ฉบับที่ 237 ซื้อเครื่องตัดหญ้าออนไลน์ แต่ใช้งานไม่ได้

        คุณวิรัชต์ ผู้ซึ่งรักต้นไม้และการทำสวนเป็นชีวิตจิตใจ แต่การต้องตัดหญ้าในสนามหน้าบ้านทุกๆ สองสัปดาห์ ก็ทำเอาคุณวิรัชต์รู้สึกปวดเอวอยู่ไม่น้อย มาวันหนึ่งขณะที่คุณวิรัชต์เปิดเว็บไซต์ดูสินค้าในร้านค้าออนไลน์ ก็ไปพบเข้ากับเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าแบบชาร์จแบตเตอรี่ได้ พร้อมโปรโมชัน ซื้อ 1 แถม 1 ในราคา 1,090 บาท เมื่อดูภาพโฆษณาและอ่านรีวิวแล้ว ก็คิดว่าน่าจะใช้งานได้ดี และคงสะดวกกว่าการใช้กรรไกรตัดหญ้าอยู่ไม่น้อย คุณวิรัชต์จึงตัดสินใจสั่งซื้อเครื่องตัดหญ้าดังกล่าว         ไม่กี่วันให้หลังสินค้ามาถึงผู้รับอย่างรวดเร็ว เมื่อเปิดกล่องพัสดุออกดูด้วยความตื่นเต้น กลับพบว่า รูปลักษณ์ของเครื่องตัดหญ้านั้นช่างแตกต่างจากที่โฆษณาไว้เหลือเกิน ทั้งยังไม่มีกล่องแบตเตอรี แต่กลับเป็นช่องใส่ถ่านขนาดสองเอ (AA) แทน เมื่อคุณวิรัชต์ลองใช้ดูก็พบว่า ไม่สามารถตัดหญ้าได้เหมือนอย่างที่รีวิวเอาไว้อีกด้วย         ด้วยความผิดหวังคุณวิรัชต์จึงรีบโทรกลับไปยังร้านค้าเพื่อที่จะขอเงินคืน เพราะร้านค้าเคยแจ้งว่า สินค้ามีการรับประกันสามารถเปลี่ยนหรือคืนได้ภายใน 7 วัน ซึ่งทางร้านค้าก็ได้ให้คำมั่นว่าจะรีบดำเนินการตรวจสอบสินค้าให้ แต่เอาเข้าจริงคุณวิรัชต์ไม่ได้รับการติดต่อกลับมาอีกเลย พอสอบถามไปบ่อยๆ เข้า ก็เงียบหายและติดต่อไม่ได้อีกเลย คุณวิรัชต์จึงลองกลับไปดูที่เว็บไซต์อีกครั้ง ปรากฏว่ามีผู้ที่ซื้อสินค้าไปแล้วเข้ามาบ่นว่าสินค้าไม่ได้คุณภาพและใช้งานไม่ได้จริงเหมือนกัน แนวทางการแก้ไขปัญหา         ในกรณีนี้ คุณวิรัชต์สามารถรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน ได้แก่ ข้อมูลของร้านค้าที่คู่กรณี, ภาพถ่ายสินค้าที่ชำรุดบกพร่องหรือไม่สามารถใช้งานได้จริงอย่างที่โฆษณา, หลักฐานการโอนเงินว่าโอนเงินไปยังบัญชีใด เพื่อที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ออกหนังสือขอให้ทางธนาคารปลายทางอายัดบัญชีดังกล่าวไว้ เพื่อติดตามเงินคืนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป         ทั้งนี้ หากผู้บริโภคซื้อสินค้าออนไลน์แล้วพบว่า ชำรุดบกพร่องไม่สามารถใช้งานได้จริงตามคำโฆษณาก็ให้ขอคืนสินค้าโดยทันทีตามกรอบระยะเวลาเงื่อนไขที่ทางร้านได้แจ้งไว้ หรือแจ้งต่อคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเรื่องโฆษณา และหากเป็นไปได้ควรซื้อสินค้าออนไลน์จากร้านค้าที่จดทะเบียนการค้ากับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และขึ้นทะเบียนขายตรงกับคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นก็สามารถติดต่อไปยังผู้ขายได้

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 236 หุ่นยนต์ตัดหญ้า

        หากการตัดหญ้าหน้าบ้านด้วยกรรไกรมันใช้เวลานานเกินไป หรือทำให้คุณปวดหลังไปอีกหลายวัน ลองดูผลทดสอบเครื่องตัดหญ้าอัตโนมัติที่เรานำมาฝาก การทดสอบครั้งนี้ทำขึ้นทั้งในห้องปฏิบัติการและสนามหญ้าจริง ในช่วงปลายปี 2019 โดยองค์กรผู้บริโภคที่เป็นสมาชิกขององค์กรทดสอบระหว่างประเทศ         สัดส่วนคะแนนในการทดสอบเปรียบเทียบ แบ่งออกเป็น ประสิทธิภาพการทำงาน ร้อยละ 60  (การตัดหญ้าได้สม่ำเสมอสวยงามทั้งหญ้าเปียก/หญ้าแห้ง หญ้ายาว/หญ้าสั้น การตอบสนองของเครื่องเมื่อเจออุปสรรค เช่น รั้ว แปลงดอกไม้ ต้นไม้ หรือชานบ้าน เป็นต้น)  ความสะดวกในการใช้งาน ร้อยละ 20 (การตั้งค่า การใช้ร่วมกับแอปฯ การเคลื่อนย้าย การทำความสะอาด การเปลี่ยนใบมีด เป็นต้น) การทำงานโดยไม่ส่งเสียงรบกวน ร้อยละ 10 ตามด้วยคุณภาพการประกอบ ร้อยละ 5 และคู่มือการใช้งาน ร้อยละ 5         ในภาพรวมถือว่าเจ้าหุ่นยนต์พวกนี้ทำงานได้เข้าตากรรมการ แต่ราคาของมันก็ไม่ถูกนัก เครื่องตัดหญ้าที่เราเลือกมา 20 รุ่นจากการทดสอบครั้งนี้มีราคาระหว่าง 6,750 – 40,500 บาท และราคาก็มีผลต่อประสิทธิภาพพอสมควร รุ่นที่ได้คะแนนมากที่สุดคือรุ่นที่แพงที่สุด (Stihl RMI 632)  แต่อย่าเพิ่งถอดใจกลับไปใช้กรรไกร ยังมีรุ่นที่ได้คะแนนมากกว่า 80 ในราคาไม่เกิน 10,000 บาทให้คุณได้เลือก         สิ่งหนึ่งที่วางใจได้คือทุกรุ่นได้คะแนนความปลอดภัยในระดับ 5 ดาว และทำงานได้ทั้งระบบออโตและแมนนวล ยกเว้น Riwall PRO RRM 1000 ที่เป็นระบบออโตเพียงอย่างเดียว         มีข้อสังเกตว่า สำหรับเครื่องตัดหญ้าส่วนใหญ่ ขนาดพื้นที่สนามสูงสุดเป็นไปตามที่ผู้ผลิตเคลมไว้ในสเปค ยกเว้น Wolfgarten Loopo M 1500 และ Wolfgarten Loopo M 1000 ที่ทดสอบแล้วทำได้สูงสุดเพียง 800 และ 500 ตารางเมตร ตามลำดับ และ Cub Cadet XR2 1000 ที่รองรับได้สูงสุดเพียง 500 ตารางเมตรเท่านั้น         · หมายเหตุ ราคาที่แสดงเป็นราคาแปลงจากหน่วยเงินยูโร ตามที่องค์กรสมาชิกจ่ายจริง โปรดตรวจสอบราคาที่เป็นปัจจุบันอีกครั้งก่อนตัดสินใจ  

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า300 Point