ฉบับที่ 212 จ่ายหนี้ไม่ถึงเจ้าหนี้

จ่ายหนี้ไม่ถึงเจ้าหนี้ทุกคนมีสิทธิฉบับนี้มีเรื่องมาเตือนภัย จากประสบการณ์ของคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังเผชิญอยู่ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2561 คนขับสามล้อรับจ้างจำนวนกว่า 100 ราย (จากจำนวนผู้เสียหายประมาณ 300 ราย) เข้ามาร้องเรียนกับศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ว่ากู้เงินจากธนาคารออมสินโดยผ่านสหกรณ์จักรเพชร เพื่อซื้อรถสามล้อมาขับ แต่ปรากฎว่าเมื่อส่งรถไประยะเวลาหนึ่งกลับถูกฟ้องจากธนาคารออมสินว่า ไม่ได้ชำระเงินกู้ ที่มาของเรื่องคือ บรรดาคนขับสามล้อรับจ้างเหล่านี้  ต้องผ่านเงื่อนไข ดังนี้ คือต้องเป็นสมาชิกสหกรณ์จักรเพชร ก่อนโดยจ่ายค่าสมัครสมาชิก 300 บาท จึงสามารถจองรถกับสหกรณ์ได้ จากนั้นต้องทำสัญญากู้ยืมเงินและได้รับรถ (ประมาณ 3 เดือน) โดยลักษณะวิธีการทำสัญญากู้ยืมเงินที่สหกรณ์ให้ทำ มีข้อสังเกต ดังนี้·       ให้เซ็นชื่ออย่างเดียว อ้างว่า มีผู้กู้รอทำสัญญาจำนวนมาก ·       ไม่มีการชี้แจงรายละเอียดในสัญญา·       ไม่มีการอธิบายเรื่องการค้ำประกัน·       ผู้กู้ไม่ทราบว่าตนเองต้องจ่ายเงินเดือนละเท่าไหร่ตามสัญญากู้ยืมเงิน ผู้กู้ทราบแต่เพียงว่า ต้องจ่ายเงินค่างวดตามใบสรุปรายจ่ายสินเชื่อ โดยสหกรณ์ให้ดูตารางระยะเวลากู้และจำนวนเงินค่างวดแต่ไม่ได้ให้ผู้กู้เก็บสัญญาไว้ คุณวันทอง ศรีจันทร์ และคุณเจริญ งามเด่น กลุ่มสามล้อรับจ้าง ชาวจังหวัดสุรินทร์ เป็นตัวแทนเล่าเรื่องราวให้เราฟังเพิ่มเติม คุณวันทอง เริ่มต้นว่า “ออมสินไม่จ่ายให้คนกู้ คือจ่ายให้สหกรณ์จักรเพชร สหกรณ์จักรเพชรเป็นคนรับเงินแทน อย่างของตัวผม มันก็คือราคารถจริงๆ ราคาไม่เกิน 200,000 บาท แต่สหกรณ์ฯ มาขายให้เรา เป็นราคารถ 295,000 บาท แล้วบวกค่าจดทะเบียน พ.ร.บ.อะไรอีก 50,000 มันก็ตก 345,000 บาท แต่ยอดกู้ของออมสิน 400,000 แล้วเงิน 400,000 นั้นไปไหน มันก็อยู่ในสหกรณ์ฯ ”  คุณวันทอง ศรีจันทร์ตอนนี้มีผู้เสียหายประมาณกี่คนก็ประมาณ 300 คน ตอนผมไปกู้ ออมสินจัดให้ 3 คน ต่างคนต่างค้ำกัน 3 คน เขาบอกว่าไม่ต้องอ่านหรอกสัญญา กู้ได้ตามความเป็นจริงของเรา ตามรถสามล้อเขาบอกแบบนี้ (ก็คือกู้ตามนั้น) ครับ กู้เขาก็ให้เซ็น คือก็ไม่มีใครรู้ว่ายอดหนี้เท่าไหร่ เซ็นไป ทีนี้เขาก็มาให้ไปรับรถ เขาก็มีหนังสือตอนรับรถ 345,000 คุณต้องจ่าย 78 งวด งวดละ 7,873 บาท ของสหกรณ์ทำขึ้นมา เขาให้ส่งไปตามนั้นแหละ ส่งไปส่งไป รถมันก็ซ่อม โทรคุยกับสหกรณ์ฯ ก็บอกว่าไม่เป็นไร พี่มี 2-3 พันก็มาให้ได้ เราก็ส่งไปตามนั้นรถต้องซ่อม มารู้อีกทียอดคือ 4 แสน ตอนหมายศาลมา (สัญญาเป็นอย่างไร) เซ็นสัญญาทีเดียว ตอนเซ็นสัญญากู้ออมสิน เขาทำเครื่องหมายไว้ว่าให้เซ็นตัวไหนๆ เขาติ๊กเลขหนึ่งเลขสองเลขสามบอกเซ็นตามนี้ มันอยู่ในปึกเดียวกัน ตอนกู้ทีแรก สัญญากู้ยืมไม่ได้ให้ไว้ คู่ฉบับไม่มีเลย แล้วยอดหนี้เขาก็ไม่แจ้งเรา หนี้ที่เรากู้ก็ไม่ทราบด้วยซ้ำกู้เท่าไหร่ เพิ่งมารู้ตอนหลัง ตอนที่มีหมายศาลมา มารู้ตอนไหน ผ่านไปกี่เดือนเกือบ 2 ปี รู้ตอนผ่อนไปแต่เงินไม่ได้เงินเข้าออมสิน เข้าสหกรณ์อย่างเดียว เราก็ผ่อนผ่านสหกรณ์ไป  แล้วเขาออกใบรับเงินอะไรให้เรามีใบเสร็จ คือเขาให้สมาชิกทุกคนส่งเงินผ่านสหกรณ์ฯ ตอนนี้สมาชิกบางคนคือถูกยึดรถไป แล้วก็ถูกออมสินยื่นฟ้อง มีสมาชิกบางคนไปคุยกับสหกรณ์ฯ อย่างกรณีรถผมถูกยึดไปจะให้ทำยังไง หนี้ผมออมสินจะให้ทำยังไง เขาก็บอกมาว่า คุณไม่ส่งงวดสหกรณ์ฯ สหกรณ์ยึดรถคุณ ออมสินคุณกู้ออมสิน คุณก็ส่งเองไม่เกี่ยวกับสหกรณ์ฯ เขาพูดบอกว่าแบบนี้ เรื่องมันก็เกิดมาร้องเรียนกันอย่างนี้ คุณเจริญ งามเด่น คนที่ถูกธนาคารฟ้องคือภรรยาที่เป็นคนทำสัญญากู้แทนของผมแฟนไปทำสัญญาให้ บางคนก็ญาติบางคนก็ไม่ใช่ญาติ แค่ละเคสไม่เหมือนกัน อยู่ที่ว่าบูโร(เครดิตบูโร) ไม่ผ่านแล้วไปเอาที่คนใกล้ชิดมาเป็นคนกู้ให้ ที่ช้ำใจที่สุด คือไปกู้ออมสินเสร็จแล้วไม่ได้ดูเอกสารอะไรเซ็นอย่างเดียว แล้วยอดเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายอดกู้เท่าไหร่ แล้วกู้มาสหกรณ์เป็นคนรับเงิน พอไป ที่สำคัญคือติดไปทำสัญญาซ้ำกับสหกรณ์อีก โดนจบไปประมาณ 7 แสน แต่เขาเก็บผมไป 7 แสน  รายละเอียดเป็นอย่างไรคือซื้อรถ แฟนไปกู้ออมสินใช่ไหม กู้ออมสินมาในราคาประมาณ 4 แสน กู้ออมสิน 4 แสน เงินก็ไม่ได้รับ(เพราะออมสินให้สหกรณ์) แถมสหกรณ์ออกใบสัญญากู้อีกฉบับหนึ่งให้เรา ว่าแฟนไปกู้สหกรณ์อีก 3 แสน โดยที่แฟนไม่รู้เรื่องเลย ไปครั้งเดียวคือไปทำสัญญาที่ออมสิน แต่ในส่วนของสหกรณ์ไม่รู้เลยว่าเขาทำให้ตอนไหน   คือตอนนั้นผมกับแฟนยังไม่ได้แต่งงานกันยังไม่ได้อยู่ด้วยกัน คล้ายๆ ว่าอยู่คนละบ้านเลขที่ ผมช้ำใจตรงที่เราเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นหนี้ ปัญหาคือเป็นปัญหาครอบครัวด้วย ไม่ใช่เป็นปัญหาเฉพาะ คือคล้ายๆ ว่าพูดเรื่องนี้ทีไรเขาก็ว่าผมเป็นคนหลอกลวงเขา ไปติดหนี้ แล้วสมาชิกทุกคนส่วนมากจะเป็นอย่างนี้ด้วย เป็นอย่างนี้แล้วทำให้ครอบครัวสามล้อแทนจะเป็นครอบครัวอบอุ่นกลับกลายเป็นครอบครัวที่แตกแยกกันแล้วยอดกู้บางคนนะ เราส่งไป 2 แสน หรือ 3 แสน เงินก็เข้าแค่ 2 - 3 หมื่นเองที่เข้าออมสินจริงๆ สมาชิกส่งผ่านสหกรณ์ไป จำนวนที่เข้าสหกรณ์จริงๆ ไม่เข้าตามที่ส่ง โทรศัพท์ไปถามประธานสหกรณ์ฯ เขาบอกว่า ที่แฟนคุณเป็นหนี้คือ คุณไปกู้ออมสินแล้วก็คุณเอาเงินมาออม(ฝาก)ที่สหกรณ์ แล้วในเมื่อคุณอยากได้สามล้อ แฟนคุณก็กู้เงินสหกรณ์มาซื้อสามล้อจึงเป็นหนี้สองทาง จริงๆ เงินที่เรากู้มาก็เป็นเงินของเราใช่ไหม แล้วสหกรณ์ไปเอารถมาก็ทำให้เรากู้อีกนี่นะ ปัญหาคืออยากได้รถก็กู้เงินเราเอง ไม่ควรเป็นกู้สหกรณ์  อย่างของพี่นี่ซ้ำซ้อนอย่างนี้มีสักกี่คน หมดเลยครับ ทุกคน  รวมทั้งหมดประมาณ 300 ราย โดยประมาณ (ยอดรวมทั้งหมดก็หลายล้าน) ครับ ความเสียหาย แล้วมารวมตัวกันยังไงทีแรกก็รวมกันได้ 5-6 คนนี่แหละ ก็ไปยื่นเรื่องที่สำนักนายกรัฐมนตรี ทางสำนักงานนายกฯ เขาก็ส่งเรื่องไปกระทรวงยุติธรรม ก็พากันไปยื่นเรื่องตรงกระทรวงยุติธรรมก็ประมาณ 10 คน หลังจากนั้นมาตัวผมก็กลับบ้านไป ทีนี้แฟนผมก็บอกว่าโทรปรึกษากับคุณนายท่านผู้ว่า ท่านก็แนะนำมาให้ไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมก่อน ศูนย์ดำรงธรรมก็ให้ไปสำนักงานยุติธรรมของจังหวัด สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ก็บอกว่า นี่มันเป็นคดีแพ่งของออมสิน เอกสารเขาครบทุกอย่าง คล้ายๆ ว่า คือช่วยอะไรไม่ได้ เอกสารกู้ยืมทางออมสินครบพร้อมหมด คุณมีทางเดียวก็คือไปมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เขาแนะนำมา ก็เลยได้มาตรงนี้ เมื่อก่อนไม่รู้จักด้วยซ้ำ ผมก็ถามเขาว่ามูลนิธิอยู่ตรงไหน อยู่แถวอนุสาวรีย์ฯ ที่อยู่ก็ไม่มี หาเอายังไง หาเอาในเน็ตเขาบอก ทีนี้ผมก็มา ก็ไปเนติก่อนไปยื่นขอทนาย ทนายก็บอกนู้นแนะ สขพบ. เจ้าหน้าที่เขาเยอะ เลือกให้ดีเขาช่วยได้ ทีนี้ผมก็นึกถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ผมก็เลยให้ลูกสาวค้นหาที่อยู่ในเน็ตให้ พอค้นได้ผมก็โทรมาก่อน มานั่งเล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ฟัง ก็นัดหมายมาคุย ผมมากันสองคน  มากันสองคนครับ เจ้าหน้าที่ก็รับเรื่องไว้ ให้ผมไปชวนสมาชิกสหกรณ์มา แรกๆ สมาชิกชวนยากด้วย ไม่อยากมา บางคนเขาว่า เขาส่งดีแล้วเขาไม่จำเป็นต้องอาศัยคนช่วย ยังไงเขาก็ส่งเป๊ะๆ อยู่แล้ว แต่พอไม่ใช่แล้วมันก็มีหมายศาลไปเรื่อยๆ นี่แหละคนถึงมาร่วมฟ้องกันเยอะๆ เพราะว่าทุกคนโดนหมายศาลจึงต้องมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิฯ ตอนนั้นทางมูลนิธิบอกว่า จะขอเลื่อนจากสุรินทร์เข้ากรุงเทพฯ ย้ายคดีจากศาลสุรินทร์มาอยู่กรุงเทพฯ  ทำไมต้องให้ย้ายมาที่กรุงเทพฯเพื่อความสะดวก ไม่ต้องลำบากไปต่างจังหวัด เพราะคนเสียหายมันเยอะ ทางมูลนิธิฯ ให้ย้ายมาที่กรุงเทพฯ เพราะว่าเรากู้ที่กรุงเทพฯ ย้ายคดีมาอยู่กรุงเทพฯ จะดีกว่า ซึ่งจะขอส่วนนี้ได้ ช่วยแบบทันเหตุการณ์ไม่ต้องลำบากไปต่างจังหวัด ต้องเตรียมเอกสารหลักฐานอย่างไรเอกสารหลักฐานมีหลายอย่างเตรียมมาเอาเท่าที่เรามี ทางมูลนิธิฯ ว่าจะเจรจาให้ออมสินยกฟ้อง ภายใน 7 วัน ถ้าไม่ยกฟ้องภายใน 7 วัน ก็จะให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ไปตรวจสอบสหกรณ์จักรเพชรในส่วนของการเงินออมกับการทำสัญญากู้ ภายในเดือนหนึ่ง ในส่วนสหกรณ์ฯ  ก็ให้ทางสหกรณ์ส่งคู่มือเล่มที่เป็นสิทธิของผู้กู้ให้สมาชิก เท่าที่ทราบก็ยังไม่ตอบรับว่าจะให้หรือไม่ให้ทางมูลนิธิ แต่ใบเสร็จของที่เราได้จากสหกรณ์เราเก็บไว้หมดใบเสร็จจ่ายเงินเก็บไว้ พวกต่างจังหวัดบางคนขับตุ๊กๆ ก็รู้เลยรายได้ไม่ค่อยดีเนอะ และขึ้นอยู่บึงกาฬ ก็ไม่รู้ว่าหมายศาลไปตอนไหน บางคนไม่รู้ ชาวบ้านไปติดต่อไม่ได้ ก็โดนปิดคดี ก็โดนฟ้องไปโดยที่ตัวเองไม่รู้ หลายเจ้า บางคนไปตอนทางบ้านโทรมาบอกตอนเข้าไปติดอันนั้นแล้ว มีอยู่ 2 คนถูกบังคับคดีไปแล้ว เขาไปติดหมายศาลหน้าบ้าน แต่ยังไม่ได้ยึดอะไรไป รถเขาโดนสหกรณ์ยึดไปแล้ว ความจริงสหกรณ์ฯ ในเอกสารออมสินนะ  สหกรณ์ฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกู้ คล้ายๆ เป็นผู้พาไปเฉยๆ ติดต่อไปเฉยๆ  สหกรณ์ไม่เกี่ยวไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับเอกสารการกู้ยืมของสมาชิก ไม่รู้เขาคิดได้ไงเขาเอาเงินไปออมไว้ที่สหกรณ์ฯ  พูดง่ายๆ เขาวางแผนล่วงหน้าในการที่จะทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมา เพราะมันมีทางเรือ เรือเขาก็เคยสอบถามผมก็แจ้งมาที่นี่ และที่สำคัญเมื่อกี้ก็มี ผู้บริหารของสาย 29 กับ 39 ก็โดนเหมือนกัน โดนเคสเดียวกันนี่แหละ โดนสหกรณ์ฯ นี้แหละ โดนคดีแบบนี้ โดนแบบเดียวกันกับออมสิน โดยมีสหกรณ์ฯ เป็นคนพาไปกู้เหมือนกัน อยากบอกคนอื่นๆ ที่เขามีปัญหาเหมือนกันให้เขาทำยังไงต่อได้บ้าง อยากให้คนที่มีปัญหาแบบนี้ออกมาเพื่อที่จะร้องเรียนให้มูลนิธิหรือสื่อได้รับรู้ และจะได้ช่วยกัน บางทีเราไปหาหน่วยงานรัฐ ปฏิเสธเลย บอกว่า กับออมสินเอกสารเขาแน่นมาก ไม่สามารถที่จะสู้กับเขาได้ ของออมสินนะ แม้แต่พยานบุคคลยังใช้ไม่ได้ คืออยากให้ออกมาแล้วพากันช่วยกันส่งเสียง ให้สื่อรับรู้เพื่อที่จะสื่อสารไปหาหน่วยงานที่รับผิดชอบของแต่ละพื้นที่ ช่วยแบ่งเบาภาระ เพราะคนส่วนมากจะเป็นผู้มีรายได้น้อย ใช่ไหม รัฐเขารู้แล้วเขาก็คำนวณต่อเดือนเท่าไหร่ๆ จะมีฝ่ายสวัสดิการมาใช่ไหม แล้วคนมีรายได้น้อยจะมีปัญญาอะไรไปกู้ออมสินตกไปคนละ 7 - 8 แสน นี่แหละ คืออยากให้ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่ออะไรต่างๆ ที่ออมสินปล่อยไป แล้วถ้าคุณไม่ได้รับความเป็นธรรม ออกมาส่งเสียง ไม่ใช่ไปทนทุกข์ทรมานทำให้ครอบครัวแตกแยก อันนี้เรื่องจริงนะ บางคนต้องหย่าร้างกันเพราะโครงการฯ อันนี้สำหรับผม ตอนนี้ดีใจ เห็นผู้ที่เดือดร้อนมาแสดงตัว ดูจากสีหน้าของเขาคล้ายๆ ว่า เรียกว่า ปลาได้น้ำมา จากคนที่เศร้า คือมาเป็นผัวเมียเนอะ มาถึงพอได้ยินมูลนิธิฯ พูดก็สดชื่นทั้งผัวทั้งเมียเลย ตอนนั่งรถมาสังเกตดูเมียหน้าบูดหน้าบี้เลยนะ ผัวก็ขับรถ โดยที่ผัวอยากให้เมียมาฟังด้วย พอมีความหวัง เขาก็ดีใจ เออออกันกลับไป เห็นหน้าเขา เราก็ภูมิใจแทนเขา วันนี้คือเห็นจริงๆ ได้เห็นสีหน้าของครอบครัวหนึ่งมีความสุขก็ถือซะว่าแกนนำบางคนก็ดีใจ ได้เท่านี้เขาก็ดีใจที่เห็นคนที่ผ่านมามีความสุข หมายเหตุ เรื่องราวอยู่ระหว่างเจรจา ผลสรุปจะเป็นอย่างไร ทางฉลาดซื้อจะนำเสนอความคืบหน้าแน่นอน 

อ่านเพิ่มเติม >