ฉบับที่ 100 ทอดมันแปลงกาย กับคำแนะนำของผู้ชายในตลาด

เรื่องเรียงเคียงจานนก อยู่วนาวันไหนพอจะมีเวลาและไม่ตื่นสาย ฉันก็จะมีโอกาสได้ไปเดินดูข้าวปลาอาหารในตลาดสดบางบัวทอง ตลาดซึ่งเมื่อฉันกลับมาถึงบ้านทีไร ก็อยากจะหาโอกาสได้ไปเดินดูอะไรต่อมิอะไรบ่อยๆ กว่าที่เป็นอยู่ เอาเข้าจริงๆ แล้วที่ว่าตื่นไม่สายสำหรับฉัน มันคือช่วงแสงแดดเริ่มแย้มออกมาได้สักพัก ฉันเลยมักกำหนดโปรแกรมการเดินตลาดสดแบบอาศัยมื้อเช้าที่ร้านอาหารเล็กๆ ที่มีอยู่หลายเจ้าในตลาดนั่นแหละ กินไปดูผู้คนไป บางทีก็ไพล่ไปคิดถึงตลาดสดที่บ้านในวัยเด็ก เวลาจะผ่านเลยไป ฉันก็ยังคงรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาได้อย่างไม่ต่างกันกับตอนนี้แม้นานๆ จะไปเดินตลาดสักที แต่หลายๆ ทีที่ไปฉันมักโชคดีอยู่บ่อยๆ เช่น ไปเจอร้านอาหารมุสลิมที่เอานมแพะมาตั้งขาย ไปทีไรมีวางขายอย่างมากก็ไม่เกิน 4 – 5 ขวด ยังไม่ได้สบโอกาสถามสักทีว่าทำไมจึงมีแค่นี้ แต่ถ้าวันไหนได้ไปตลาด ฉันก็จะต้องซื้อกลับมากินทุกที เพราะมันเป็นนมแพะแท้ๆ ไม่มีกลิ่นอื่นปนติดมา ราคาไม่แพง แถมยังมีโอกาสเสี่ยงที่จะพบยาปฏิชีวนะกันโรคเต้านมอักเสบน้อยกว่าในนมวัวอีกต่างหากอีกคราวที่ไปเดินตลาด กำลังเพลินกับการเลือกซื้อลูกแผงแตงไทยใบไม่ใหญ่ที่ลุงคนขายวางให้เลือกซื้อไว้ราว 10 กว่าลูก แต่ละลูกมีรูปทรงแตกต่างกันไปไม่เหมือนกันสักลูก กลมบ้าง เรียวบ้าง ผิวเปลือกก็มีสีแตกต่าง เลือกมาได้ขนาดกำลังกิน 1 ลูก แล้วตาก็พลันไปเหลือบเห็นเห็ดรูปทรงประหลาดหัวใหญ่ดำทะมึนวางแอบอยู่ข้างกองใบแมงลัก ลุงคนขายบอกว่ามันเป็นเห็ดตับเต่าซึ่งปีหนึ่งจะออกดอกมาให้กินหนหนึ่ง ฉันเคยได้ยินแต่ชื่อ เลยถือโอกาสทำความรู้จักวิธีกินมันเบื้องต้นจากลุงคนขายนั่นเองกลับมาบ้านฉันจึงนึกได้ เสียดายว่าลืมถามชื่อแกเอาไว้ อารามด้วยความตื่นเต้นดีใจกับเห็ดแปลกๆมื้อกลางวันวันนั้น ฉันทำทอดมันแปลงกาย ส่วนผสมที่ใช้ทำทอดมันแปลงกายมีปลากรายขูด ซึ่งตอนซื้อก็เป็นธรรมดาที่พ่อค้าอยากจะขายให้ได้มาก เขาเสนอให้ฉันเอากองปลากรายที่ปั้นเป็นก้อนๆ มา 2 ขีด 50 บาท แต่ฉันขอซื้อตามปริมาณที่ต้องการเพราะอยู่คนเดียว กินไม่หมด และยังไม่มีเมนูสำรองเพื่อการกักตุนใดๆ จริงๆ ก็เกือบๆ 2 ขีดนั่นแหละ แต่จ่ายไป 45 บาท สบายอกสบายใจทั้งคนขายและคนซื้อปกติเวลาได้ปลากรายมา ถ้าจะเอามาทำลูกชิ้นสำหรับแกง ก็เคยถูกสอนมาให้เอาเนื้อปลากรายขูดมาตำแล้วเจือโดยน้ำเกลือ ตำให้เนื้อนุ่ม เหนียว เมื่อนำไปต้มแล้วจะฟู แต่คราวนี้ฉันเอาปลากรายขูดใส่ครกหิน แล้วใส่พริกแกงปลาที่มีติดอยู่ในตู้เย็นลงไปพร้อมๆ กับใบมะกรูดซอย ตำแบบหนืดๆ หนักๆ เพื่อให้ปลากับเครื่องแกงเข้ากันดีอยู่พัก แล้วตักขึ้นมาจับเป็นแผ่นวางลงบนใบเล็บครุฑ กับใบพริกใบพริกจากต้นซึ่งมีแต่ใบใหญ่ๆ ดกสะพรั่ง เจ้าต้นพริกที่เกิดขึ้นเองอยู่ดาษดื่นในสวนราวกับจะเย้ยเจ้าหอยทากอัฟริกัน alien ตัวสำคัญที่ฉันต้องขอบคุณพวกมันทุกๆ วันขณะเก็บมันไปทิ้งนอกบ้าน เพราะมันได้สอนให้ฉันได้ค้นพบวิธีการจัดการสวนที่ไม่สามารถปลูกผักใบอย่างคะน้า กวางตุ้ง ผักชี เพราะฝีปากของพวกมันได้ตอนจับเนื้อปลากรายที่เข้าเครื่องแกงดีแล้ว วางบนใบเล็บครุฑ และใบพริก ต้องคอยจุ่มมือลงในน้ำสะอาดเพราะเนื้อปลาเหนียวได้ใจ จับเป็นคำขนาดพอกินได้หนึ่งจานพอดี เสร็จจากนี้ก็ใส่น้ำมันลงกระทะตั้งไฟพอให้ร้อนอย่าแรงจัด รอจนน้ำมันร้อนแล้วจึงค่อยๆ จับมันลงทอด ตอนนี้แหละ เนื้อปลาดูฟูน่ากินมาก แต่พอตักขึ้นมาสักพักก็ยุบไปเองโดยปริยาย แต่เหนียว นุ่ม อร่อยและกินได้แบบแทบไม่อยากหยุดปากตอนทอดมันใบเล็บครุฑนั้นระวังนิดนะคะ เพราะจะกระเด็นมากกว่าใบพริกสักหน่อย แต่ความอร่อยทั้งใบพริกกับใบเล็บครุฑสูสีกัน เปลี่ยนรสอร่อยจากที่เคยใช้ถั่วฝักยาว ถัวพุ่ม ถั่วพู และโหระพา กะเพรา ใส่ลงในทอดมันกินไปได้ตั้งครึ่งค่อนจานแล้ว เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าลืมอาจาด! น้ำส้มโหนด หรือน้ำหมักจากน้ำตาลโหนดสดๆ ที่ได้มาจากลงไปเยี่ยมโครงการฟื้นฟูคาบสมุทรสทิงพระยังอยู่ในตู้เย็น (ไม่มีก็ใช้น้ำส้มสายชูแท้แทนไป) ชาวบ้านที่บ้านบ่อกุล อ.สิงหนคร เคยนำกุ้งเคยสดๆ ที่เพิ่งตักได้จากอ่าวไทยมาผสมแป้ง ไข่ และเครื่องแกงทอดแล้วทำน้ำจิ้มให้กิน โดยใส่น้ำส้มโหนดกับน้ำผึ้ง (น้ำตาลโตนดเคี่ยว) ซอยพริก ซอยแตงกวา หอมใหญ่ใส่ไปก็ได้แล้วตอนกินทอดมันกุ้งเคยกับน้ำส้มโหนดปรุงรส ฉันได้แต่พยักหน้าตาโต พึมพำย้ำซ้ำไปซ้ำมาว่า อืม...อร่อย... จนได้หิ้วเอาส้มโหนดกลับมา กะว่าจะเอามาลองทำอาหารที่ใช้แทนน้ำส้มหมักจากแอ็ปเปิ้ล หรือน้ำส้มสายชูดูบ้าง หลังจากที่ได้ไปดู วิถีการทำมาหากินของชาวบ้านในพื้นที่ที่มีลักษณะ “โหนด – นา – เล” และกินมาจนลืมอายเสร็จจากกินทอดมันมื้อบ่ายแล้วฉันก็จ่อมจมกับเครื่องมือหากินบนโต๊ะทำงานไปทั้งวัน ตกตอนค่ำของวันนี้ ฉันนึกได้อีกทีว่าลืมเรื่องสำคัญอย่างที่ 3 ไปจนได้เช้าวันถัดมา วันที่ฉันไม่ได้ไปตลาด หยิบเห็ดตับเต่าที่ล้างและตัดเอาส่วนโคนที่ติดดินออกแล้ววางผึ่งทิ้งไว้จนลืมทำกินมา หั่นเป็นชิ้นๆ ใส่น้ำลงกระทะกะพอลวกเห็ด 1 ดอก ราคา 20 บาท หั่นเป็นชิ้นพอคำได้จานพูนๆ พอน้ำเดือดจัดฉันก็เอาเห็ดลงไปลวกกะให้สุกแล้วตักชิ้นเห็ดขึ้นมาวางพักเพื่อถ่ายรูป น้ำลวกกลายเป็นสีแดงเข้มเกือบน้ำตาลอย่างที่ลุงคนขายบอกไว้แต่ฉันไม่ได้ทิ้งน้ำที่ลวกไปอย่างที่ลุงแนะ กลับเอามันมาปรุงเป็นน้ำแกงโดยต้มกับใบหอมแดง ยอดหม่อนและตะไคร้ ปรุงน้ำแกงด้วยน้ำปลาเพราะปลาร้าขาดครัว ดียังพอมีใบโหระพาที่หามาได้ในสวนใส่แทนแมงลัก แต่ทำแบบชุ่ยๆ ขนาดนี้ก็ยังพอกินได้ นึกเสียดายที่น่าจะทำเห็ดตับเต่ากินครั้งแรกเสียแต่เมื่อวานรสชาติเห็ดก็อยู่ในขั้นปานกลาง และแม้จะสู้เห็ดฟาง เห็ดโคนไม่ได้ แต่กินไปแล้วฉันกลับนึกได้ว่าถ้าเอาไปทำเห็ดตับเต่าน้ำแดง อย่างกระเพาะปลาน้ำแดงแล้วจะเป็นอาหารจานเหลาได้สบาย คงต้องรอปีหน้าละกันนะ... ถ้าไม่ลืม

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า250 Point