ฉบับที่ 265 การจอดรถหน้าบ้านคนอื่น ผิดกฎหมายหรือไม่

        หลายคนมักมีปัญหาเจอคนชอบเอารถมาจอดขวางหน้าบ้านทำให้เข้าออกได้ไม่สะดวก แน่นอนว่าหลายคนอาจสงสัยว่า บริเวณหน้าบ้านถือเป็นพื้นที่ของเจ้าของบ้านหรือไม่ (ความเป็นจริงส่วนมากมักเป็นที่สาธารณะ) อย่างไรก็ตามการจอดรถในที่สาธารณะซึ่งเป็นบริเวณหน้าบ้านของคนอื่น ก็อาจทำให้เจ้าของบ้านเกิดปัญหามีความเดือดร้อนในการเข้าออกหรือไม่สามารถนำรถยนต์ของตนเองออกไปข้างนอกได้เช่นนี้ หลายคนจึงสงสัยว่ากฎหมายมีการคุ้มครองเจ้าของบ้านมากน้อยเพียงใด  มีบทลงโทษคนที่ชอบจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่นไหม เรื่องนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 ระบุว่า “ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือ ให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท”        บทบัญญัติดังกล่าวข้างต้น ระบุพฤติการณ์ของผู้ที่จะถือว่ากระทำความผิดต้องมีการกระทำในลักษณะ “รังแก” หรือ “ข่มเหง” หรือ คุกคาม หรือ ให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ”  ดังนั้นการจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่นก็อาจไม่ใช่เป็นความผิดเสมอไป เนื่องจากหากมีการเรียกให้เจ้าของรถยนต์เอารถยนต์ที่จอดขวางออกไปเพื่อให้เจ้าของบ้านเข้าออกได้และมีการย้ายรถยนต์ออกไปก็จะไม่ถือว่าเป็นความผิด แต่ในทางกลับกันหากเมื่อเจ้าของบ้านได้ขอให้ขยับรถออกจากหน้าบ้าน แต่เจ้าของรถยนต์กลับเมินเฉยไม่สนใจและไม่ขยับรถออกไปหน้าบริเวณหน้าบ้านเช่นนี้ อาจเข้าข่ายกระทำความผิดในมาตรา 397 เพราะถือว่าเป็นการรังแกข่มเหงให้เจ้าของบ้านเกิดความเดือดร้อนรำคาญ   ซึ่งเรื่องนี้เคยมีการฟ้องร้องเป็นคดีสู่ศาลจนเกิดแนวคำพิพากษาเป็นคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1908/2518 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1908/2518         จำเลยจอดรถขวางกั้นไม่ให้โจทก์ถอยรถออกไปจากซอยที่เกิดเหตุ เป็นเพียงขัดขวางไม่ให้โจทก์นำรถออกไปได้เท่านั้น ส่วนตัวโจทก์มีอิสระที่จะออกไปจากซอยได้ การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 แต่เป็นการรังแกข่มเหงทำให้โจทก์ได้รับความเดือดร้อนรำคาญ แม้ซอยนั้นจะอยู่ในที่ดินของผู้มีชื่อซึ่งแบ่งให้ผู้อื่นเช่าปลูกบ้าน แต่ประชาชนก็ชอบที่จะเข้าออกไปติดต่อกับผู้ที่อยู่ในซอยนั้นได้ ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำในที่สาธารณสถาน จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397         นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายจราจร ที่กำหนดว่าผู้ขับขี่จะจอดรถก็ต้องระมัดระวัง ไม่ไปจอดในพื้นที่ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายกับผู้อื่น ดังนั้น การจอดรถขวางทางเข้าออกบ้านคนอื่น จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 55 (6) ซึ่งบัญญัติว่า มาตรา 55 ห้ามมิให้ผู้ขับขี่หยุดรถ 1. ในช่องเดินรถ เว้นแต่หยุดชิดขอบทางด้านซ้ายของทางเดินรถในกรณีที่ไม่มีช่องเดินรถประจำทาง 2. บนทางเท้า 3. บนสะพานหรือในอุโมงค์ 4. ในทางร่วมทางแยก 5. ในเขตที่มีเครื่องหมายจราจรห้ามหยุดรถ 6. ตรงปากทางเข้าออกของอาคารหรือทางเดินรถ 7. ในเขตปลอดภัย ซึ่งหากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท         อย่างไรก็ตามแม้การที่มีผู้อื่นมาจอดรถขวางหน้าบ้านของเราจะถือเป็นความผิดต่อกฎหมาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เจ้าของบ้านเกิดสิทธิที่จะทำลายหรือทำให้รถยนต์ที่จอดขวางหน้าบ้านได้รับความเสียหาย อย่างเช่นในอดีตที่มีข่าวป้าทุบรถและถูกเจ้าของรถดำเนินคดีซึ่งในคดีดังกล่าวศาลก็ตัดสินว่าเป็นการกระทำผิดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ที่ระบุว่าผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ           ดังนั้นสำหรับเจ้าของรถหากมีความจำเป็นที่จะต้องจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่นเพื่อทำธุระ ควรทิ้งเบอร์ติดต่อไว้ที่หน้ารถเผื่อมีกรณีฉุกเฉินหรือเจ้าของบ้านต้องการให้ขยับรถของจากหน้าบ้าน เจ้าของบ้านจะได้ติดต่อได้สะดวก ส่วนเจ้าของบ้านหากพบว่ามีรถจอดขวางหน้าบ้านก็ควรติดต่อเจ้าของรถแจ้งเตือนหรือบอกกล่าวให้รับทราบในกรณีเจอรถจอดขวางหน้าบ้านหรือติดป้ายประกาศห้ามจอดที่รั้วประตูบ้าน พร้อมระบุข้อความแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับรถที่ผ่านมาได้ทราบ และหากไม่ได้รับความร่วมมือในการย้ายรถออกก็ควรไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายอันเป็นการใช้สิทธิที่ชอบธรรมตามที่มีกฎหมายรับรองไว้

อ่านเพิ่มเติม >