ฉบับที่ 126 ปลาตะเพียนกรอบราดเต้าเจี้ยว

  ช่วงจะเข้าพรรษา มีฝนตกหนักใหญ่ๆ หลายครั้งกระจายอย่างทั่วถึงทั้งในบริเวณตลาดผักไห่ และหมู่บ้านรายรอบ  ชาวนาบ้านหนองน้ำใหญ่ในพื้นที่ศึกษาระยะสั้นเกี่ยวกับการปรับตัวของชาวนาข้าวฟางลอยของฉัน เปลี่ยนจากการสู้รบกับเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเมื่อฤดูปลูกข้าวนาปรังครั้งแรกมาเป็นการตั้งเครื่องสูบน้ำพญานาคเพื่อวิดน้ำออกจากนาปรังครั้งที่ 2 ของพวกเขาแทน ฝน ไม่ได้พาแต่ความเย็นชุ่มฉ่ำให้กับชาวนา เมื่อระบบการทำนาเปลี่ยนไปพึ่งน้ำคลองที่ควบคุมโดยชลประทาน หากแต่ฝนยังนำความกังวลใจมาตั้งแต่เริ่มหว่านข้าวลงนาว่าเมล็ดข้าวที่หว่านลงไปจะเน่าเสียหายเพราะน้ำฝนและฟ้าครึ้มไหม  ครั้นข้าวงอกโตขึ้นมาได้เป็นต้นกล้า ก็ต้องวิดน้ำออกไปให้ได้ระดับไปจนถึงช่วงข้าวตั้งท้องถึงออกรวง  หากฝนตกมากและถี่ ทั้งในบริเวณที่นาของตัวเองและและบริเวณจังหวัดที่อยู่ทางตอนเหนือของหมู่บ้านขึ้นไปมากๆ ชาวนาก็ต้องคอยลุ้นกันว่าน้ำจะถูกปล่อยลงคลองมาท่วมนาก่อนหรือหลังข้าวจะได้เกี่ยวหรือไม่  ถ้าทันเกี่ยวก็ดีไปและไปเปลี่ยนเรื่องลุ้นใหม่หลังได้ผลผลิตแทนเช่นราคาข้าว  หากแต่ไม่ทันและต้องเกี่ยวข้าวกลางน้ำทั้งที่รวงยังเขียว ก็คงหน้าซีดปากเหี่ยวและกัดฟันสู้กันใหม่ในการทำนารอบหน้า  รอบที่ต้องรออีกสัก 4 เดือนให้น้ำในนาลดลงไปอยู่ในคลองเสียก่อน  ฉันถามชาวนาหนองน้ำใหญ่หลายคนว่าช่วงหลังนาพวกเขาทำอะไร  ฉันเองก็คิดตามประสาว่าผืนนากว่า 2,000 ไร่ ที่น้ำท่วมตั้งแต่เดือนกันยายนไปจนถึงสิ้นปีแบบนี้ชาวนาน่าจะมีรายได้จากการจับปลา  แต่เปล่าเลย มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จับปลาหากินเป็นรายได้ มีเพียงบางรายที่หาปลาเองเพราะความชอบ แต่ส่วนใหญ่กับใช้วิธีการซื้อจากคนหาปลาในหมู่บ้าน หรือซื้อจากตลาดเสียมากกว่า  “หาปลาลำบาก ต้องอดทนมาก เราไม่มีความชำนาญ หาได้ก็ไม่คุ้มเวลา ซื้อเขาสะดวกกว่า” พี่จุก ชาวนาวัย 46 ปีบอก และเล่าให้ฟังว่าหลังนาปรังรอบ 2 ช่วงน้ำท่วม 4 เดือนนั้นเขาจะกลายเป็นพ่อค้าเร่ขายของเล่นเด็กตามตลาดนัด แม้จะต้องมีการลงทุนซื้อของและเร่ออกขาย ซึ่งมีรายได้ดีบ้างไม่ดีบ้าง เขาก็ว่ายังดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ ส่วนในช่วงฤดูนาปรังทั้ง 2 ครั้ง หรือ 8 เดือนใน 1 ปี พี่จุกใช้วิธีเช่านาเพื่อนบ้านทำ และรับจ้างฉีดยาหว่านปุ๋ย และช่วยน้องสาวทำหูกระเป๋าให้กับโรงงานที่จ้างเหมาแบบราคาถูก ที่ตลาดนัดเช้าวันจันทร์  ฉันกวาดตามองหาชายคนจับปลาคนที่ฉันเคยซื้อปลาช่อนของเขาหลังจากพูดคุยสั้นๆ และขอถ่ายรูปไปเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน   แต่ 2 สัปดาห์แล้วสินะที่ฉันตามหานักจับปลามืออาชีพคนนั้นไม่เจอ เดินวนหารอบตลาดก็ไม่พบหรือว่าแม่ค้าปลาคนใดคนหนึ่งเป็นคนที่มาขายแทนแก วูบหนึ่งฉันนึกถึงเรื่องที่ตำรวจที่อยู่ในแฟลตตำรวจหน้าบ้านคุยกัน เรื่องการเพิ่งจับปรับคนจับปลาที่เอาลอบไปวางในคลองในช่วงฤดูหวงห้ามเพราะเป็นช่วงปลาตั้งท้องวางไข่ แล้วต้องสลัดความอยากรู้แบบฟุ้งซ่านทิ้งไปอย่างรวดเร็ว  อีกหลายวันถัดมา ฉันมานั่งอยู่ที่เถียงนาของพี่สุภาพ ชาวนาสุพรรณ วัย 49 ปี ที่ย้ายข้ามเขตมาเช่าที่นาแถว ต.หน้าโคก ทำนา  คุยกันหลายเรื่องตั้งแต่เพลี้ยกระโดดรุมทำลายนาเสียหาย  กับปริมาณผลผลิตที่จะเกี่ยวลดลงไปเพราะต้นข้าวล้มระเนนระนาด เนื่องจากลมฝนหอบใหญ่เมื่อวันก่อน  ไปยันเรื่องที่นาที่ลูกพี่ลูกน้องของแก ที่เคยเช่าทำถูกคนดูแลที่ดินไล่ที่ไม่ให้ทำนา โดยไม่จ่ายค่าชดเชยให้ทั้งๆ ที่มีสัญญาเช่าทำถึง 6 ปี และยังทำนาได้ไม่ครบปีตามสัญญา   สาเหตุเพราะเจ้าของนาที่เปลี่ยนมือไป ซื้อที่นาไว้เพื่อจะมาทำนาเอง  จนกระทั่งมาถึงคำถามที่ทำให้ฉันต้องอึ้งกับคำตอบของเธอที่พูดไปเรื่อยๆ ราวกับเหตุการณ์เหล่านี้เป็นเรื่องปกติเต็มประดา “บ่อปลานี่นะเหรอ ก็ต้องจ่ายค่าเช่าบ่อด้วย จ่ายไม่น้อยเชียวนา  ไม่รวมกับค่าที่เช่านา วันก่อนจะจับปลาก็ต้องใช้หม้อไฟฟ้าช็อต เพราะมันลึกและเราลงไปจับไม่ได้  จ้างเขาก็ต้องจ่ายเยอะ แต่ไม่รู้มีใครไปแจ้งตำรวจ มันมาจับก็เลยเสียค่าปรับไป 3,000 กว่าบาท ...” เธอว่าพร้อมส่ายหัว ฉันได้แต่ยิ้มเนือยๆ ราวกับคำพูดคำถามที่เตรียมมามันกระโดดหายไปเสียแล้ว   เย็นแล้ว...กลับถึงบ้าน  แม่กำลังเตรียมผัดหมูสามชั้นกับเต้าเจี้ยวใส่ขิง 3 รส ราดปลาตะเพียนทอดกรอบ ฉันนั่งมองปลาแม่น้ำของชอบของฉันที่ราคาไม่แพงตัวนั้นถูกแม่หั่นเป็นบั้งถี่ๆ และทอดเสียจนกรอบจากน้ำมันปาล์ม ที่ตอนนี้ฉันเลิกสนใจไปแล้วว่าราคามันขวดละเท่าไหร่  หลังเสียง ฉ่า ฉ่า ของกระเทียมถูกทุบที่ผัดไวๆ ในกระทะน้ำมันร้อนจัด ก็มีกลิ่นหอมฟุ้งชวนหิวขึ้นมาแทนความคำนึงทั้งหมดที่แบกมาระหว่างขับรถกลับจากนามาสู่บ้าน กระเทียมเจียวเหลืองกรอบ กลิ่นมันหอมโดดเด่น สักพักก็มีเสียงฟู่แบบใหม่มาจากในกระทะ  ที่แม่หย่อนหมูสามชั้นหั่นชิ้นเล็กๆ ลงไปกลิ้งคลุกเคล้า พร้อมกับน้ำเต้าเจี้ยว น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลปี๊บ   จากนั้นเสียง ฉ่า ฉ่า เปลี่ยนเป็นเสียงน้ำข้นๆ เดือดปุดๆ เพียงครู่เดียวแม่ก็ใส่ใบขึ้นฉ่ายหั่นท่อน  พริกสดหั่นแฉลบ และขิงซอยลงไปผัดพอสลด แล้วดับเตาไฟ ตักเครื่องราด 3 รส เปรี้ยว เค็ม หวานกลมกล่อมลิ้น ราดลงปลาตะเพียนตัวกรอบ   ถึงตอนนี้แล้ว ของโปรดของอร่อยมาวางอยู่ต่อหน้า เรื่องอื่นๆ ของคนอื่นๆ ก็คงต้องวางไว้ก่อนแล้วแหละนะ

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า250 Point