของพวกเราให้ง่ายขึ้นมากถึงมากที่สุด แต่ผลเสียด้านสุขภาพก็ตามมาเช่นกัน เมื่อไม่มีการขยับเขยื้อนร่างกาย ร่างกายก็จะไม่ได้รับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อสุขภาพได้มากทีเดียว         เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงขนาดนี้ เครื่องมือที่จะช่วยดูแลสุขภาพจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างแอปพลิเคชั่น “ไทยสุข” หรือ “thaisook” ได้พัฒนาขึ้นมาจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับทุกคน โดยเฉพาะในช่วงวัยทำงาน ให้หันมาสนใจและดูแลสุขภาพของตนเอง ซึ่งใช้แอปพลิเคชั่นเป็นสื่อกลางช่วยกระตุ้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นผลดีต่อสุขภาพ         ผู้อ่านที่สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android มีขั้นตอนการลงทะเบียนง่ายๆ โดยข้อมูลในการกรอกลงทะเบียนของแอปพลิเคชั่น “ไทยสุข” เริ่มต้นจะใช้หมายเลขโทรศัพท์ เพื่อรอรับ OTP ในขั้นตอนแรก และระบบจะให้กรอกชื่อนามสกุล วันเกิด เพศ ส่วนสูง การสูบบุหรี่ และกดยินยอมนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเข้าสู่แอปพลิเคชั่นนี้        การใช้งานภายในแอปพลิเคชั่นง่ายและไม่ซ้ำซ้อน โดยหน้าแรกจะปรากฎเมนูด้านล่างตามหมวด 4 หมวด ได้แก่ หมวดวันปัจจุบัน หมวดสถิติรายสัปดาห์ หมวดกลุ่ม และหมวดการแข่งขัน ซึ่งมุมขวาบนจะเป็นปุ่มการตั้งค่าที่มีสัญลักษณ์ 3 ขีด        หน้าแรกจะเป็นหมวดวันปัจจุบัน ที่ปรากฎให้เห็นการนับจำนวนก้าว เวลาการวิ่ง เวลาการเดิน โดยกิจกรรมเหล่านี้ ผู้ใช้แอปพลิเคชั่นสามารถเพิ่มข้อมูลได้ด้วยตนเอง ทั้งจำนวนเวลา ระยะทาง อัตราการเต้นของหัวใจ แคลอรี่ที่เผาผลาญ นอกจากการดูแลด้านกายภาพแล้ว ยังมีในส่วนของการดูแลสุขภาพภายใน ทั้งในเรื่องติดตามปริมาณการดื่มน้ำต่อวัน ค่าความดันโลหิต ค่าผลเลือด น้ำหนัก องค์ประกอบร่างกาย ระยะเวลาการนอนหลับ         ทั้งนี้ควรรับประทานอาหารผักผลไม้ให้เป็นไปตามสักส่วนที่เหมาะสม ซึ่งแอปพลิเคชั่นได้มีคู่มือไว้ให้อ่าน และเพื่อให้ข้อมูลครบถ้วนและสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมได้ ผู้ใช้แอปพลิเคชั่นสามารถเพิ่มข้อมูลการรับประทานผักและผลไม้ลงไปด้วย         หมวดสถิติรายสัปดาห์เป็นการเก็บข้อมูลสถิติของการดูแลสุขภาพร่างกายที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด เพื่อให้เห็นภาพรวมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม หมวดกลุ่มเป็นหมวดที่มีไว้เป็นทางเลือกให้ผู้ใช้แอปพลิเคชั่นได้สร้างกลุ่มหรือเข้ากลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสุขภาพ ส่วนหมวดการแข่งขันจะเป็น Challenge ให้ตนเองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดูแลสุขภาพร่างกายให้ดียิ่งขึ้น         มาดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้แข็งแรง โดยเริ่มจากการบริหารจัดการกับการกินอาหาร การพักผ่อน หรือการออกกำลังกาย เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกันนะคะ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 266 แอปพลิเคชั่น Alljit เพื่อนดูแลใจ

        เมื่อเกิดภาวะความเครียดขึ้นภายในใจ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยที่แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล จนทำให้เกิดความกดดันในการดำเนินชีวิตได้ไม่มากก็น้อย ทั้งนี้เมื่อเกิดความเครียดจนถึงระดับหนึ่ง การปล่อยวางและหาวิธีขจัดความเครียด ความกดดันเหล่านั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง เพื่อลดระดับความเครียด โดยควบคุมให้ความเครียดนั้นอยู่ในระดับที่รับได้จนไม่ก่อนให้เกิดอันตรายกับตนเอง         ความเครียดสะสม ก่อให้เกิดภาวะอันตรายทำลายสุขภาพ เช่น มีโอกาสเกิดความดันโลหิตสูง ผลต่อเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ ก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตามมา โรคเครียดลงกระเพาะ กระทบต่อการนอนหลับ หรือหากนอนหลับก็หลับไม่สนิท ทำให้มีอาการอ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย เกิดอาการปวดหัวไมเกรน ภาวะความเครียดที่เกิดขึ้นนานๆ อาจกลายเป็นภาวะซึมเศร้าได้ ซึ่งส่งผลต่อทางด้านร่างกาย และจิตใจ         ฉบับนี้จึงขอมาให้กำลังใจและแนะนำตัวช่วยผ่านแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Alljit (ออลจิต) ผู้ช่วยที่คอยให้คำปรึกษาปัญหาด้านจิตใจในทุกเรื่อง ทั้งเรื่องส่วนตัว ครอบครัว การเงิน การงาน หรือความรัก โดยสามารถเลือกรูปแบบความต้องการได้ ได้แก่ การประเมินความรู้สึกด้วยตนเอง ความต้องการกำลังใจ การแลกเปลี่ยนเรื่องราว การฟังพอตแคสต์ (Podcast คือ ข้อความเสียงประเภทหนึ่งที่คล้ายกับการจัดรายการวิทยุโดยจะมีผู้ดำเนินรายการเพียงคนเดียวหรือหลายคนมาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ในด้านต่างๆ) และพูดคุยกับแอดมิน         การประเมินความรู้สึกด้วยตนเอง แบ่งออกเป็น 3 หมวด คือ ความเครียด ความเศร้า และการหมดไฟการทำงาน ที่ลักษณะการประเมินความรู้สึกด้วยคำถาม ส่วนความต้องการกำลังใจ แบ่งเป็นหมวดแชทเล่าความในใจ โดยสามารถเลือกคู่แชทและปิดบังตัวตนได้ เพื่อพูดคุยความในใจที่เกิดขึ้น หมวดกลุ่มพูดคุย ซึ่งเป็นการพูดคุยในรูปแบบกลุ่ม         การแลกเปลี่ยนเรื่องราว จะเป็นการเขียนข้อความตามที่ต้องการและเผยแพร่ทั่วไป โดยทุกคนที่เข้ามา สามารถแสดงความคิดเห็นได้ และการฟังพอตแคสต์ (Podcast) ผ่านหมวดหมู่หนังและซีรีย์ รีวิวหนังสือ อารมณ์และความรู้สึก ชีวิตในวัยรุ่น ดนตรี คุยกับนักจิตวิทยา จิตวิทยาชีวิตคู่ และฟังก่อนนอน ซึ่งแต่ละหมวดจะมีนักจิตวิทยาที่เชี่ยวชาญเฉพาะมาแบ่งปันให้ฟังเพื่อช่วยเยียวจิตใจในช่วงที่อ่อนแอ         ลองสำรวจตนเองสม่ำเสมอ เพื่อให้รู้เท่าทันอารมณ์และควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ ให้สังเกตว่าถ้าหากคุณมีอาการอารมณ์แปรปรวน รู้สึกกลัว เครียด กังวล เบื่อ เฉยชา หงุดหงิดง่าย นอนไม่ค่อยหลับ หลับไม่สนิท รู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่า ไม่สดชื่น เฉื่อยชาลง ขาดสมาธิในการทำงาน มีอาการหลงๆ ลืมๆ รู้สึกท้อแท้หมดหวัง รู้สึกไร้ค่า หรืออาการอื่นใดที่ใกล้เคียง ให้รีบลดระดับความเครียดทันที

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 262 ความเคลื่อนไหวเดือนธันวาคม ปี 2565

เชียงใหม่อันดับ 1 เสี่ยงสารเคมีการเกษตรตกค้างในร่างกาย        สสส.ระบุ เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่พบว่ามีสารเคมีตกค้างในเลือดสูงเป็นอันดับ 1         นางประภาศรี บุญวิเศษ กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่าเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่พบว่ามีสารเคมีตกค้างในเลือดสูงเป็นอันดับ 1 จำเป็นต้องเร่งสร้างความรู้ด้านอาหารให้แก่เกษตรกรร่วมมือกับร้านอาหาร ตลาด โรงแรม ช่วยกันพัฒนาแหล่งอาหารที่ปลอดภัยในชุมชน เลือกซื้ออาหารที่มีโภชนาการที่เหมาะสมจากการปลูกผักที่ปลอดภัยด้วยตนเอง         จากข้อมูลของ รศ.ดร.วินิตา บุณโยดม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุภาคเหนือ คือภาคที่มีสารเคมีตกค้างในร่างกายของประชาชนในระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัยมากกว่า 10 ปีแล้ว โดยปี 2565 มีสารเคมีตกค้างกว่า 70.3% ภาคใต้ 58.65%  ภาคกลางและภาคตะวันออก 41.19% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 37.14% และข้อมูลจาก ศ.ดร.พวงรัตน์ ขจิตวิชยานุกูล อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มช. อีกเช่นกันระบุว่า พืชผักที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ คะน้า ผักกาดขาว มะเขือเทศ กะเพรา พริกขี้หนู และส่งผลให้สารเคมีในเลือดอาสาสมัคร 189 คน อยู่ระดับเสี่ยงถึง 56.25% ระดับไม่ปลอดภัย 28.08% แต่ระดับปลอดภัยและปกติ อยู่เพียง 9.18 และ 6.49 เท่านั้น พบเนื้อสัตว์แช่ฟอร์มาลิน ส่งขายร้านหมูกระทะ         นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 จากด่านกักกันสัตว์ชลบุรีว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบสถานประกอบกิจการผลิตภัณฑ์แปรรูปวัตถุดิบเนื้อและเครื่องในสัตว์ จ.ชลบุรี เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีการลักลอบผลิตเนื้อสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าไม่มีการขออนุญาตผลิตอาหารและใบอนุญาตอื่นๆ ซึ่งมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคระบาด พ.ศ.2558 พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 พระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 นอกจากนี้  วัตถุดิบชิ้นส่วนเครื่องในโค เครื่องในสุกร มีการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต ซึ่งประกอบไปด้วย ฟอร์มาลิน โซดาไฟ ไฮโดรเจนเปอร์อ๊อกไซด์ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางดังกล่าวไว้ เช่น ชิ้นส่วนเนื้อและเครื่องในสุกรและโค จำนวน 25,000 กิโลกรัม พร้อมด้วยแกลลอนบรรจุสารเคมีฟอร์มาลิน 50 แกลลอน และใบเสร็จที่มีการขายให้กับร้านหมูกระทะและร้านอาหารอีสานกว่า 66 ราย    6 แอปพลิเคชันเรียกรถถูกกฎหมาย         นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า ทางรัฐบาลได้ส่งเสริมการผลักดันให้บริการทางเลือกรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยกระทรวงคมนาคมได้ออกกฎกระทรวงรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2564 ให้ภาครัฐสามารถควบคุมและกำกับการดูแลการให้บริการที่ปลอดภัย รวมทั้งเกิดการแข่งขันในการพัฒนาใต้กติกาเดียวกัน          ทั้งนี้ บริการทางเลือกรถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชันคือการให้บริการผ่านแอปฯ ที่กระทรวงคมนาคมให้การรับรอง มีความปลอดภัย ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ แสดงค่าโดยสารล่างหน้าชัดเจน ตรวจสอบได้ มีประกันครอบคลุมตามกฎหมายคุ้มครองประสบภัยกำหนด ซึ่งปัจจุบันได้ให้การรับรองแอปพลิเคชันแล้ว จำนวน 6 ราย ได้แก่ แกร็บ,โรบินฮู้ด,ฮัลโหลภูเก็ต เซอร์วิส,บอนกุ,เอเชีย แค็บ,และ “Airasia Super App” นอกจากนี้ ผู้ขับรถต้องมีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ สามารถอบรมทางออนไลน์ได้ที่ www.dlt-elearning.com ชาวไอทีแนะอย่าโหลดแอปพลิเคชันแปลกนอก Store ดีสุด         จากโพสต์ของผู้ใช้ทวิตเตอร์  Chanon Ngernthongdee  ซึ่งทดลองเป็นเหยื่อของแกงค์คอลเซนเตอร์เพื่อทดสอบว่าอะไรคือสิ่งที่แกงค์ดังกล่าวใช้เล่นงานผู้บริโภค โดยเขาออกมาเตือนว่า วิธีป้องกันอย่างง่ายที่สุดคือ ไม่โหลด app นอก Store หรือ Block installation of unmanaged mobile apps          ทั้งนี้ผู้ใช้ทวิตเตอร์ท่านนี้บอกว่า ตนเองพยายามตกเป็นเหยื่อ call center อยู่นานมากเพื่อจะได้รู้ว่าเขาหลอกยังไง ให้ลง app (แอปพลิเคชัน) อะไร สุดท้ายในที่สุดก็ได้ app นั้นมา ทำให้ตนเข้าใจแล้วว่าทำไม app นั้นถึงสามารถไปดึงข้อมูลและสั่งให้ app ธนาคารทำธุรกรรมทางการเงินของเหยื่อได้ คนเขียน app นั้นใช้ AccessibilityService เพื่อควบคุมนั่นเอง มพบ.จัดอบรมให้เยาวชนเท่าทันทางการเงินจากโลกออนไลน์                   วันที่ 1-2 ธันวาคม 2565 ณ โรงเรียนวัดสุทธาโภชน์ กรุงเทพมหานคร มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้จัดกิจกรรมฝึกอบรมหลักสูตร “เยาวชนเท่าทันการเงิน” เพื่อเสริมทักษะให้การเยาวชนไทยเรื่องการเงิน โดยได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ซึ่งจากข้อมูลที่ทางมูลนิธิฯ ได้รับเรื่องร้องเรียน เช่น บัตรเครดิต การชำระหนี้ การจัดการหนี้ การทวงหนี้ไม่เป็นธรรม มากเป็นลำดับต้นๆ ส่วนใหญ่สาเหตุหลักคือ ประชาชนไทยยังขาดทักษะ ความเข้าใจการใช้บัตรเครดิต การวางแผนทางการเงิน การเท่าทันภัยการเงินทางออนไลน์         ทั้งนี้ นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ รองผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ฝ่ายพิทักษ์สิทธิ์ กล่าวว่า โครงการเยาวชนรู้เท่าทันทางการเงิน เริ่มดำเนินการอบรมมาตั้งแต่ ปี2563  เข้าร่วมกว่า 30 โรงเรียน ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคอีสาน มูลนิธิฯ ยังคงดำเนินการด้วยความเชื่อมั่นว่า ถ้าเด็กและเยาวชนไทยมีความรู้เท่าทันทางการเงิน วางแผนการจัดการรายได้และรายจ่าย ย่อมเป็นทักษะสำคัญที่สร้างชีวิตที่มีคุณภาพได้

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 262 ติดตามผลการรักษาสุขภาพตนเองได้ ด้วย EVER Healthcare

        โรคภัยไข้เจ็บเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากพบเจอ แต่ทุกคนต้องเคยเจ็บป่วยแน่นอน อย่างน้อยก็โรคไข้หวัดธรรมดา ที่ทำให้เกิดอาการเป็นไข้ น้ำมูกไหล ปวดหัว ตัวร้อน ซึ่งทุกคนก็หวังว่าการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้เท่านั้น         เมื่อมากล่าวถึงโรคภัยไข้เจ็บที่รุนแรงที่เป็นภัยเสี่ยงอาจทำให้เสียชีวิตได้มีอยู่หลายโรค จะเห็นได้จากการประชาสัมพันธ์ของบริษัทประกันชีวิตเกี่ยวกับโรคร้ายแรง ซึ่งได้แก่ โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคปอดอักเสบ โรคปอดเรื้อรัง โรคไตวายเรื้อรัง โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคเกี่ยวกับตับ โรควัณโรค เป็นต้นโรครุนแรงเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยี ยาและแพทย์เฉพาะทางในการรักษา ซึ่งการแพทย์สมัยใหม่สามารถรักษาโรคร้ายแรงให้หายได้และวิทยาการทางการแพทย์ก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ต้องหมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้เพิ่มโอกาสรักษาให้มากขึ้น         เมื่อโรครุนแรงมาเยือนและจำเป็นต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง การเข้าถึงข้อมูลการรักษาและทราบถึงประวัติการรักษาของตนเองและครอบครัวก็มีความสำคัญ ฉบับนี้ขอมาแนะนำแอปพลิเคชั่นที่สามารถทำให้ติดตามผลการรักษาทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน ที่มีชื่อว่า EVER Healthcare         แอปพลิเคชั่น EVER Healthcare เป็นเครื่องมือที่ช่วยบันทึกข้อมูลสุขภาพ จัดเก็บ และสามารถส่งต่อข้อมูลการรักษา และการเพิ่มความรู้ทางด้านสุขภาพ โดยผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลการรักษาตนเองผ่านโทรศัพท์มือถือได้ พร้อมเชื่อมโยงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลต่างๆ มาให้คำปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ขอพบแพทย์ผ่านแอปพลิเคชั่น และการสั่งยาแบบออนไลน์         การเชื่อมต่อข้อมูลในครั้งแรกต้องมีการลงทะเบียนด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน ชื่อนามสกุล และยืนยันตัวตนด้วยการถ่ายภาพคู่กับบัตรประจำตัวประชาชนผ่านทางแอปพลิเคชั่นจนครบขั้นตอน หลังจากเข้าสู่ระบบจะปรากฎรายการนัดหมายที่กำลังจะมาถึงของผู้ใช้ ในส่วนนี้จะช่วยย้ำเตือนนัดหมายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ภายในแอปพลิเคชั่นจะมีหมวดต่างๆ ปรากฎ ได้แก่ หมวดพบเภสัชกรเพื่อสั่ง หมวดพบแพทย์ทันที ใน 2 หมวดนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกและเข้าถึงบริการเพื่อซื้อยา และจัดส่งยาถึงบ้าน รวมถึงการเลือกพบแพทย์ตามอาการที่ต้องการปรึกษาได้ทันที         ถัดไปจะเป็นหมวดประวัติการรักษา ในหมวดนี้ผู้ใช้สามารถเข้าไปดูบันทึกการรักษารวมทั้งผลการตรวจแล็บที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งได้ด้วยตนเอง หมวดค้นหา ซึ่งแบ่งเมนูตามแผนกของโรคเพื่อความสะดวกในการใช้งาน หมวดบันทึกสุขภาพ ช่วยให้ผู้ใช้บันทึกข้อมูลเก็บไว้ดูย้อนหลังได้ หมวดแบบประเมินสุขภาพ เพื่อช่วยประเมินสุขภาพเบื้องต้นโดยการตอบคำถามในแต่ละข้อในระบบ         แอปพลิเคชั่น EVER Healthcare นี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ใช้ดูข้อมูลย้อนหลังการรักษาได้ทุกที่ และเป็นข้อมูลที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องถูกส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลอื่น อีกทั้งช่วยทำให้เข้าใจและเข้าถึงการรักษาของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง         อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นไปได้ ผู้เขียนอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี ไม่เป็นโรคร้ายแรง ดังนั้นหมั่นตรวจเช็คสุขภาพ ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงจะดีที่สุด

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 260 พามาหาคำตอบว่า “ภาษีไปไหน”

        ทุกการใช้จ่ายของประชาชนจะมีส่วนหนึ่งเป็นภาษีรวมไปด้วยเสมอ ฉบับนี้จึงพามารู้จักกับภาษีกัน คำว่า ภาษี คือ ภาระที่ประชาชนมีหน้าที่ต้องนำส่งให้ภาครัฐตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อสนับสนุนรัฐและกิจการของรัฐ โดยอาจจะอยู่ในรูปของเงินหรือไม่ก็ได้ ซึ่งตัวภาษีนั้นอาจจะใช้ชื่อเรียกว่า ภาษี หรือชื่ออย่างอื่นก็ได้แต่ต้องไม่ใช่การบริจาคหรือการจ่ายตามอัธยาศัย ซึ่งประเภทของภาษีที่ต้องชำระมีอยู่ 5 ประเภท ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับภาษีที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันที่ประชาชนอย่างเราต้องเข้าใจและรู้จักมี 2 ประเภท คือ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่ม         ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คือ รูปแบบหนึ่งของการเสียภาษี โดยเงินรายได้ของเราจะถูกหักทันทีจากผู้จ่ายเพื่อนำส่งให้สรรพากร ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT คือ การเก็บภาษีจากการขายสินค้า หรือการให้บริการในแต่ละขั้นตอนการผลิต และจำหน่ายสินค้าหรือบริการ ทั้งที่ผลิตภายในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ         หลายคนอาจสงสัยว่าภาษีเหล่านี้ที่เก็บไปนั้นจะนำไปทำอะไรบ้าง และผลประโยชน์กลับมายังประชาชนจริงหรือไม่ จากคำถามนี้ ทางสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) หรือ DGA จึงได้ดำเนินการพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า “ภาษีไปไหน” เพื่อตอบคำตอบให้กับประชาชน โดยการนำเสนอภาพรวมรายได้การจัดเก็บของรัฐบาล จากกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และข้อมูลด้านงบประมาณรายรับรายจ่ายของประเทศ         แอปพลิเคชั่นนี้จะมีหมวดสำคัญด้านล่างหน้าจออยู่ 5 หมวด ได้แก่ หมวดหน้าหลักจะสามารถค้นหาโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยการกดปุ่มค้นหาใหม่ ซึ่งจะปรากฎโครงการพร้อมรายละเอียดรอบบริเวณที่ผู้ใช้แอปพลิเคชั่นอยู่บริเวณนั้น กับการค้นหาชื่อโครงการ หน่วยงาน หรือบริษัทผ่านช่องค้นหาโดยตรง ซึ่งหมวดนี้จะแสดงข้อมูลในรูปแบบแผนที่ประเทศไทยเพื่อให้เห็นพิกัดที่ชัดเจนของโครงการที่เกิดขึ้น         หมวดภาษีมาจากไหนจะรวบรวมสถิติผลรวมรายได้ที่รัฐบาลจัดเก็บในรูปแบบ Dashboard และการจัดอันดับ Ranking ข้อมูลต่างๆ หมวดงบประมาณจะบ่งบอกถึงวงเงินงบประมาณในแต่ละปี ผลการเบิกจ่าย รวมถึงวงเงินตามยุทธศาสตร์ที่มี ส่วนหมวดจัดซื้อจัดจ้างจะเป็นภาพรวมงบประมาณจัดซื้อจัดจ้าง มูลค่าโครงการรวม ผลการจัดซื้อจัดจ้างในแต่ละเดือน เป็นต้น และหมวดตั้งค่าจะให้เลือกตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้งและภาษาที่ใช้ภายในแอปพลิเคชั่น         ทั้งนี้ในหน้าหลักจะมีสัญลักษณ์ 3 ขีดด้านบนซ้ายมือ ซึ่งจะเปลี่ยนการแสดงผลจากข้อมูลในรูปแบบแผนที่เป็นข้อความ และมีสัญลักษณ์ตัวกรองด้านบนขวามือที่ช่วยให้สามารถค้นหาขั้นสูงได้         นอกจากแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และระบบปฏิบัติ Android แล้ว ยังสามารถค้นหาข้อมูลต่างๆ ผ่านเว็บไซต์ http://govspending.data.go.th/ ได้อีกช่องทางหนึ่ง         คำตอบว่า “ภาษีไปไหน” สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ได้นำคำตอบมาอยู่ในแอปพลิเคชั่นนี้เรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะให้ผู้อ่านได้ทราบและตรวจสอบข้อมูลต่อไป

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 256 เรียนภาษาด้วยตัวเองผ่าน Duolingo

        บางครั้งการทำงานอาจจำเป็นต้องใช้ภาษาที่สองรองจากภาษาไทย อย่างภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาสากลที่ใช้สำหรับสื่อสารกับคนต่างชาติ เพื่อช่วยสื่อสารเรื่องงานหรือเรื่องทั่วไป ซึ่งหลายคนอาจไม่ได้เตรียมตัวกับสถานการณ์แบบนี้ และอาจเป็นสิ่งที่ยากเกินไปสำหรับคนบางคนที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษเอาซะเลย เมื่อไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ ความตื่นตระหนกจะตามมาทันที ฉบับนี้จึงมาแนะนำแอปพลิเคชั่นที่ช่วยในการเรียนรู้การสนทนาภาษาอังกฤษตั้งแต่เบื้องต้น แต่มีครบทุกทักษะ ทั้งฟัง พูด​ อ่าน เขียน โดยเน้นประโยคง่ายๆ ให้เข้าใจ       แอปพลิเคชั่นนี้มีชื่อว่า Duolingo ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับการเรียนภาษาที่เข้าถึงง่าย สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านแบบทดสอบที่มุ่งเน้นทักษะด้านการอ่านและการฟัง และตั้งใจให้ผู้ใช้งานมีความสนุกสนานกับการเรียนภาษาภายในแอปพลิเคชั่นนี้ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานบนสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และระบบปฏิบัติการ Android โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ         หลังจากเปิดแอปพลิเคชั่นมาในครั้งแรกนั้น แอปพลิเคชั่นจะสอบถามความต้องการของการเรียนรู้ ตั้งแต่เลือกเรียนรู้ภาษาใด มีให้เลือกหลายภาษา เช่น ภาษาเกาหลี ภาษาเยอรมัน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาฝรั่งเศส ภาษาสเปน ภาษาโปรตุเกส เป็นต้น และเลือกระดับความรู้มีให้เลือกตั้งแต่ไม่มีพื้นฐานเลยหรือสามารถสนทนาได้ในแบบง่ายๆ ต่อจากนั้นให้เลือกเป้าหมายในการเรียน ตามด้วยเลือกเวลาการเรียนต่อวัน โดยมีให้เลือกตั้งแต่​ 5 นาทีไปจนถึง 20 นาที ซึ่งบทเรียนเบื้องต้นจะเน้นคำศัพท์​พื้นฐานในชีวิตประจำวันและการสร้างประโยค​เบื้องต้น​ ทำให้ผู้ใช้แอปสามารถจดจำ เข้าใจและนำไปใช้จริงได้         การเริ่มบทเรียนจะเริ่มขั้นพื้นฐาน ต่อด้วยหมวดความรู้ตามลำดับ เช่น หมวดทักทาย หมวดอาหาร เป็นต้น บทเรียน​ในแต่ละบทจะมีรูปแบบเหมือนเกมตอบคำถามที่สอดแทรกการสอนภาษาไปในตัว ครบทั้ง 4 ทักษะ คือ ฟัง พูด​ อ่าน เขียน ทำให้ดูไม่น่าเบื่อ ​ในแต่ละคำถามจะมีปุ่มให้กดฟังการออกเสียงได้ตลอดเวลา เพื่อให้ฝึกฟังและทวนคำถาม พร้อมกับอ่านออกเสียงได้ถูกต้อง มีข้อคำถามให้แปลประโยค ให้เขียนประโยค รวมทั้งให้เติมคำที่หายไปให้สมบูรณ์ ดังนั้นผู้ใช้งานจะได้ฝึกทักษะที่ครบถ้วนจริงๆ ในกรณีที่ไม่ผ่านบทเรียน สามารถเริ่มเรียนใหม่ได้ จนกว่าจะผ่านการทดสอบนั้น         ทั้งนี้การเรียนรู้ภาษาในแอปพลิเคชั่นนี้ไม่จำเป็นต้องเลือกเพียงภาษาใดภาษาหนึ่งเท่านั้น แต่สามารถเพิ่มภาษาที่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมได้ โดยให้เปิดหน้าแรกของแอปพลิเคชั่นและกดปุ่มสัญลักษณ์ธงชาติด้านบนมุมซ้าย ซึ่งเป็นปุ่มสัญลักษณ์ที่ช่วยเพิ่มบทเรียนในภาษาอื่นที่ต้องการเรียนเพิ่มเติม         จากการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ในภาษาญี่ปุ่นแอปพลิเคชั่นได้เพิ่มหมวดการฟังการออกเสียงตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น ได้แก่ ตัวอักษรฮิรางานะ และตัวอักษรคาตากานะ เพื่อเป็นตัวช่วยในการฝึกให้เข้าใจได้รวดเร็วขึ้น นอกจากการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนแล้ว ผู้พัฒนา Duolingo ยังมีช่องทางการเรียนรู้ผ่านเว็บไซต์ https://th.duolingo.com ให้อีกด้วย         การเรียนรู้วันละ 5-20 นาทีต่อวันเป็นประจำทุกวันผ่านแอปพลิเคชั่น Duolingo อย่างน้อยจะทำให้เกิดการจดจำที่ดี เข้าใจคำศัพท์ เข้าใจรูปประโยค เริ่มตั้งแต่การฟัง อ่าน เขียน จนนำไปสู่การพูดภาษาที่ได้เรียนรู้นั้นได้ ความตั้งใจศึกษาหาความรู้และขยันหมั่นเพียรนั้นจะช่วยทำให้ทุกอย่างประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 255 Scannable เครื่องสแกนส่วนตัวแบบพกพา

        เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาออกมานั้นมักเกิดขึ้นเพื่อมาตอบสนองความต้องการที่มีอยู่ของผู้ใช้ อย่างเอกสารสำคัญต่างๆ ที่จำเป็นต้องนำส่งอย่างเร่งด่วน แต่ความพร้อมในการนำส่งเอกสารเป็นอุปสรรค เหตุการณ์ในลักษณะนี้เชื่อว่าต้องเคยมีประสบการณ์กันบ้างไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่ทำงานตามสถานที่ต่างๆ ที่ไม่ใช่ที่ทำงาน ซึ่งไม่มีความพร้อมในเรื่องอุปกรณ์สำนักงาน ปัญหาเหล่านี้กลับกลายเป็นอุปสรรคที่ทำให้การทำงานมีความล่าช้า จนบางครั้งได้สร้างความกังวลใจตามมา         ลองมาดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Scannable นี้กัน ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นที่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาสรุปเอกสารหรือไม่มีเครื่องถ่ายเอกสารที่จะช่วยสแกนเอกสารที่จำเป็นเพื่อส่งต่อให้กับที่ทำงานหรือบุคคลอื่น ข้อดีสำหรับแอปพลิเคชั่นนี้คือ แม้ว่าจะสแกนบิดเบี้ยวแค่ไหนแต่แอปพลิเคชั่นจะจัดการให้เป็นหน้ากระดาษสวยงาม พร้อมกับปรับแต่งภาพและสีให้ตัวอักษรสามารถเห็นได้ชัดเจน แต่ถ้ายังไม่พึงพอใจกับการปรับแต่งของแอปพลิเคชั่นก็สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมเองได้ภายหลัง ดังนั้นหมดปัญหากังวลใจกับแสงและเงาที่จะทับภาพขณะที่ถ่ายรูปได้เลย รับรองว่าภาพที่สแกนออกมาสวยแน่นอน         การใช้งานง่ายมาก ขั้นตอนแรกต้องอนุญาตการเข้าถึงกล้องถ่ายรูปภายในสมาร์ทโฟนก่อน เมื่อเข้ามาสู่แอปพลิชั่นในหน้าแรกจะปรากฎเป็นกล้องถ่ายรูปเพื่อใช้ถ่ายสแกนภาพที่ต้องการ โดยหน้าจอจะปรากฎปุ่มต่างๆ เริ่มจากด้านซ้ายมือดังนี้ ปุ่มสัญลักษณ์สามจุด เป็นปุ่มที่ให้เข้าสู่การตั้งค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าแสงแฟลช การตั้งค่าการถ่ายภาพ โดยใน 2 เมนูนี้สามารถเลือกในรูปแบบอัตโนมัติ หรือเปิดปิดด้วยตนเองได้ และมีอีกเมนูที่น่าสนใจนั่นคือ เมนู Recents ที่จะช่วยเก็บภาพสแกนที่เคยถ่ายสแกนไว้แต่ไม่ได้เก็บบันทึกไว้ ซึ่งช่วยทำให้เก็บข้อมูลที่อาจจะพลาดในการบันทึก         ต่อไปเป็นปุ่มสัญลักษณ์อักษร S (เอส) เป็นปุ่มที่ให้ผู้อ่านสามารถเชื่อมต่อไปยังเครื่องปริ๊นเตอร์เพื่อสแกนเอกสารภายในที่ทำงาน ปุ่มสัญลักษณ์ถังขยะเพื่อลบภาพเอกสารที่สแกน และปุ่มสัญลักษณ์เครื่องหมายถูกเพื่อจบการถ่ายภาพและนำไปสู่ขั้นตอนต่อไป         การถ่ายภาพเอกสารสามารถถ่ายภาพได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สแกนออกมาเป็นไฟล์เดียวกันได้ โดยภาพที่ถ่ายแต่ละภาพนั้นจะปรากฎให้เห็นด้านล่างของหน้าจอ เมื่อเสร็จสิ้นการถ่ายภาพ ให้ผู้ใช้แอปพลิเคชั่นกดที่ปุ่มสัญลักษณ์เครื่องหมายถูกหรือกดที่ภาพด้านล่าง จากนั้นจะปรากฎรายละเอียดภาพทั้งหมด โดยกรณีที่ต้องการแก้ไขภาพให้กดปุ่มสัญลักษณ์ขีดสามขีดบริเวณมุมล่างซ้ายของภาพไนั้นเพื่อแก้ไข ซึ่งจะมีเมนู 4 เมนู ได้แก่ เมนูลบ เมนูกลับภาพ เมนูครอบภาพ และเมนูตกแต่งภาพ           เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีวิธีการส่งภาพและการบันทึกภาพให้เลือก โดยสามารถส่งภาพไปยังอีเมล แอปพลิเคชั่นไลน์ ข้อความ ฯลฯ สำหรับผู้ใช้ที่มีการเก็บข้อมูลไว้ใน Evernote อยู่แล้วสามารถเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชั่นนี้ได้ทันที ทั้งนี้ถ้าบันทึกลงในสมาร์ทโฟนจะแยกเป็นภาพ แต่ถ้าส่งภาพไปยังที่อื่น สามารถส่งเป็นสกุลไฟล์ Pdf ได้         ตอนนี้ไม่ต้องกังวลใจแล้วถ้ามีใครต้องการเอกสารแบบเร่งด่วน แค่มีสมาร์ทโฟนกับแอปพลิเคชั่น Scannable ก็พร้อมเสมอ แอปพลิเคชั่นนี้เหมาะอย่างยิ่งกับความเร่งรีบแบบนี้จริงๆ ซึ่งช่วยทำให้มีความสะดวกรวดเร็ว แถมเอกสารมีความคมชัดเสมือนใช้เครื่องปริ๊นเตอร์ในการสแกนเลยทีเดียว

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 254 “ทางรัฐ” ศูนย์รวมบริการหน่วยงานรัฐ

        ในฐานะประชาชนคนหนึ่งในประเทศไทยตั้งแต่เกิดจนเติบโต ทุกคนจำเป็นต้องติดต่อกับหน่วยงานของรัฐเป็นปกติ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเกิด การแจ้งเข้าทะเบียนบ้าน การทำบัตรประจำตัวประชาชน การทำใบขับขี่ การทำประกันสังคม การติดต่อกับการไฟฟ้า การประปา รวมถึงสิทธิรักษาพยาบาลต่างๆ ที่เป็นสิทธิพื้นฐานของทุกคน จึงทำให้สรุปได้ว่าทุกคนต้องได้เข้าใช้บริการจากหน่วยงานรัฐอย่างแน่นอน         ล่าสุดตามแผนแม่บทพอร์ทัลกลางเพื่อประชาชน ระยะ 3 ปี (Citizen Portal Roadmap) เพื่อวางรากฐานของประเทศในการยกระดับการให้บริการประชาชน ทำให้ภาครัฐได้จัดทำแอปพลิเคชั่นที่มีชื่อ “ทางรัฐ” ขึ้น เพื่อมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการจากทางภาครัฐได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว         แอปพลิเคชั่นทางรัฐนี้ เป็นระบบกลางของประเทศที่รวบรวมบริการของหน่วยงานภาครัฐที่สำคัญมาไว้ในที่เดียว โดยประโยชน์ที่ได้รับจาก แอปพลิเคชันทางรัฐ คือ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย มีความสะดวกและรวดเร็ว สามารถติดตามสถานะการขอใช้บริการภาครัฐได้สะดวก ค้นหาข้อมูลการติดต่อราชการได้ และได้รับบริการตามสิทธิ์ที่พึงได้อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม         ปัจจุบันมีการรวบรวมบริการไว้ให้กว่า 30 บริการ เช่น การตรวจสอบสิทธิประกันสังคม สถานะผู้ประกันตน สิทธิหลักประกันสุขภาพ เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด การตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโร หนังสือรับรองผลการทดสอบ O-Net ตรวจสอบข้อมูลใบสั่งจราจร ข้อมูลทะเบียนรถ การจองคิวอบรมใบขับขี่ เช็คโฉนดที่ดิน ข้อมูลติดต่อราชการ การแจ้งเอกสารหาย การยื่นคำร้องกรณีต่างๆ รวมถึงบริการค่าน้ำ ค่าไฟ ที่สามารถชำระค่าบริการผ่าน QR Code ฯลฯ ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมบริการภาครัฐให้บริการประชาชนได้แบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว         ขั้นตอนแรกหลังดาวน์โหลดเสร็จ ต้องสมัครเข้าใช้งานโดยสแกนบัตรประจำตัวประชาชนและสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนในลำดับแรก เมื่อเข้าสู่แอปพลิเคชั่นจะปรากฎบริการต่างๆ ตามหมวดหมู่ ได้แก่ หมวดข้อมูลของฉัน หมวดการศึกษา หมวดสิทธิประโยชน์/สวัสดิการ หมวดสุขภาพ หมวดพาหนะ/การเดินทาง หมวดสาธารณูปโภค หมวดที่ดินที่อยู่อาศัย หมวดการงาน/อาชีพ หมวดข้อมูลภาครัฐและหมวดงานยุติธรรม/กฎหมาย         ต่อจากนั้นกดเลือกหัวข้อที่ต้องการ โดยการเริ่มต้นครั้งแรกนั้น ภายในแอปพลิเคชั่นจะให้กดอนุญาตการเช้าถึงข้อมูลนั้นๆ เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลใบขับขี่ แอปพลิเคชั่นจะปรากฎหน้าให้ความยินยอมในการเข้าถึงข้อมูล เมื่อกดยอมรับเรียบร้อยแล้ว จะมีข้อมูลใบอนุญาตปรากฎ ตั้งแต่เลขที่ใบอนุญาต ชนิดใบอนุญาต วันเริ่มและหมดอายุของใบอนุญาต หรือในหัวข้อแจ้งเอกสารหายออนไลน์ เมื่อกดยอมรับเรียบร้อยแล้ว จะเชื่อมต่อกับระบบที่สามารถแจ้งเอกสารหายออนไลน์และตรวจสอบสถานะการแจ้งความผ่านแอปพลิเคชั่นนี้ได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถแจ้งเตือนการหมดอายุ การเปลี่ยนสถานะของเอกสารได้อีกด้วย         เพียงมีแอปพลิเคชั่นทางรัฐก็สามารถเพิ่มความสะดวกสบายได้ดีจริงๆ ซึ่งช่วยลดขั้นตอนการเดินทาง ลดขั้นตอนการยื่นส่งเอกสาร และเพิ่มการเข้าถึงบริการของรัฐได้อย่างแท้จริง

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 252 ไกลแค่ไหนคือใกล้ เมื่อติดต่อผ่าน Call Zen

        ยุคสมัยปัจจุบันองค์กรต่างๆ ที่ดำเนินธุรกิจด้านการให้บริการจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการให้บริการหลังการขายทั้งสิ้น เนื่องจากปัจจุบันบริการหลังการขายเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของผู้บริโภคที่จะเลือกซื้อสินค้าเหล่านั้นด้วย ถ้าสินค้าใดไม่มีบริการหลังการขายหรือยากแก่การเข้าถึง หรือแม้กระทั่งมีปัญหาจุกจิกกวนใจในการติดต่อประสานงาน ผู้บริโภคหลายคนเลือกที่จะไม่ซื้อสินค้านั้นเลยก็มี         เมื่อกล่าวถึงบริการหลังการขาย สิ่งหนึ่งที่ทำให้นึกถึงคือ call center ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งที่ช่วยทำให้ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าติดต่อสื่อสารกับเจ้าของสินค้าเหล่านั้นได้ แต่ call center กลับสร้างปัญหาในการเข้าถึงอย่างมาก ซึ่งควรจะเป็นช่องทางที่เข้าถึงได้รวดเร็วที่สุด กลับกลายเป็นช่องทางที่ให้รอสายนานที่สุดเช่นกัน บางครั้งกดเลือกอยู่นาน แต่ไปไม่ถึงจุดหมายที่ต้องการสักที ต้องวางสายและกดโทรออกเริ่มใหม่อีกครั้ง ทำให้ท้อใจไปตามๆ กันเลยทีเดียว เชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านต้องเคยประสบกับปัญหาในลักษณะนี้อย่างแน่นอน           ดังนั้นถ้าต้องการให้ความท้อใจนี้หมดไป ลองดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า Call Zen มาไว้ติดสมาร์ทโฟนกันดู ช่วยข้ามขั้นตอนการรอสายนานไปได้มากเลย         Call Zen เป็นแอปพลิเคชั่นที่รวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ผ่านระบบ Call Center มาไว้ภายในที่เดียวกัน ปัจจุบันมีหมวดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 22 หมวด ได้แก่ หมวดเบอร์ติดต่อพิเศษสำหรับโควิด-19 หมวดแจ้งเหตุทุจริต หมวดโทรคมนาคม ซึ่งเกี่ยวกับเครือข่ายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต หมวดธนาคาร หมวดบัตรสมาชิก หมวดบัตรเครดิต หมวดฉุกเฉินและบริการสาธารณะ เช่น สายด่วนกรมทางหลวง ร่วมด้วยช่วยกัน ศูนย์บริการข้อมูลจราจร แจ้งรถหาย มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง เป็นต้น         หมวดสายการบิน หมวดอี-คอมเมิร์ซ หมวดมือถือและอุปกรณ์ไอที หมวดขนส่ง หมวดประกันชีวิต หมวดประกันภัย หมวดโรงพยาบาล หมวดเช่าซื้อหรือลิสซิ่ง หมวดสาธารณูปโภค หมวดอุปกรณ์ตกตแงบ้าน หมวดหน่วยงานราชการและหน่วยงานรัฐ หมวดสื่อมวลชน หมวดแจ้งเหตุอัคคีภัย หมวดแจ้งเหตุอุทกภัย และหมวดบริการส่งอาหาร         หลังจากเลือกเข้าไปตามหมวดแล้ว แอปพลิเคชั่นจะปรากฎหมวดหมู่ย่อยให้เพิ่ม เพื่อให้เลือกเข้าถึงตามความต้องการที่แท้จริง เช่น ติดต่อเจ้าหน้าที่ อายัดบัญชี แจ้งปัญหาร้องเรียน สอบถามยอดค้าชำระ ยกเลิกข้อความโฆษณา เป็นต้น จากนั้นแอปพลิเคชั่นจะแจ้งรายละเอียด เวลาทำการ และหมายเหตุระยะเวลาก่อนกดข้ามขั้นตอน ทั้งนี้ถ้าต้องการติดต่อก็สามารถกดโทรออกภายในหน้านี้ได้ทันที         แอปพลิเคชั่นจะมีการแจ้งการอัปเดตข้อมูลภายในผ่านหัวข้อข่าวสาร บนหน้าหลักของแอปพลิเคชั่น ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ว่ามีการอัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่เท่าไร และเป็นข้อมูลด้านใดบ้าง         หลังจากทดลองใช้แอปพลิเคชั่น Call Zen มาสักพักแล้วรู้สึกพึงพอใจมากกว่าในอดีตที่ต้องรอสายแล้วรอสายอีกจนเหนื่อยใจแถมเสียเวลากับการใช้บริการ Call Center เป็นอย่างมาก ช่วยลดความหงุดหงิดและรำคาญใจไปได้มากจริงๆ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 251 รู้ข้อมูลแปลงที่ดินผ่าน LandsMaps

        ปัจจุบันเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าช่วยทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันมีความสะดวกสบายอย่างมาก ประกอบกับช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดแบบนี้ช่วยได้มากที่สุด ฉบับนี้ขอมาเขียนถึงแอปพลิเคชั่น LandsMaps ที่นำเทคโนโลยีช่วยมาเติมเต็มให้กับประชาชนช่วยให้รู้ราคาประเมินของแปลงที่ดินทุกจุดทั่วประเทศ โดยไม่ต้องเดินทางไปสอบถามเจ้าหน้าที่กรมที่ดินด้วยตนเอง         แอปพลิเคชั่น LandsMaps จัดทำขึ้นโดยกรมที่ดินร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการหาตำแหน่งแปลงที่ดิน ได้ทราบราคาประเมินของที่ดินนั้น และเชื่อมต่อข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกรมที่ดิน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย โดยผู้อ่านสามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรีทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS เมื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเรียบร้อยแล้ว ให้ลงทะเบียนสมัครเข้าใช้งาน โดยกำหนดชื่อบัญชีผู้ใช้ กำหนดรหัสผ่าน ใส่เบอร์มือถือและอีเมล หลังจากนั้นจะได้รับรหัส OTP เพื่อนำมากรอกลงในแอปพลิเคชั่น ก็เสร็จสิ้นขั้นตอนการลงทะเบียน         ขั้นตอนการค้นหาไม่มีความยุ่งยากและซับซ้อนมากนัก หลังจากเข้าแอปพลิเคชัน LandsMaps หน้าจอจะปรากฎภาพแผนที่ ให้ผู้อ่านมองหาและกดปุ่มสัญลักษณ์ขีดสามขีดที่อยู่บริเวณด้านบนซ้ายมือของแอปพลิเคชั่น ซึ่งจะแสดงเมนูต่างๆ ดังนี้ เมนูค้นหารูปแปลง เมนูค้นหาสถานที่สำคัญ เมนูปิดเปิดผังเมืองกรุงเทพมหานคร เมนูรูปแบบแผนที่ เมนูแปลงที่บันทึก เมนูรายละเอียดประเภทของที่ดิน เมนูวิธีใช้ เมนูเงื่อนไขและข้อตกลง และเมนูออกจากระบบ         เมื่อต้องการค้นหาแปลงที่ดินให้เลือกกดที่เมนูค้นหารูปแปลง ต่อจากนั้นให้เลือกระบุจังหวัด ระบุอำเภอ และเลขที่โฉนดที่ดินลงไป แอปพลิเคชั่นจะประมวลผลและปรากฎจุดแปลงที่ดินที่ค้นหา โดยแสดงรายละเอียดตั้งแต่เลขที่โฉนด เลขที่ระวาง เลขที่ดิน หน้าสำรวจ ตำบล อำเภอ จังหวัด เนื้อที่ ค่าพิกัดแปลง ราคาประเมินต่อตารางวา ระยะเวลารอคิวรังวัด และสามารถกดดูข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ คิดคำนวณค่าใช้จ่ายในการรังวัด ระบบการคำนวณภาษีอากร หน้าเว็บไซต์กรมธนารักษ์ หรือเชื่อมต่อไปยังแผนที่เพื่อนำทางไปยังแปลงที่ดินหรือไปยังสำนักงานกรมที่ดิน ในรูปแบบแผนที่ Google map         ส่วนเมนูค้นหาสถานที่สำคัญใช้สำหรับค้นหาสถานที่ต่างๆ เมนูปิดเปิดผังเมืองกรุงเทพมหานครทำให้เห็นภาพผังเมืองของพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมนูรูปแบบแผนที่สำหรับเปลี่ยนมุมมองแผนที่แบบเส้นทางหรือแผนที่แบบดาวเทียม เมนูแปลงที่บันทึกใช้ในกรณีที่ค้นหาแปลงที่ดินและได้กดปุ่มบันทึกแปลงนี้ ที่ดินแปลงจะถูกเก็บบันทึกไว้ในเมนูนี้ เมนูรายละเอียดประเภทของที่ดินเป็นข้อมูลที่อธิบายความหมายของที่ดินประเภทต่างๆ         ใครที่กำลังมองหาตัวช่วยในการตรวจสอบราคาประเมินที่ดินและรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ลองดาวน์โหลดมาใช้งานดูได้ แอปพลิเคชั่น LandsMaps ช่วยให้ชีวิตสะดวกและสบาย ไม่ต้องเดินทางไปถึงกรมที่ดินด้วยตนเองได้จริงๆ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 250 เฝ้าระวังน้ำขึ้นน้ำลงผ่าน ‎Tide Charts Near Me

        ผู้อ่านหลายท่านที่มีที่อยู่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำ ลำคลอง เส้นทางน้ำธรรมชาติ ริมอ่าวไทย ริมฝั่งอันดามัน ฯลฯ ส่วนใหญ่เมื่อเกิดน้ำขึ้นสูงเกินริมตลิ่งก็จะส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนไปตามๆ กัน และไม่เพียงแต่ที่อยู่อาศัยเท่านั้น ยังอาจสร้างปัญหากับการประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับน้ำได้อีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ได้เลย จึงทำได้แต่เพียงเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมในการรับมืออยู่เสมอ         การเกิดน้ำขึ้นน้ำลงนั้นเป็นปรากฏการณ์ที่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและลดลงเป็นช่วงๆ ในแต่ละวัน กระแสน้ำมีการเพิ่มขึ้นและลดลงของระดับน้ำทะเลที่เกิดจากผลรวมของแรงโน้มถ่วงที่เกิดจากดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์และการหมุนของโลก ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เกิดขึ้น         ผลกระทบจากที่กล่าวมาทั้งหมดจะหมดไปถ้าได้รู้ข้อมูลน้ำขึ้นน้ำลงก่อนล่วงหน้าและทันท่วงที ที่จะช่วยทำให้สามารถวางแผนบริหารจัดการชีวิตและทรัพย์สินให้เหมาะสมได้ เพื่อลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินได้ นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วยในการวางแผนการเดินทางให้กับผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวการผจญภัยกลางแจ้งได้ดีทีเดียว         ฉบับนี้จึงพามาแนะนำแอปพลิเคชั่นที่เป็นตัวช่วยเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับน้ำขึ้นน้ำลงในแต่ละวันกัน แอปพลิเคชั่นนี้มีชื่อว่า ‎Tide Charts Near Me เพื่อดูปรากฎการณ์น้ำขึ้นน้ำลง โดยสามารถเห็นข้อมูลดวงจันทร์ พยากรณ์อากาศ และเรดาร์จับกระแส ซึ่งช่วยให้วางแผนจากเหตุการณ์น้ำขึ้นน้ำลง น้ำทะเลหนุน แถมยังสามารถดูได้ทั้งค่าเป็นรายวันและรายชั่วโมงได้อีกด้วย         เมื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นแล้วให้เปิดการอนุญาตเข้าถึง location หลังจากนั้นแอปพลิเคชั่นจะขึ้นสถานีที่ใกล้ที่สุด และมีให้เลือกสถานีเพิ่มเติมที่ถัดออกไป โดยสามารถเลือกกดไปที่ภาพสัญลักษณ์ 3 ขีดมุมบนซ้ายเพื่อเลือก เมื่อได้สถานีที่ต้องการแล้วจะปรากฎข้อมูลในวันปัจจุบันว่าสภาพอากาศเป็นอย่างไร มีบอกวันข้างขึ้นข้างแรมในสัญลักษณ์เป็นรูปพระจันทร์เต็มดวง พระจันทร์เสี้ยว         การดูน้ำขึ้นน้ำลงจะนำเสนอในรูปแบบของกราฟเส้นตามช่วงเวลาและมีสรุปถึงเวลาที่น้ำจะขึ้นมากที่สุดและเวลาที่น้ำลงมากที่สุด รวมทั้งแจ้งตัวเลขความสูงของระดับน้ำทะเล และเมื่อต้องการดูข้อมูลย้อนหลังหรือล่วงหน้าก็ให้สไลด์หน้าจอไปด้านซ้ายและด้านขวาตามลำดับ แต่ถ้าสไลด์หน้าจอลง แอปพลิเคชั่นจะปรากฎข้อมูลเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตก และเวลาพระจันทร์ขึ้นและตกด้วย         สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการดูภาพในลักษณะกราฟเส้นสามารถเปลี่ยนไปดูแบบสรุปรวมให้ได้ ซึ่งจะสรุปความสูงของระดับน้ำทะเลที่สูงและต่ำที่สุดของแต่ละวันไว้ โดยกดเลือกเมนูที่สองด้านล่าง ทั้งนี้การใช้งานแอปพลิเคชั่น Tide Charts Near Me สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเข้าอินเทอร์เน็ต         หวังว่าแอปพลิเคชั่นนี้จะมีประโยชน์และถูกใจสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำและผู้ที่ชอบท่องเที่ยวได้นะคะ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 248 Whoscall ตัวช่วยป้องกันมิจฉาชีพ

        เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีข่าวเรื่องมิจฉาชีพเลือกใช้ช่องทางการโทรศัพท์มายังสมาร์ทโฟนเพื่อหลอกขอข้อมูลส่วนตัว บางครั้งอ้างเป็นตำรวจ เป็นเจ้าหน้าที่ศาล เป็นเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร และอ้างอีกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีหลายคนที่หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่ออย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะตกใจกับความน่ากลัวและความสมจริงของมิจฉาชีพเหล่านี้ จนให้ข้อมูลส่วนตัวและทำให้เสียทรัพย์สินไปโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าข่าวจะเป็นกระแสมากแค่ไหน แต่ก็ยังมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ยังตกเป็นเหยื่อ         ถึงแม้บางคนอาจจะรู้ข่าวที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่สามารถเลี่ยงที่จะไม่รับสายหรือโทรกลับเบอร์แปลกได้ เนื่องจากปลายสายอาจจะคนรู้จัก อาจจะเป็นเรื่องงาน หรืออาจจะเป็นขนส่งที่สั่งสินค้าออนไลน์ไว้ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรพลาดก็ได้ ในบางครั้งพอตัดสินใจรับสายกลับกลายเป็นสายที่สร้างความน่ารำคาญใจ จึงต้องเสี่ยงเพื่อที่จะรับสายจากเบอร์ที่ไม่รู้จักตลอด ซึ่งส่งผลกระทบทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด เสียเวลาเดินออกมาจากห้องประชุมเพื่อมารับสาย เสียเวลาคุยเรื่องสำคัญ และสร้างความอึดอัดได้มากทีเดียว         ดังนั้นการมีแอปพลิเคชั่นที่คอยช่วยเตือนและโชว์เบอร์แปลกก่อนรับสายเป็นตัวช่วยที่ดีมากที่สุดในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ช่วยทำให้การดำเนินชีวิตในประจำวันราบรื่นยิ่งขึ้น ลองดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Whoscall มีทั้งระบบปฏิบัติการ Android และระบบปฏิบัติการ ‎iOS สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี         คุณสมบัติของแอปพลิเคชั่น Whoscall สามารถบอกผู้ใช้แอปพลิเคชั่นถึงรายละเอียดข้อมูลโดยจะปรากฎขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ในขณะที่มีสายเรียกเข้าทาง ซึ่งสามารถทำให้ตัดสินใจเลือกรับสายที่ต้องการรับและไม่ต้องการรับได้ เช่น แจ้งว่าเป็นเบอร์ของขนส่งสินค้า เบอร์จากธนาคาร เบอร์ขายประกัน เบอร์หลอกลวง เบอร์ก่อกวน หรือทุกเบอร์ที่มีข้อมูลอยู่ในฐานข้อมูล รวมไปถึงการค้นหาเบอร์แบบออฟไลน์ที่ไม่ใช้อินเทอร์เน็ตว่าเป็นเบอร์จากที่ไหน มีข้อมูลรายงานไว้หรือไม่ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกบล็อกเบอร์โทรเข้าที่เป็นที่สายรบกวน หรือเบอร์มิจฉาชีพที่ไม่พึงพอใจได้อีกด้วย         เมื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นมาไว้ที่เครื่องสมาร์ทโฟนแล้ว กดอนุญาตให้แอปพลิเคชั่นเข้าถึงรายชื่อและข้อความได้ หลังจากนั้นจะให้ log in เพื่อเข้าสู่ระบบผ่านทาง Facebook หรือ Google ซึ่งในขั้นตอนนี้สามารถเลือกได้ว่าจะ log in หรือไม่ก็ได้ และอย่าลืมกดเปิดการอัพเดตฐานข้อมูลไว้ เพื่อให้แอปพลิเคชั่นอัพเดตข้อมูลให้อัตโนมัติ โดยเบื้องต้นแอปพลิเคชั่นนี้มีฐานข้อมูลมากกว่า 1.6 พันล้านหมายเลขจากทั่วโลก ที่สำคัญสามารถรายงานเบอร์ใหม่ๆ เข้าไปในระบบได้ว่าเบอร์ที่ต้องการใส่ไปในระบบเป็นเบอร์ของบริษัทอะไร เกี่ยวกับเรื่องอะไร หรือเป็นเบอร์มิจฉาชีพโทรมาหลอกลวงแบบไหน เพื่อให้เบอร์เหล่านั้นเข้าไปอยู่ในฐานข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ต่อไป         แอปพลิเคชั่นนี้ยิ่งมีผู้ใช้งานมากก็จะช่วยให้มีฐานข้อมูลมากขึ้นเช่นกัน แถมยังช่วยคัดกรองเบอร์โทรให้ทราบล่วงหน้าว่าต้องรับมืออย่างไรกับเบอร์ในกลุ่มมิจฉาชีพ และการใช้งานของแอปพลิเคชั่นนี้ไม่ยุ่งยากเลย ดังนั้นขอแนะนำให้ดาวน์โหลดให้กับผู้สูงอายุ เด็ก หรือผู้ที่ไม่ได้ติดตามข่าวสาร เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 247 ขอรับชุดตรวจโควิด-19 ฟรีผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง

        แน่นอนว่าทุกคนต้องเคยได้ยินเรื่องชุดตรวจ ATK ที่ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงตรวจโควิด-19 ได้ด้วยตนเอง ซึ่ง ATK มีชื่อเต็มว่า Antigen Test Kit คือชุดตรวจการติดเชื้อโควิด-19 ที่สามารถทดสอบได้ในเบื้องต้น เหมาะกับผู้ที่สงสัยหรือไม่แสดงอาการติดเชื้อ โดยสามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายยาทั่วไปแล้ว ล่าสุดสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ได้มีโครงการแจกชุดตรวจ ATK ฟรี กระจาย 8.5 ล้านชิ้น ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิการรักษา ซึ่งหมายถึงผู้ที่มีสิทธิบัตรทอง ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการก็สามารถขอรับชุดตรวจ ATK นี้ได้ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2564 นี้         หลายคนน่าจะมีแอปพลิเคชั่นเป๋าตังอยู่แล้ว แต่ถ้าใครยังไม่มีก็สามารถดาวน์โหลดมาใช้เพื่อกดขอรับชุดตรวจ ATK นี้ได้ แต่มีเงื่อนไขกำหนดไว้ว่า คุณต้องประเมินแล้วมีความเสี่ยงและอยู่ในพื้นที่สีแดง         เมื่อเข้าแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ให้กดเมนูที่เขียนว่า ฟรีชุดตรวจโควิด จะปรากฎข้อตกลงและเงื่อนไขให้กดในช่องยอมรับเงื่อนไขการใช้บริการและกดตกลง หลังจากนั้นหน้าแอปพลิเคชั่นจะมีข้อความเงื่อนไขในการรับชุดตรวจให้อ่านและมีเมนูให้เลือกอยู่หลายเมนู ได้แก่ เมนูทำแบบประเมินก่อนรับชุดตรวจโควิด-19 เมนูสำหรับกด QR Code แสกนเพื่อรับชุดตรวจที่หน่วยบริการ ใช้ในกรณีที่ประเมินความเสี่ยงแล้วได้รับชุดตรวจ เมนูหน่วยรับบริการเพื่อค้นหาจุดรับชุดตรวจที่ใกล้บ้าน เมนูวิธีใช้ชุดตรวจโควิด-19 เป็นการอธิบายวิธีการใช้และมีวิดีโอสาธิตการใช้งาน เมนูวิธีการอ่านผลตรวจเพื่ออธิบายวิธีการอ่านและมีวิดีโอสาธิต เมนูบันทึกผลตรวจกรณีที่มีการตรวจด้วยชุดตรวจโควิด-19 ที่ได้รับมาแล้ว และเมนูประวัติบันทึกผลตรวจเพื่อแสดงผลตรวจทั้งหมด         ถ้าผู้อ่านประเมินตนเองแล้วมีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 อย่างแรกให้กดไปที่เมนูทำแบบประเมินก่อนรับชุดตรวจโควิด-19 ซึ่งจะมีต้องระบุจังหวัดที่อาศัยอยู่ในปัจจุบันและตอบคำถาม 3 ข้อ เมื่อระบบประเมินแล้วว่ามีความเสี่ยงและให้เข้ารับชุดตรวจโควิด-19 ได้ ให้คลิกที่เมนู หน่วยบริการใกล้ฉัน เพื่อเลือกหน่วยบริการที่จะไปรับชุดตรวจ แต่ควรโทรสอบถามและประสานเพื่อไปขอรับหรือให้ผู้อื่นไปรับแทน เนื่องจากชุดตรวจโควิด-19 นั้นมีจำนวนจำกัดในแต่ละหน่วยบริการ         หน่วยบริการจะจ่ายชุดตรวจ ATK ให้จำนวน 2 ชุด สำหรับการตรวจ 2 ครั้ง กรณีผลเป็นลบ ตรวจซ้ำอีกครั้งห่างกันครั้งละ 5 วัน โดยต้องยืนยันตัวตนด้วยการสแกน QR Code ที่หน่วยบริการนั้นผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ด้วย เมื่อตรวจโควิด-19 ด้วยตนเองที่บ้านแล้ว ให้บันทึกผลตรวจผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง         ในกรณีที่ผลการตรวจเป็นบวก ให้กดไปที่เมนูลงทะเบียนเข้ารับการดูแลที่บ้านหรือที่ชุมชนต่อไป และถ้าจังหวัดนั้นยังไม่มีระบบการดูแลที่บ้านหรือที่ชุมชน จะเข้าสู่ระบบการรักษากับหน่วยบริการต่อไป         การขอรับชุดตรวจโควิด-19 ที่คลินิกและร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ ให้เฉพาะผู้ที่มีมือถือสมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ถ้าไม่มีมือถือสมาร์ทโฟน สามารถไปขอรับได้ที่โรงพยาบาล, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และศูนย์บริการสาธารณสุข ทางเจ้าหน้าที่จะทำการคัดกรองและยืนยันตัวตนให้ หากมีข้อสงสัยโทรสอบถามได้ที่สายด่วน สปสช. 1330

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 246 สำรวจอาการเจ็บป่วยฉบับ Agnos

        เชื่อได้เลยว่าทุกวันนี้คนในประเทศไทยส่วนใหญ่ ลืมตาตื่นขึ้นมาทุกวันในตอนเช้า สิ่งแรกที่อยากรู้ นั่นคือ ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด19 จากศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด19 หรือ ศบค. ว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด19 สูงขึ้นหรือลดลงจากเมื่อวานนี้หรือไม่ คอยติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิดและลุ้นให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด เนื่องจากหลายคนมีผลกระทบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ทั้งในแง่การทำงาน รายได้ การทำธุรกิจ การใช้ชีวิตประจำวัน สังคม เศรษฐกิจ เป็นต้น         จากสถานการณ์นี้ทำให้การเดินทางไปสถานที่แห่งใดก็ตาม ต้องมีการคิดทบทวนวางแผนเพื่อป้องกันตัวเองและครอบครัว ไม่ให้กลายเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด19 รวมถึงการเฝ้าระวังการเกิดอาการเจ็บป่วยที่อาจเกิดจากเชื้อไวรัสโควิด19 หรือเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ดังนั้นการมีเครื่องมือแยกแยะอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งวิธีแนะนำการดูแลสุขภาพตัวเองและคนในครอบครัวได้ ก็คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว         งั้นมาเช็คอาการเจ็บป่วยจากแอปพลิเคชั่น Agnos นี้กันดีกว่า         แอปพลิเคชั่น Agnos เป็นระบบการตรวจอาการด้วยตัวเอง ผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือที่เรียกว่า AI ทำให้สามารถวิเคราะห์อาการเจ็บป่วยเบื้องต้นด้วยตนเองก่อนที่จะไปโรงพยาบาล หรือร้านขายยา การวิเคราะห์โรคเบื้องต้น จะช่วยทำความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและความเจ็บป่วยมากขึ้น ทำให้ทราบว่าอาการเจ็บป่วยดังกล่าวอาจเป็นผลจากโรคใดได้บ้าง ควรพบแพทย์หรือไม่ หรือสามารถทำตามคำแนะนำเพื่อดูแลตนเองได้เองที่บ้าน รวมทั้งแนะนำแหล่งจำหน่ายยาที่มีมาตรฐานโดยเภสัชกร         เมื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเรียบร้อยแล้ว จะสามารถเลือกการเข้าสู่ระบบในรูปแบบการใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือ และกรอกข้อมูลส่วนตัว บนแอปพลิเคชั่นจะมีการวิเคราะห์ 3 หมวด ได้แก่ หมวดตรวจโรคตัวเองได้ด้วยระบบ AI เป็นการใช้วิเคราะห์โรคทั่วไป หมวดตรวจความเสี่ยงโควิด19 โดยเฉพาะ หมวดตรวจอาการข้างเคียงวัคซีนโควิด19 โดยมีหมวดที่นอกเหนือจากการวิเคราะห์จะเป็นการรายงานอาการป่วยโควิด ระบบ Home Care ระบบการเชื่อมต่อกับร้านยา การเชื่อมต่อระบบเพื่อปรึกษาแพทย์ ระบบการกดโทรสายด่วน เพิ่มเติม         ในแต่ละหมวดของการวิเคราะห์จะให้ผู้ใช้แอปพลิเคชั่นตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น โดยในเบื้องต้นจะให้ระบุอาการเจ็บป่วยที่พบบ่อย เพื่อนำไปสู่คำถามในแต่ละข้อ เพื่อนำไปวิเคราะห์และประมวลผลออกมาว่าอาการดังกล่าวนั้นอาจจะเกี่ยวข้องกับโรคใดได้บ้าง พร้อมคำแนะนำการดูแลตนเองที่เข้าใจง่ายปฏิบัติตามได้ ถ้าหากเป็นกรณีที่ควรพบแพทย์ก็สามารถกดเลือกปรึกษาแพทย์หรือกดเชื่อมต่อร้านยา เพื่อขอคำแนะนำและซื้อยาเพิ่มเติมได้ทันที โดยในส่วนของการซื้อยานั้นจะได้รหัสรับยาที่ใช้แสดงต่อเภสัชกรเพื่อนำมารับยาได้ที่ร้านยากรุงเทพทุกสาขา หรือจะนำผลวิเคราะห์ที่ได้รับจากแอปพลิเคชั่นมาปรึกษาเภสัชกรที่ร้านยากรุงเทพทุกสาขาก็ได้         การวิเคราะห์อาการเจ็บป่วยเบื้องต้นบนแอปพลิเคชั่น Agnos นี้ถือว่าช่วยประหยัดทั้งค่าใช้จ่าย เวลา และลดความเสี่ยงในการเดินทางออกไปข้างนอกในช่วงสถานการณ์โควิด19 แบบนี้ได้มาก

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 245 ตรวจสอบคุณภาพอากาศ บนแอปพลิเคชั่น Air4Thai

        เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดของถังเก็บสารเคมีของโรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นข่าวใหญ่โตและมีผู้ติดตามข้อมูลข่าวสารกันตลอดเวลา จากเหตุการณ์นี้ได้สร้างความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ด้วย โดยสารเคมีชนิดนี้มีชื่อว่า สไตรีน โมโนเมอร์ มีลักษณะเป็นของเหลวใส ไม่มีสี มีกลิ่นเฉพาะตัว ไม่ละลายน้ำและเบากว่าน้ำ เป็นสารที่ก่ออันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา หากสัมผัสในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาวและเสี่ยงโรคมะเร็งได้ ดังนั้นกรมควบคุมมลพิษและกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ติดตามและเฝ้าระวังตรวจสอบคุณภาพอากาศ คุณภาพน้ำ และสารอันตรายในพื้นที่ที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียงจากเหตุระเบิดและเพลิงไหม้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อไป         ระหว่างที่กรมควบคุมมลพิษและกรมทรัพยากรน้ำบาดาลติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ คุณภาพน้ำอยู่นั้น ในฐานะประชาชนคนธรรมดาที่ต้องใช้ชีวิตประจำวันคนหนึ่งอย่างพวกเรา ก็ต้องคอยตรวจสอบสภาพอากาศที่อาจเกิดมลพิษด้วยเช่นกัน นอกจากติดตามข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องแล้ว การมีแอปพลิเคชั่นสำหรับตรวจสอบสภาพอากาศฉบับพกพาก็ช่วยให้อุ่นใจได้ไม่น้อยเลย         แอปพลิเคชั่น Air4Thai จัดทำขึ้นโดยกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ใช้เครื่องมือตรวจวัดสารมลพิษทางอากาศที่ได้รับรองมาตรฐาน 6 ชนิด ได้แก่ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ก๊าซโอโซน (O3) ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2)        โดยแบ่งคุณภาพอากาศผ่านระดับสี 5 ระดับ ได้แก่ ระดับสีฟ้า เขียว และเหลือง ที่แสดงระดับมลพิษทางอากาศที่ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยสีเหลืองคือใกล้ถึงค่ามาตรฐาน ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อผู้ที่อ่อนไหวกับมลพิษได้ เช่น โรคหอบหืด เป็นต้น และเมื่อเกินค่ามาตรฐานสีส้ม และสีแดง จะทำให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปในวงกว้างได้         ภายในแอปพลิเคชั่นจะสามารถตรวจสอบสภาพอากาศโดยรวม หรือจะเลือกตรวจสอบสถานการณ์ PM2.5 อย่างเดียวก็ได้ และให้กดค้นหาบริเวณต่างๆ ตามที่ต้องการ หรือจะเข้าเมนูรายการ เพื่อเลือกระบุว่าต้องการตรวจสอบสภาพอากาศของภูมิภาคใดได้ทั่วทั้งประเทศ นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกโดยการมีเมนูแผนที่เพื่อแสดงสภาพอากาศบริเวณต่างๆ ในรูปของแผนที่ได้อีกด้วย         ลองดาวน์โหลดมาตรวจสอบคุณภาพอากาศกันดูว่าบริเวณที่อยู่อาศัยของเรามีมลพิษอยู่ในระดับสีใด อันตรายหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ที่อ่อนไหวกับมลพิษ ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บที่จะเกิดจากมลพิษนั้นได้ไม่มากก็น้อย ทั้งนี้ยังสามารถติดตามผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com ได้อีกช่องทางหนึ่ง         ช่วงนี้มีทั้งโรคมีทั้งอุบัติเหตุ อดทนกันอีกหน่อย สู้กันต่อไปนะคะ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 244 เช็คพัสดุออนไลน์ใน eTracking

        ยุคนี้สมัยนี้การช้อปปิ้งออนไลน์เป็นเรื่องใกล้ตัวมาก แม้ว่าก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะไม่เคยใช้บริการออนไลน์ก็ตาม แต่เชื่อว่าในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ที่ผ่านมาต้องมีหลายคนที่ได้ทดลองใช้ไม่มากก็น้อย ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการเดินทาง ลดความเสี่ยงที่จะต้องไปสัมผัส ซึ่งเป็นการป้องกันตนเองและครอบครัวได้วิธีหนึ่ง         ปัญหาที่ตามมาหลังจากมีการสั่งสินค้าผ่านออนไลน์ก็คือ สถานะการสั่งสินค้าไม่อัปเดทเป็นปัจจุบัน จนทำให้คนสั่งรอแล้วรออีก ไม่รู้ว่าจะถึงเมื่อไหร่กันแน่ หรือพ่อค้าแม่ค้าเองก็ไม่รู้ว่าสินค้าของลูกค้าไปอยู่ที่จุดไหนแล้ว ฉบับนี้จึงพามาดูแอปพลิเคชั่นสำหรับตรวจสอบพัสดุ เพื่อเป็นตัวช่วยให้กับลูกค้าและพ่อค้าแม่ค้ากัน         แอปพลิเคชั่นนี้มีชื่อว่า eTrackings ช่วยในการติดตามเลขพัสดุที่อัปเดทสถานะของจุดที่สินค้าอยู่ได้อย่างรวดเร็ว และแจ้งเตือนสถานะพัสดุได้ การเข้าใช้แอปฯ มีหลายวิธี ได้แก่ ลงทะเบียนของแอปฯ โดยตรง ผ่านเฟซบุ๊ก และผ่าน gmail สามารถดาวน์โหลดฟรีทั้งในระบบ Android และ iOS        คุณสมบัติของแอปฯ นี้ที่จะช่วยทุนแรงพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้า เพราะมีระบบตรวจจับพัสดุ ทั้งในรูปแบบการกรอกตัวเลข สแกน QR Code และอ่านเลขพัสดุจากรูปภาพ ซึ่งสามารถทำการสแกนหาตัวเล็ก Tracking Number โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องนั่งพิมพ์เอง ทำให้ไม่ต้องเสียเวลา         นอกจากนี้ยังสามารถแจ้งเตือนพัสดุที่กำลังติดตาม สามารถแชร์พัสดุเป็น URL และสร้าง QR Code เพื่อให้คนอื่นมาสแกน ที่สำคัญสามารถเช็คราคาพัสดุตามขนาดและน้ำหนัก ซึ่งมีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการคำนวณราคาในการส่งสินค้าอย่างมาก ทั้งนี้ในกรณีพัสดุจัดส่งถึงแล้วระบบจะเก็บประวัติการค้นหาให้ 3 วันเมื่อครบแล้วระบบจะนำออกจากระบบทันที ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะภายในแอปพลิเคชั่นยังมีบริการค้นหารหัสไปรษณีย์ เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้อีกด้วย         รายชื่อบริษัทขนส่งที่สามารถติดตามพัสดุภายในแอปพลิเคชั่น eTrackings อาทิ ไปรษณีย์ไทย, เคอรี่ เอ็กซ์เพรส, ช้อปปี้ เอ็กซ์เพรส, แฟลช เอ็กซ์เพรส, ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส, เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส, อัลฟ่า ฟาส, เบสท์ เอ็กซ์เพรส, ซีเจ โลจิสติกส์, สปีด-ดี, นินจาแวน, เอสซีจี เอ็กซ์เพรส, บี เอ็กซ์เพรส, อินเตอร์ เอ็กซ์เพรส, ชิปป๊อป, อาราเม็กซ์, ทีพี โลจิสติกส์, เฟดเอกซ์, ไอที ทรานสปอร์ต, นครชัยแอร์, ยูพีเอส, นิ่ม เอ็กซ์เพรส, บี.เอส เอ็กซ์เพรส, ชิปจัง, Global ไช่เหนียว, เจแปน โพสต์, ไชน่า โพสต์, สกายบอกซ์, บุ๊คมายคาร์โก, บิสซิเนส ไอเดีย ทรานสปอร์ต, ปอลอ เอ็กซ์เพรส, บลู แอนด์ ไวท์ เอ็กซ์เพรส, เซ็นด์อิท, เจดับเบิ้ลยูดี เอ็กซ์เพรส, เอสเอ็มอี ชิปปิ้ง, เอ็นทีซี เอ็กซ์เพรส, Logistics Worldwide Express, ดีพีเอ็กซ์ โลจิสติกส์, ECMS Express, เซ้าท์เทิร์น เดลิเวอรี่ เซอร์วิส, ซีทีที เอ็กซ์เพรส, ยูเซ็น โลจิสติกส์ เป็นต้น         แต่อย่าลืมนะคะ หลังรับสินค้าที่สั่งผ่านออนไลน์มาแล้ว ควรฉีดพ่นน้ำยาแอลกอฮอล์ที่กล่องสินค้าและรีบนำกล่องไปทิ้ง พร้อมล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำสบู่ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงค่ะ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 243 ช่องทางการเช็กข้อมูลโควิด19 ผ่าน Social Media

        จากตัวเลขผู้ติดเชื้อในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ระลอก 3 ในแต่ละวัน ทำให้หลายคนใจหายและภาวนาอยากให้สถานการณ์ดีขึ้น ไม่เลวร้ายไปมากกว่านี้ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญสำหรับช่วงนี้คือ การรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ เพื่อที่จะได้รับมือและระมัดระวังตัว โดยเฉพาะคนทำงานที่ยังคงต้องเดินทางไปทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือแม้กระทั่งพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องหาเช้ากินค่ำ ที่ต้องเดินทางหรือไปอยู่ในพื้นที่ที่อาจมีความเสี่ยงได้โดยไม่รู้ตัว         อีกทั้งข่าวปลอมที่แพร่สะพัดก็เยอะ การเช็คข้อมูลที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ฉบับนี้มาดูกันว่า ข่าวสารต่างๆ ที่น่าเชื่อถือนั้น สามารถดูได้จากที่ใดบ้าง เบื้องต้นขอแบ่งออกเป็น 3 หมวด ได้แก่ เว็บไซต์ Facebook และแอปพลิเคชั่น มาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ         เริ่มด้วย หมวดที่ 1 หมวดเว็บไซต์ที่น่าสนใจดังนี้https://covid19.th-stat.com เว็บไซต์แจ้งรายงานสถานการณ์โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขhttps://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/index.php เว็บไซต์ข้อมูลโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขhttps://pr.moph.go.th/?url=main/index เว็บไซต์ข่าวสารของสำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขhttps://covidtracker.5lab.co เป็นแพลตฟอร์มเว็บไซต์ที่พัฒนาโดย 5Lab บริษัทเอกชน ที่นำข้อมูลจุดที่มีผู้ติดเชื้อและข่าวสารทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ มาระบุพิกัดบนแผนที่ให้เห็นกันแบบชัดเจน มีการกรองข้อมูลของ Fake News อัปเดตจุดเสี่ยงที่ผ่านการทำความสะอาดแล้ว         หมวดที่ 2 หมวด Facebook ที่น่าสนใจดังนี้Facebook กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขFacebook กระทรวงสาธารณสุขFacebook ศูนย์ข้อมูล COVID-19Facebook ไทยรู้สู้โควิดFacebook กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์         หมวดที่ 3 หมวดแอปพลิเคชั่นที่น่าสนใจดังนี้แอปพลิเคชั่น “ใกล้มือหมอ” ช่วยเช็กอาการเบื้องต้นของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างสุขภาพแอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” ช่วยบันทึกข้อมูลการเดินทางของผู้ใช้งานด้วยเทคโนโลยี GPS และ Bluetooth เพื่อเช็กอินตามสถานที่ต่าง ๆแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” หรือ บัญชี LINE “หมอพร้อม” ช่วยรายงานข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวัคซีนโควิด19บัญชี LINE “Away Covid-19” ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นต่อการรับมือกับโควิด 19 และจะอัปเดตสถิติผู้ติดเชื้อในไทย สถานที่มีความเสี่ยง เป็นต้น         หวังว่าข้อมูลที่รวบรวมมาจะมีประโยชน์ทำให้การติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ระลอก 3 ของผู้อ่านได้รับข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามผู้อ่านอย่าลืมช่วยกันรักษามาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี การเว้นระยะห่าง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และรับรู้ข่าวสารอย่างพอดี ไม่วิตกกังวลจนเกินไป การ์ดอย่าตกนะคะ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 242 สำรวจ ฟู้ดเดลิเวอรี ใครมีตัวเลือกรักษ์โลก

        เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็กดแอปพลิเคชั่นสั่งอาหารทางออนไลน์กันเป็นเรื่องปกติ เพราะทั้งสะดวก รวดเร็ว และลดความเสี่ยงในการสัมผัสกับผู้คนลงได้มาก แต่ขณะเดียวกันก็สร้างขยะพลาสติกจำนวนมากด้วย โดยในปี 2562 มีขยะพลาสติกจากธุรกิจร้านอาหารเดลิเวอรีมากถึง 140 ล้านชิ้น           นับเป็นเรื่องดีที่เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 กรมควบคุมมลพิษได้จัดทำบันทึกความร่วมมือการลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวจากการบริการส่งอาหาร ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและภาควิชาการ ซึ่งแม้เป็นเพียงความร่วมมือเชิงสมัครใจและยังไม่มีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน แต่ก็ได้เริ่มกระตุ้นให้ผู้ประกอบการตระหนักและหาวิธีช่วยลดขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกจากต้นทางมากขึ้น         ในฐานะผู้บริโภค หลายคนก็คงอยากรู้ว่าจะมีผู้ประกอบการรายใดที่ตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกนี้บ้าง นิตยสารฉลาดซื้อและโครงการสนับสนุนระบบเฝ้าระวังสินค้าและบริการเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ จึงได้สุ่มสำรวจตัวอย่างแอปพลิเคชั่นสั่งอาหารทางออนไลน์(ฟู้ดเดลิเวอรี) จำนวน 36 แอปพลิเคชั่น ในเดือนมีนาคม 2564 เพื่อสำรวจว่าแอปฯฟู้ดเดลิเวอรีนั้นมีตัวเลือก‘ลดการใช้ขยะพลาสติก’ให้กับลูกค้าหรือไม่  ผลการสำรวจแอปพลิเคชั่นสั่งอาหารทางออนไลน์ (ฟู้ดเดลิเวอรี)         จาก 13 แอปฯ ฟู้ดเดลิเวอรีที่ให้บริการในเขตกรุงเทพฯ พบว่ามี 4 แอปฯ ที่มีตัวเลือก ‘ลดการใช้ขยะพลาสติก’ ได้แก่ Burger King, Food Panda, Grab Food และ Line Man  ข้อสังเกต        - มี 9 แอปฯฟู้ดเดลิเวอรี่ (เลือกจากที่แนะนำโดย Play Store) ที่ไม่ได้ให้บริการในเขตกรุงเทพมหานคร จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีตัวเลือก ‘ลดการใช้ขยะพลาสติก’หรือไม่        - จากการสุ่มตัวอย่างแอปพลิเคชั่นยอดนิยม พบว่ามี 14 แอปฯ ที่ไม่ได้ให้บริการส่งอาหารออนไลน์โดยตรง ซึ่งจัดเป็นกลุ่มซูเปอร์มาเก็ตออนไลน์ กลุ่มส่งสินค้า และกลุ่มแอปฯ สะสมแต้ม + โปรโมชั่น (ร้านอาหาร,ร้านกาแฟ และศูนย์รวมร้านอาหาร)  ข้อแนะนำจากฉลาดซื้อ        แม้ตอนนี้จะมีหลายภาคส่วนร่วมมือกันจัดการขยะพลาสติกมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมายให้เกิดเป็นพฤติกรรมที่ยั่งยืนได้ เพราะปัจจุบันมีเพียงร้อยละ 9 ของพลาสติกที่ผลิตออกมาทั้งหมดเท่านั้นที่ถูกนำไปรีไซเคิล ซึ่งก็เป็นปลายทางแล้ว         ดังนั้น เราน่าจะมาช่วยกันตัดไฟแต่ต้นลม ด้วยการลดขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกจากต้นทางในการสั่งอาหารทางออนไลน์ โดยผู้บริโภค ควรใช้ตัวเลือกลดขยะพลาสติกในแอปฯ(ถ้ามี) เลือกสั่งจากร้านค้าที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เลือกร้านที่ใช้กล่องข้าวหรือปิ่นโตซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ซ้ำได้ เพื่อสร้างกระแสผู้บริโภครักษ์โลกให้ร้านอาหารที่เป็นเครือข่ายอยู่ในแอปฯ ต่างๆ นั้นรับรู้และแข่งกันสร้างสรรค์วิธีลดขยะพลาสติกมาเป็นกลยุทธ์การตลาดดึงดูดลูกค้าต่อไป    ข้อมูลอ้างอิงวารสารสิ่งแวดล้อม ปีที่ 25 (ฉบับที่ 1) มกราคม-มีนาคม 2564

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 242 พบแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ด้วย "ZeekDoc"

        มาอีกแล้วจ้า เมื่อน้องโควิด19 ได้เข้าแพร่ระบาดในประเทศไทยระลอก 3 ต้องคอยนั่งลุ้นตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด19 ว่าจะมากน้อยแค่ไหน พื้นที่ไหนมีความเสี่ยงสูงบ้าง คราวนี้หลายคนอาจรู้สึกว่าน้องโควิด19 เริ่มใกล้ตัวเข้ามามากขึ้นทุกที ความวิตกกังวลจึงเริ่มถาโถมเข้ามาด้วยเช่นกัน ดังนั้นหลายคนอาจมีอาการแพนิก หรือตื่นตระหนก ไม่กล้าออกจากบ้าน แต่บางครั้งก็มีความจำเป็นที่ต้องออกจากบ้าน อย่างเช่น ซื้ออาหารและน้ำมาตุน ต้องเดินทางไปพบหมอ เป็นต้น         ผู้อ่านคนใดมีความจำเป็นต้องเดินทางไปพบหมอ แต่ไม่สะดวกในช่วงนี้ ลองดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น ZeekDoc ช่องทางใหม่ในการค้นหาและนัดพบแพทย์เฉพาะทางใกล้บ้าน สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งในระบบปฏิบัติการ Android และระบบปฏิบัติการ iOS         ZeekDoc ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่เจ็บป่วยเล็กน้อยและไม่ต้องการเดินทางไปพบหมอด้วยตนเอง โดยแอปพลิเคชั่นจะให้ลงทะเบียนด้วยชื่อนามสกุล เบอร์โทรศัพท์ เมล วันเดือนปีเกิด และเพศ เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานให้กับคุณหมอ เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จากนั้นให้เลือกสาขาเฉพาะทางของคุณหมอที่ต้องการนัดพบที่ครอบคลุมมากกว่า 40 สาขา ได้แก่ อายุรกรรมทั่วไป ทันตกรรม กระดูกและข้อ สูตินารีเวช หูคอจมูก ทางเดินอาหารและตับ หัวใจและหลอดเลือด ผิวหนัง นักกายภาพบำบัด มะเร็ง ทางเดินปัสสาวะ ศัลยแพทย์ แพทย์แผนจีน เวชศาสตร์ชะลอวัย ภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน จิตเวช เป็นต้น และเลือกบริเวณพื้นที่ที่ต้องการค้นหา        แอปพลิเคชั่นจะค้นหารายชื่อคุณหมอที่มีสังกัดอยู่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือจะเลือกคุณหมอที่มีสังกัดอยู่โรงพยาบาลไกลบ้านที่ต้องการก็ได้ โดยแอปพลิเคชั่นจะประมวลผลและปรากฎชื่อคุณหมอ ชื่อโรงพยาบาลที่สังกัด ที่อยู่โรงพยาบาล ข้อมูลประวัติการศึกษา ประวัติการทำงานของคุณหมอ ซึ่งมีข้อมูลของคุณหมอที่สังกัดโรงพยาบาลรัฐบาลและโรงเรียนแพทย์ที่มีชื่อเสียงและออกตรวจนอกเวลาที่โรงพยาบาลเอกชนหรือคลินิกต่างๆ ไว้มากมาย         เมื่อเลือกคุณหมอที่ชื่นชอบได้แล้ว ระบบจะแจ้งวันเวลาที่คุณหมอสะดวก เพื่อให้ผู้ใช้แอปพลิเคชั่นได้กดจองเวลาและตอบคำถามเบื้องต้น หลังจากนั้นจะได้รับใบนัดผู้ป่วยที่ระบุรายละเอียดของคุณหมอ ชื่อโรงพยาบาลที่สังกัด ชื่อคนไข้ วันและเวลาที่จอง ทั้งนี้ก่อนถึงเวลานัดหมายจะมีระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าให้อีกด้วย         สำหรับใครที่ไม่ถนัดใช้บริการนัดพบหมอทางแอปพลิเคชั่น ZeekDoc จะลองมาจองผ่านเว็บไซต์ https://zeekdoc.com ได้เช่นกัน  ที่สำคัญการให้บริการในการติดต่อนัดพบคุณหมอนี้ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น          แม้ว่าน้องโควิด19 จะแพร่ระบาดอีกรอบ แต่สิ่งที่ต้องปฏิบัตินั่นคือ การรักษามาตรการการเว้นระยะห่าง สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่มีความเสี่ยงสูง พวกเราต้องอย่าลืมช่วยกันยกการ์ดให้สูงกันนะคะ

อ่านเพิ่มเติม >