ฉบับที่ 251 Help Me คุณผีช่วยด้วย : แล้วใครจะช่วยคุณผีบ้างครับ

              “ผี” เป็นความเชื่อแบบหนึ่งที่สืบทอดต่อเนื่องมาตั้งแต่ยุคบุพกาล ก่อนที่พุทธศาสนาจะถูกนำเข้าจากอนุทวีปมาหยั่งรากแตกกอออกเป็นความเชื่อหลักของสังคมไทยเสียด้วยซ้ำ         สำหรับคนไทยเราแล้ว ผีเป็น “อมนุษย์” หรือมี “ความเป็นอื่น” ซึ่งต่างไปจากมนุษย์ ผีมีทั้งที่ร้ายและที่ดี อันว่าผีร้ายก็น่าจะหมายรวมถึงภูตผีสัมภเวสีที่เฝ้าแต่จะหลอกหลอนทำร้ายผู้คน แต่ทว่าในส่วนของผีดีนั้น มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นกุศโลบายความเชื่อที่คนโบราณสร้างขึ้นเพื่อทำหน้าที่ควบคุมจัดระเบียบจารีตปฏิบัติต่างๆ ให้กับผู้คนในสังคม         กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผีจึงเป็นกลไกการควบคุมทางสังคม เพราะผีร้ายจะลงโทษทัณฑ์ผู้ใดก็ตามที่ปฏิบัติตนไปในทางไม่ดี ดังข้อห้ามในสังคมไทยไม่ให้ผู้ใดกระทำ “เสียผี” หรือ “ผิดผี” แต่ในเวลาเดียวกัน ผีดีก็จะคอยพิทักษ์ปกป้องผู้ที่ประพฤติดี เฉกเช่นวลีที่ว่า “คนดีภูตผีย่อมคุ้มครอง”         แต่คำถามที่ชวนสงสัยก็คือ หากผีเป็นกลไกกำกับควบคุมการขับเคลื่อนชีวิตผู้คนไปในทิศทางที่ถูกที่ควร และเมื่อใดก็ตามที่คนดีตกอยู่ในภยันตราย ผีดีก็จะคอยช่วยเหลือคุ้มครองด้วยแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผีที่คอยอภิบาลปกป้องคนดีกลับต้องเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆ จนหาทางออกไม่ได้เสียเอง คำตอบข้อนี้คงต้องเรียนรู้จากชะตากรรมของผีในละครโทรทัศน์กึ่งคอมเมดี้กึ่งดรามาอย่าง “Help Me คุณผีช่วยด้วย”         เรื่องราวความรักของ “มุทิตา” ยูทูบเบอร์สาวสวย นักรีวิสินค้าน้อยใหญ่ กับ “เขตขันธ์” ไฮโซนักธุรกิจหนุ่มคุณสมบัติสุดเพอร์เฟ็คต์ รูปหล่อพ่อรวยแม่หวง ที่กว่าจะลงเอยครองคู่กันได้ ก็ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากวิญญาณผีของ “อานนท์” เพื่อให้ “มิสชั่น” ของเธอและเขา “พอสสิเบิ้ล” ได้ในฉากแฮปปี้เอนดิ้ง         เพราะมุทิตามาจากครอบครัวของชนชั้นกลาง มีมารดาเป็นอดีตนางงามและเป็นแม่บ้านสายมูผู้บ้าโชคลางอย่าง “เฉิดฉาย” กับบิดาข้าราชการครูผู้คิดบวกอย่าง “วิหาร” จึงก่อกลายเป็นปมเงื่อนที่แม่ของเขตขันธ์ “คุณนายมัณฑนา” ตั้งแง่รังเกียจว่าที่ลูกสะใภ้ว่า สถานะทางเศรษฐกิจสังคมหาใช่จะควรคู่กับบุตรชายมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของเมืองไทยไปได้เลย         ปมความขัดแย้งที่สั่งสมมานี้จึงนำไปสู่จุดเริ่มต้นของเรื่องราวละคร เมื่อเขตขันธ์วางแผนจัดฉากเซอร์ไพรส์ขอมุทิตาแต่งงาน โดยจ้างอานนท์อดีตสตั๊นแมนอารมณ์ดีมาแกล้งปลอมเป็นโจร แต่แผนการนี้กลับไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะมุทิตาเลือกปฏิเสธเขตขันธ์โดยอ้างว่า เธอเองยังไม่พร้อมจะใช้ชีวิตคู่กับเขาในเวลานั้น         แต่แล้วการณ์ยิ่งกลับตาลปัตรมากขึ้นไปอีก เพราะนอกจากความรักของตัวละครเอกจะดูไม่เป็นไปตามคาดหวังแล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ภาพตัดสลับมาที่อานนท์ซึ่งขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านเพื่อไปหาลูกเมีย กลับถูกคนร้ายดักปล้นและทำร้ายจนเสียชีวิต อานนท์จึงกลายมาเป็นวิญญาณผีเร่ร่อนซึ่งตายก่อนกำหนด เพียงเพราะ “หน่วยคัดกรองบุญบาป” ของยมโลกวินิจฉัยอายุขัยของเขาผิดพลาดคลาดเคลื่อน         หากผีเป็นอุบายที่ใช้เป็นกลไกควบคุมทางสังคม และให้ความคุ้มครองดูแลต่อผู้กระทำดี ดังนั้น แม้จะเป็นวิญญาณร่อนเร่ล่องลอย ยมทูตจึงได้มอบหมายพันธกิจให้อานนท์เล่นบทบาทคอยช่วยเหลือสรรพชีวิตทั้งหลายที่ทำคุณงามความดี แต่กลับต้องเผชิญห่วงกรรมต่างๆ เพื่อให้หลุดพ้นทุกข์ทั้งปวง         เมื่อต้องเล่นบทบาท “คุณผี” ที่คอยปกป้องดูแลสัตว์โลก และเพราะอานนท์กับมุทิตาเกิดร่วมวันเดือนปีเดียวกัน ทำให้วิญญาณอานนท์สามารถปรากฏร่างให้มุทิตาเห็นได้ และคอยเฝ้าช่วยเหลือความรักของนางเอกสาวได้ลงเอยสมหวังกับเขตขันธ์ให้จงได้         แต่ทว่า ยิ่งเมื่อก้าวล่วงเข้าไปในชีวิตส่วนตัวและสายสัมพันธ์ระหว่างยูทูบเบอร์สาวกับไฮโซเศรษฐีหนุ่ม คุณผีอานนท์ก็เริ่มตระหนักว่า แท้จริงแล้วเบื้องลึกเบื้องหลังปัญหาทั้งหมดทั้งมวลในชีวิตคนเราล้วนมีสาเหตุมาจากการเห็นผิดจนติดยึดและไม่อาจปล่อยวางทุกข์ต่างๆ นั้นได้เลย         อาการยึดติดไม่ปล่อยวางนี้ ดูจะแผ่ซ่านประหนึ่งโรคระบาดฝังแน่นอยู่ในจิตใจของถ้วนทั่วทุกตัวละคร ตั้งแต่ตัวมุทิตาเองที่ยึดติดงานเป็นสรณะ จนลืมไปว่าการบ้างานเกือบทำให้เธอต้องสูญเสียชายคนรักไป แถมร่วมด้วย “สุธาพร” หมอหนุ่มอดีตคนรักของมุทิตาที่ไม่ยอมมูฟออน หากแต่เฝ้าวนเวียนในชีวิตนางเอก จนทำให้เขตขันธ์เองก็มักขาดสติเป็นเนืองๆ เพราะคิดว่าหญิงคนรักยังมีเยื่อใยต่อชายคนรักเก่าอยู่         อาการ “ผีซ้ำด้ำพลอย” ยังบังเกิดตามมาอีก ไม่ว่าจะมาจาก “ปวีณา” หญิงคนรักใหม่ของหมอสุธาพรที่เป็นยิ่งกว่าโรคลมเพชรหึงและไม่ยอมปล่อยวางเรื่องความรัก จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมความสูญเสียในฉากจบเรื่อง หรือ “ละออองค์” หญิงสาวอีกคนผู้เป็นศัตรูหัวใจที่คอย “กดปุ่มสตีล” เพื่อฉกเขตขันธ์ไปจากนางเอกมุทิตา ไปจนถึงคุณนายมัณฑนาที่เฝ้ายึดติดอยู่กับการไร้ฐานานุรูปทางเศรษฐกิจสังคมของว่าที่ลูกสะใภ้ จนเพิกเฉยต่อความรู้สึกที่อยู่ในหัวใจของบุตรชายตนเอง         เมื่อความรักของมุทิตากับเขตขันธ์ต้องเปิดศึกรอบด้าน และกลายมาเป็นแหล่งหลอมรวมมนุษยชาติผู้เปี่ยมมิจฉาทิฐิมากหน้าหลายตาหลากเหตุปัจจัยและผลประโยชน์เยี่ยงนี้แล้ว อาการที่ตัวละครเอกต้องกู่ร้อง “help me” ขอให้คุณผีอานนท์เข้ามาช่วยเหลือ จึงเหมือนกับ “แผ่นเสียงตกร่อง” ที่ผู้ชมได้ยินซ้ำๆ ตลอดทั้งเรื่อง         แม้วิญญาณอานนท์จะถูกยมทูตวางตัวเล่นให้บทบาทคุณผีซูเปอร์ฮีโร่ช่วยภารกิจให้มนุษย์สัมฤทธิ์ผลสมหวังก็ตาม แต่ที่ชวนขบขันเสียดสีอยู่ในทีก็คือ เอาเข้าจริงแล้ว บรรดาผีๆ ทั้งหลายในปรโลกเอง ก็เหมือนจะติดกับอยู่ในวังวนการไม่ปล่อยวาง ไม่ต่างจากตัวละครผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์เราๆ กันเลย         ตั้งแต่วิญญาณ “อากง” ที่เป็นห่วงลูกหลานจนไม่ยอมปล่อยวาง วิญญาณ “ป้าศรี” แม่ค้าส้มตำผู้ตามอาฆาตสามีหนุ่มที่แอบมีเมียน้อย วิญญาณผีโฮสผัวน้อยที่รอคอยการหลุดพ้น และวิญญาณอีกน้อยใหญ่ รวมไปจนถึงตัวของคุณผีอานนท์เองที่ผูกห่วงไว้กับ “อนงค์” ผู้เป็นภรรยา และหึงหวง “พงศ์สนิท” ชายหนุ่มที่เสนอตนมาเป็นตัวเลือกใหม่ให้กับอดีตภรรยาของเขา        จนมาถึงฉากจบของเรื่องที่วิญญาณอานนท์สามารถช่วยเหลือตัวละครเอกจนสมหวังเรื่องความรักได้แล้ว คุณผีของเราก็ได้เล็งเห็นว่า ความทุกข์ทั้งปวงในชีวิตล้วนเกิดขึ้นจากการยึดติดไม่ยอมปล่อยวาง อานนท์จึงเริ่มทำใจวางอุเบกขาเรื่องความรัก ก่อนจะตัดสินใจอำลามุทิตาเพื่อเดินทางไปสู่สัมปรายภพ        บทสรุปของละครจึงเหมือนจะย้อนกลับไปสู่เสียงความในใจของอานนท์ที่เปิดฉากให้เราได้ยินตั้งแต่ต้นเรื่องว่า “เพราะแต่ละคนมีวิบากแห่งกรรมของตน หากไม่รู้จักปล่อยวาง ตายไปแล้วก็จะไม่มีความสุข”         นี่ขนาดทั้งคนทั้งผียึดติดอยู่กับเรื่องราวรักๆ ใคร่ๆ และเรื่องของครอบครัว คนกับผีก็เกิดอาการเสียศูนย์จนต้องร้อง “help me” กันจ้าละหวั่น ถ้าเป็นเรื่องการยึดติดกับเก้าอี้ ชื่อเสียง ลาภยศ เงินทอง ไปจนถึงอำนาจด้วยแล้ว ถึงจะตะโกน “help me” สักกี่พันครั้ง ก็ไม่รู้ว่าคนและผีจะยอมหลุดพ้นปล่อยวางกันได้จริงๆ ล่ะหรือ

อ่านเพิ่มเติม >