ฉบับที่ 166 ลบรอยสัก

เขียนเรื่องสักคิ้วไป ก็พบข้อมูลเรื่องการลบรอยสัก ซึ่งน่าสนใจ จึงขอหยิบมานำเสนอเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนที่ประสงค์จะลบรอยสักออก หรือสำหรับคนที่ยังไม่มีรอยสัก แต่ถ้าคิดจะสักจะได้พึงคิดให้ดีก่อนว่าจะไปสักดีไหม เพราะถ้าสักไปแล้วไม่พอใจอยากเอาลวดลายออกจะได้รู้ว่า ต้องเจอกับอะไร วิธีลบรอยสัก วิธีลบนั้นมีหลากหลาย แบบโหดๆ บ้านๆ คือเปิดผิวหนังบริเวณรอยสัก เพื่อให้เอาสีที่ฝังในชั้นผิวออก เช่น การลบรอยสักด้วยยางพืช ลบด้วยปูนแดง การลบด้วยกรดหรือด่างหรือด้วยสารเคมีแรงๆ หรือแม้แต่ การสักสีที่ใกล้เคียงกับผิวทับลงไป หรือแบบมืออาชีพคือ การผ่าตัดเอาบริเวณที่สักออกแล้วเอาผิวหนังบริเวณอื่นมาปลูกถ่ายแทน ซึ่งรอยสักอาจหายไปได้  แต่ก็แทนที่มาด้วย รอยแผลเป็นแทน(การจางหายหรือภาวะแทรกซ้อนแต่ละวิธีก็มากน้อยต่างกัน) แต่ที่นิยมมากที่สุดเห็นผลดีสุด ณ ปัจจุบัน(เกิดแผลน้อยสุด)  คือ ลบรอยสักด้วยเลเซอร์ ซึ่งถึงจะพูดแบบนี้แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ อาศัยหลักการปล่อยพลังงานเลเซอร์ผ่านผิวหนัง(ที่มีรอยสัก) ด้านบนลงไปสู่เม็ดสีที่อยู่ใต้ผิวหนังด้านล่าง แล้วเลเซอร์จะทำให้เม็ดสีของรอยสักนั้นแตกออก จากนั้นเม็ดเลือดขาวของร่างกายก็จะมาเก็บเม็ดสีที่แตกนั้นไป โดยที่ผิวหนังด้านบนนั้นยังปกติและปลอดภัย เครื่องเลเซอร์ที่มีใช้ในเมืองไทย ส่วนใหญ่ที่จะนำมาเพื่อการกำจัดเม็ดสีที่เกิดการการสักนั้นอยู่ในกลุ่มของ Q-Switch หรือการยิงพลังงานในช่วงระยะเวลา 1 ใน 1 พันล้านวินาที (nanosecond) ซึ่งแตกต่างกันไปในส่วนของแหล่งการให้ความยาวคลื่นแสงจำเพาะที่เป็นตัวกำหนด เม็ดสีเป้าหมาย ดังนั้นเครื่องเลเซอร์เครื่องเดียวอาจจะกำจัดเม็ดสีได้ไม่ครบทุกสี เมื่อยิงเลเซอร์ไปยังเม็ดสีเป้าหมายแล้ว เม็ดสีจะเกิดการแตกตัว มีขนาดเล็กลง ทำให้เม็ดเลือดขาวสามารถเก็บกินได้ง่ายขึ้น “โดยทั่วไปการลบรอยสักนั้น แพทย์จะคุยกับคนไข้ก่อนว่า ลบครั้งเดียวไม่หายหมด เนื่องจากรอยสัก แต่ละสีต้องใช้เลเซอร์ต่างเครื่องในการลบ ไม่สามารถลบรอยสัก ได้ทุกสีในเครื่องเดียวกัน ดังนั้นคนไข้ที่สักหลายสี จำเป็นต้องใช้หลายเครื่องมาลบ สีที่ลบง่ายจะเป็นสีดำ สีเขียว แต่ที่ลบยากคือ สีแดง สีเหลือง และสีส้ม ยิ่งในระยะหลังเริ่มหันมานิยมการสักสีเนื้อ หรือสีออกขาวกัน ซึ่งจะลบยากขึ้น โดยเฉลี่ยหากลบเพียงสีเดียวจะอยู่ที่ 5-8 ครั้ง และจะทำทุกๆ 1-2 เดือน เนื่องจากการยิงเลเซอร์แต่ละครั้ง จะเกิดแผลเป็นรอยดำที่ผิวหนัง ซึ่งการหายนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะและตำแหน่งของแผล อาจจะมีความไม่สม่ำเสมอของสีผิวที่ลบได้ เพราะเลเซอร์จะไปโดนสีผิวจริงๆ ทำให้โอกาสที่ผิวจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อนการสักนั้น ทำได้ค่อนข้างยาก” (ผศ.พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา)* ถ้าคุณมีรอยสักแล้วต้องการลบออก ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ควรไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังที่ชํานาญ อย่าได้ไปรักษาเอง หรือรักษากับผู้ที่ไม่ใช่แพทย์เป็นอันขาด รอยสักนั้นก็เหมือนประสบการณ์ที่ยากจะทำลาย ดังนั้นคิดให้ดีก่อนทำ เรื่องต้องรู้เมื่อไปลบรอยสัก 1.ขนาดของรอยสักไม่ได้มีผลเท่ากับสีที่ใช้ 2.รอยสักที่นิ้วและข้อเท้า จะแก้ไขได้ยากกว่าก้น ขา หรือหน้าอก 3.บริเวณหลัง หน้าอก หลังลบมักเกิดแผลเป็นง่ายกว่าส่วนอื่น 4.ตำแหน่งใกล้ตา การใช้เลเซอร์ลบอาจเป็นอันตรายต่อจอประสาทตาจนสูญเสียการมองเห็นได้ 5.สักโดยมืออาชีพหรือใช้เครื่องจะลบไม่ยากเท่าการสักของพวกมือสมัครเล่น *ข้อมูล ไม่ง่าย! ลบรอยสักด้วยเลเซอร์ โดย ผศ.พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา  วันที่ 17 กรกฎาคม 2556 http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000087195

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า250 Point