ฉบับที่ 259 สำรวจฉลาก “กาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม”

        กาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่มเป็นที่นิยมแพร่หลาย เพราะหาซื้อง่ายในราคาที่จ่ายได้ เปิดปุ๊บ ดื่มปั๊บ ตาสว่างปิ๊ง มีรสชาติให้เลือกตามชอบ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คอกาแฟทุกเพศ ทั้งในกลุ่มนักศึกษา ผู้ใช้แรงงาน คนทำงานเป็นกะ พนักงานออฟฟิศ ไปจนถึงระดับผู้บริหาร         ในปี 2562 ตลาดกาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่มมีมูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท เติบโต 2.3% จาก 5 ปีย้อนหลัง ตลาดโตเฉลี่ย 3.4%  มีสัดส่วน 45% ของตลาดกาแฟทุกหมวดหมู่ แม้ในปี 2563 คนส่วนใหญ่ทำงานที่บ้าน ทำให้ตลาดเติบโตลดลง -5% มีมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น (ที่มา: https://www.brandage.com/article/23891/Nescafe) ดังจะเห็นว่าตอนนี้มีหลายบริษัทจัดแคมเปญการตลาดและออกกาแฟสูตรใหม่ๆ มาแข่งขันกันเต็มที่ ผู้บริโภคจึงควรเลือกซื้อโดยพิจารณาที่ปริมาณคาเฟอีน รสชาติ และผลกระทบต่อสุขภาพควบคู่กับการตลาดที่โดนใจด้วย         นิตยสารฉลาดซื้อ ซึ่งดำเนินโครงการสร้างเสริมความเข้มแข็งระบบเฝ้าระวังสินค้าและบริการเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ ร่วมกับ สสส. ได้สุ่มเลือกผลิตภัณฑ์ “กาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม” จำนวน 13 ตัวอย่าง 4 ยี่ห้อ เมื่อเดือนกันยายน 2565 มาสำรวจฉลากดูปริมาณคาเฟอีน พลังงาน น้ำตาลและราคา เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของผู้บริโภค         ผลการสำรวจฉลาก “กาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม” 13 ตัวอย่าง         - ปริมาณ คาเฟอีนต่อ 100 มิลลิลิตร มากที่สุดคือ 90 มิลลิกรัม ในยี่ห้อเนสกาแฟ โรบัสต้า แบล็ค โรสต์และน้อยที่สุดคือ 39.2 มิลลิกรัม ในยี่ห้ออาราบัส สูตรคาราเมลมัคคิอาโต้         - ปริมาณ คาเฟอีนต่อกระป๋อง/ถ้วย ยี่ห้อเนสกาแฟ ทริปเปิล เอสเปรสโซ  มีมากที่สุดคือ   176 มิลลิกรัม ส่วนยี่ห้ออาราบัส สูตรคาราเมลมัคคิอาโต้ มีน้อยที่สุดคือ 78.4 มิลลิกรัม         - ปริมาณน้ำตาลต่อกระป๋อง/ถ้วย มากที่สุดคือ 18 กรัม ในยี่ห้ออาราบัส สูตรมอคค่า และสูตรคาราเมลมัคคิอาโต้ ส่วนยี่ห้อเบอร์ดี้ โรบัสต้า โลว์ชูการ์ มีน้อยที่สุดคือ 4 กรัม         - ปริมาณพลังงานต่อกระป๋อง/ถ้วย มากที่สุดคือ 150 กิโลแคลอรี ในยี่ห้อทรู คอฟฟี่ ซิกเนเจอร์ ลาเต้, อาราบัส สูตรมอคค่า และสูตรคาราเมลมัคคิอาโต้ ส่วนยี่ห้อเบอร์ดี้ โรบัสต้า โลว์ชูการ์ มีน้อยที่สุดคือ 45 กิโลแคลอรี         - เทียบราคาต่อปริมาณ 1 มิลลิลิตร พบว่าราคาแพงสุดอยู่ที่ 0.2 บาท คือยี่ห้อทรูคอฟฟี่ ซิกเนเจอร์ ลาเต้ ส่วนราคาถูกสุดอยู่ที่ 0.08 บาท ได้แก่ยี่ห้อ อาราบัส เอสเพรสโซผสมน้ำมะพร้าวแท้, ยี่ห้อเบอร์ดี้ สูตรโรบัสต้า สูตรโรบัสต้า โลว์ชูการ์ และสูตรลาเต้ น้ำตาลน้อยกว่า และยี่ห้อเนสกาแฟ สูตรเอสเปรสโซ โรสต์ สูตรลาเต้ และสูตรโรบัสต้า แบล็ค โรสต์ .............ข้อสังเกต        - มี 5 ตัวอย่างที่มีสัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ” ได้แก่ ยี่ห้อเบอร์ดี้ สูตรโรบัสต้า สูตรโรบัสต้าโลว์ชูการ์ และลาเต้ น้ำตาลน้อยกว่า และยี่ห้อเนสกาแฟ สูตรเอสเปรสโซ โรสต์ และโรบัสต้า แบล็ค โรสต์          - ยี่ห้อเบอร์ดี้ โรบัสต้า โลว์ชูการ์ มีราคาถูกที่สุด มีพลังงานและน้ำตาลต่อกระป๋องน้อยที่สุด        - ยี่ห้ออาราบัส สูตรคาราเมลมัคคิอาโต้  มีคาเฟอีนต่อถ้วยน้อยที่สุด มีพลังงานและน้ำตาลต่อถ้วยมากที่สุด        - มี 8 ตัวอย่าง ที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล คิดเป็น 61.54 % ของตัวอย่างทั้งหมด        - สารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ใช้มากที่สุด คือ แอซีซัลเฟมโพแทสเซียม รองลงมาคือซูคราโลส และสติวีออลไกลโคไซต์ ตามลำดับ        - เมื่อนำผลจากฉลาดซื้อฉบับที่ 192 (ปี 2557) ที่เคยสำรวจ “ปริมาณคาเฟอีนและน้ำตาลในกาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม” มาเทียบกัน พบการเปลี่ยนแปลงใน 2 ตัวอย่าง คือยี่ห้ออาราบัส สูตรลาเต้ มีคาเฟอีนต่อ100 มิลลิลิตร ลดลงจาก 45.4 เป็น 44.4 มิลลิกรัม และยี่ห้อเนสกาแฟ เอสเปรสโซ โรสต์ มีน้ำตาลต่อกระป๋องลดลงจาก 16 กรัม เป็น 11 กรัม    ตารางเปรียบเทียบผลสำรวจปี 2557 และ ปี 2565ปีที่สำรวจจำนวนตัวอย่างมีปริมาณคาเฟอีน(มิลลิกรัม) ต่อ 100 มิลลิลิตรมีปริมาณน้ำตาล(กรัม)ต่อกระป๋อง/ถ้วยพ.ศ. 255726 ตัวอย่าง19 ยี่ห้อ29 - 91.1 มิลลิกรัม14 - 49 กรัมพ.ศ. 256513 ตัวอย่าง4 ยี่ห้อ39.2 - 90 มิลลิกรัม4  - 18  กรัม        จากตารางเปรียบเทียบนี้จะเห็นว่า ผ่านมาเกือบ 8 ปี ปริมาณคาเฟอีนในกาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม 100 มิลลิลิตรนั้นไม่ต่างจากเดิมมากนัก ในขณะที่ปริมาณน้ำตาลต่อกระป๋อง/ถ้วยน้อยที่สุดลดลง 3.5 เท่าและปริมาณน้ำตาลต่อกระป๋อง/ถ้วยมากที่สุดนั้นลดลงประมาณ 2.7 เท่า (อาจเนื่องจากมีการปรับสูตรเป็นการเติมสารให้ความหวานแทนน้ำตาล)  ฉลาดซื้อแนะ         - ควรอ่านฉลากเพื่อดูส่วนประกอบ ข้อมูลโภชนาการและคำแนะนำเฉพาะของแต่ละผลิตภัณฑ์ทุกครั้ง         - ใน 1 วัน ร่างกายควรได้รับคาเฟอีนไม่เกิน 300 – 400 มิลลลิกรัม และน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัมทั้งนี้แต่ละวันเรายังได้รับคาเฟอีนและน้ำตาลจากอาหารอื่นๆ ด้วย คำแนะนำบนผลิตภัณฑ์คือ ไม่ควรบริโภคกาแฟปรุงสำเร็จเกินวันละ 2 กระป๋อง/ถ้วย จึงไม่ควรละเลย             - ควรเลือกประเภทที่น้ำตาลน้อย แคลอรีต่ำ โดยอาจใช้เกณฑ์ของสัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ” มาพิจารณาในเบื้องต้นได้ เช่น  ในปริมาณ 100 มิลลิลิตร ควรมีน้ำตาล ≤  6 กรัม พลังงาน ≤ 60 กิโลแคลอรี และ ≤ 40 กิโลแคลอรี กรณีสูตรมีน้ำตาลและวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล         - ใครที่ชื่นชอบดื่มกาแฟรสชาติหวานๆ มันๆ ควรเลี่ยงหรือลด และควรออกกำลังกายด้วยเพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากร่างกายมีน้ำตาลและไขมันสะสมมากเกินไป         - เลือกบรรจุภัณฑ์ที่นำไปรีไซเคิลได้ เพื่อลดปริมาณขยะข้อมูลอ้างอิงฉลาดซื้อ ฉบับที่ 192 “ปริมาณคาเฟอีนและน้ำตาลในกาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม”https://healthierlogo.com (หลักเกณฑ์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์-กลุ่มเครื่องดื่ม)

อ่านเพิ่มเติม >