ฉบับที่ 262 จงทำให้ ‘เวลา’ อยู่ข้างเรา

        ปัจจัย 3 อย่างที่มีผลต่อการสะสมความมั่งคั่งให้งอกเงย ได้แก่ เงินต้น อัตราผลตอบแทน และเวลา หมายความว่าถ้าใครมีเงินตั้งต้นสำหรับลงทุนมากกว่า สร้างอัตราผลตอบแทนได้มากกว่า และมีเวลามากกว่า ก็จะสร้างความมั่งคั่งได้มากกว่า         มักจะพูดกันว่าแต่ละคนมีเงินตั้งต้นไม่เท่ากันตามแต่ต้นทุนชีวิต ส่วนอัตราผลตอบแทนถ้าอิงจากผลตอบแทนตามดัชนี set 50 ก็คงอยู่ราวๆ 8-10 เปอร์เซ็นต์ทบต้น นี่ไม่ได้พูดถึงการลงทุนชนิดหวือหวานะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่พอจะทำให้คนที่มีเงินตั้งต้นไม่มากแต่สามารถสร้างความมั่งคั่งได้แบบไม่น้อยหน้านักก็คือ ‘เวลา’         วอร์เรน บัฟเฟตต์ (คนนี้อีกแล้ว) นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าสร้างผลตอบแทนต่อปีจากการลงทุนที่ 22 เปอร์เซ็นต์ทบต้น ตอนปี 2020 มีความมั่งคั่งสุทธิ 84,500 ล้านดอลลาร์ (พระเจ้าช่วย!!!) อันเป็นผลลัพธ์จากการที่เขาเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุ 10 ขวบ (พระเจ้าช่วย!!!)        แค่บัฟเฟตต์ลงทุนช้ากว่านี้ไป 15 ปีหรือก็คือเริ่มลงทุนตอนอายุ 25 ปีซึ่งเป็นวัยเริ่มทำงาน ความร่ำรวยของเขาจะไม่สูงขนาดนี้ ตัวเลขจะต่างอย่างมีนัยสำคัญเลยทีเดียว         เขาถึงพูดกันว่ายิ่งเริ่มต้นเร็วก็ยิ่งได้เปรียบไงล่ะ         เอาล่ะ ใช่ว่าเด็กอายุ 10 ทุกคนจะหมกมุ่นกับการลงทุนเหมือนบัฟเฟตต์ซะทีไหน เว้นเสียแต่พ่อแม่จะเก็บออมและลงทุนเตรียมไว้ให้ ซึ่งก็คงมีไม่มากนักหรอก แต่ท่านคุณเริ่มจัดการการเงินส่วนบุคคลตั้งแต่วันแรกที่ทำงาน คุณก็มีโอกาสสูงที่จะเกษียณแบบรวยๆ         หมายความว่าตั้งแต่โรงเรียนถึงอุดมศึกษาจะต้องเตรียมองค์ความรู้ด้านการเงินส่วนบุคคลไว้ให้เนิ่นๆ         ปัญหาไม่ใช่แค่ว่าสถาบันการศึกษาไทยไม่สอนเรื่องนี้ แต่ยังอยู่ที่วินัยในการออมของแต่ละคนด้วย เพราะต่อให้มีความรู้ ถ้าไม่ลงมือทำก็ไร้ประโยชน์         มันอาจจำเป็นที่ต้องมีกลไกของรัฐเข้ามาช่วย อันที่จริงก็มีแล้วอย่างกองทุนการออมแห่งชาติสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นข้าราชการและไม่ได้อยู่ในกองทุนประกันสังคม แต่มันก็ยังไม่ครอบคลุมและจำนวนเงินที่จะได้รับหลังเกษียณก็ไม่มากมาย         เคยมีพรรคการเมืองเสนอนโยบาย ‘หวยบำเหน็จ’ คือไหนๆ ชาวบ้านก็ซื้อหวยอยู่แล้ว เงินที่ซื้อแทนที่จะซื้อทิ้งๆ ก็เก็บเป็นเงินออมไปเลย เป็นนโยบายที่น่าสนใจ         ประเด็นคือนอกจากประชาชนจะเก็บออม ลงทุนด้วยตนเองแล้ว ถ้ารัฐสร้างกลไกการออมที่หลากหลายและสามารถรองรับคนได้ทุกกลุ่มตั้งแต่เริ่มทำงาน มันจะยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงินของประชาชนได้มาก         เมื่อรวมกับสวัสดิการอื่นๆ ที่ดีมีคุณภาพ คนไทยชีวิตดีแน่นอน...ว่าแล้วก็ตื่นจากฝัน

อ่านเพิ่มเติม >